การบริหารการคลังท้องถิ่นระดับเทศบาลในเขตเมืองและเขตภูมิภาค
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อสังเคราะห์งานวิจัยการบริหารการคลังท้องถิ่นจากฐานข้อมูลของกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) และ 2) เพื่อศึกษาข้อมูลภาคสนามโดยอาศัยข้อมูลจากการสังเคราะห์ปัญหาเกี่ยวกับการบริหารการคลังท้องถิ่นจากฐานข้อมูล อันประกอบด้วย ด้านรายได้ ด้านรายจ่าย และด้านหนี้สาธารณะ โดยการเปรียบเทียบระหว่างเทศบาลในเขตเมืองเช่น เทศบาลปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี กับเทศบาลตำบลเขาคิริส จังหวัดกำแพงเพชร งานวิจัยนี้เป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพ ใช้การสัมภาษณ์และการสนทนากลุ่มกับสัมภาษณ์เชิงลึกบุคลากรท้องถิ่นระดับต่างๆ เช่น รองนายกเทศมนตรี ที่ปรึกษานายกเทศมนตรี และเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบการคลัง แห่งละ 10 คน รวม 20 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหาเพื่อให้ได้ข้อมูลที่อิ่มตัว ผลการวิจัยพบว่า ชุดงานวิจัยที่เน้นการสนับสนุนระบบการคลังท้องถิ่นระดับเทศบาล แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ 1) ประเภทงานวิจัยที่สนับสนุนระบบการคลังท้องถิ่นด้านการจัดเก็บภาษี 2) ประเภทการสนับสนุนระบบการคลังท้องถิ่นด้วยเครื่องมือต่างๆ และชุดงานวิจัยที่เน้นการสนับสนุนการกระจายอำนาจทางการคลังท้องถิ่นระดับเทศบาลแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ 1) ประเภทที่สนับสนุนการกระจายอำนาจทางการคลังด้านรายรับและรายจ่ายและหนี้สาธารณะ 2) ประเภทที่สนับสนุนการกระจายอำนาจทางการคลังด้านการปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดการ และการบริหารการคลังท้องถิ่นระดับเทศบาลนครปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี และเทศบาลตำบลเขาคิริส จังหวัดกำแพงเพชร พบว่า แหล่งที่มาของรายได้ อิทธิพลทางการเมือง ศักยภาพของผู้จัดเก็บภาษี และการใช้เครื่องมือในการจัดเก็บภาษีตามสภาพเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม รวมถึงการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในการจัดการกับภาษีที่จัดเก็บได้เกิดประโยชน์สูงสุดจะช่วยให้เทศบาลนครปากเกร็ดนนทบุรีมีประสิทธิภาพกว่าที่เทศบาลตำบลเขาคิริส สำหรับการใช้จ่ายเนื่องจากเทศบาลตำบลเขาคิริสตั้งอยู่ในเขตภูมิภาค อีกทั้งแหล่งที่มาของรายได้ก็มีน้อยกว่าเทศบาลนครปากเกร็ด อิทธิพลทางการเมืองก็ไม่ซับซ้อนเช่นกับเทศบาลนครปากเกร็ด แต่ก็มีการใช้จ่ายงบประมาณเช่นเดียวกันคือตามแผนและระเบียบของกระทรวงมหาดไทย อย่างไรก็ตามการแก้ไขปัญหาอันเกิดจากเขตเมืองมีความรุนแรงและซับซ้อนกว่า ทำให้การเบิกจ่ายงบประมาณขาดการยืดหยุ่น และการก่อหนี้สาธารณะยังเป็นเรื่องใหม่ของสังคมไทย การขาดความรู้ในการก่อหนี้สาธารณะเพื่อนำมาใช้ดำเนินการในกิจการสาธารณะของเทศบาลมีความแตกต่างกันในเรื่องของการมีบุคลากรผู้เชี่ยวชาญเรื่องหนี้สาธารณะ การก่อหนี้สาธารณะของเทศบาลนิยมก่อหนี้สาธารณะในสถาบันการเงินของรัฐบาลเป็นส่วนใหญ่ ทำให้เกิดข้อจำกัดมากมายในการเข้าถึงสินเชื่อเพื่อนำมาใช้จ่ายในกิจการสาธารณะ ดังนั้น หากมีการศึกษาการก่อหนี้สาธารณะที่เพิ่มมูลค่าให้กับการบริการสาธารณะให้มีประสิทธิภาพย่อมทำให้หนี้มีความจำเป็นในการพัฒนาท้องถิ่นให้เข้มแข็งและยั่งยืน จึงควรมีการศึกษาความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ร่วมด้วย