ความพร้อมในการเรียนรู้ออนไลน์ของนักศึกษาระดับปริญญาตรีมหาวิทยาลัยในกรุงเทพมหานคร ท่ามกลางการระบาดของไวรัสโควิด-19

Main Article Content

ลัดดาวัลย์ คงสมบูรณ์

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาความพร้อมในการเรียนรู้ออนไลน์ของนักศึกษาในมหาวิทยาลัย 2) ศึกษาปัจจัยและประสบการณ์การเรียนรู้ออนไลน์ของนักศึกษาที่มีผลต่อความพร้อมสำหรับการเรียนรู้ 3) ศึกษาวิธีการที่นักศึกษาต้องการในการเรียนรู้ออนไลน์และความต้องการที่จะใช้การเรียนรู้ออนไลน์ นอกจากนี้ยังศึกษาความท้าทายที่นักศึกษาต้องพบเจอในการเรียนรู้ออนไลน์ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักศึกษาที่ตอบแบบสอบถาม จำนวน 399 คน โดยใช้วิธีการสุ่มอย่างง่ายในหลักสูตรการเรียนรู้ออนไลน์จาก 4 มหาวิทยาลัย ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าธนบุรี มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี มหาวิทยาลัยธนบุรี และมหาวิทยาลัยรามคำแหง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบสอบถามออนไลน์โดยใช้ Google Form 2) แบบสอบถาม Online Readiness Scale (OLRS) 3) สื่อออนไลน์ต่าง ๆ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าที t-test แบบ Independent Sample


ผลการวิจัย พบว่า 1) ด้านความพร้อมในการเรียนรู้ออนไลน์ นักศึกษาหญิงมีความพร้อมมากกว่านักศึกษาชาย เช่นเดียวกับนักศึกษาระดับชั้นปีที่ 3-4 เมื่อเทียบกับนักศึกษาชั้นปีที่ 1-2 2) ปัจจัยและประสบการณ์ในความท้าทายที่สุดสำหรับนักศึกษาชั้นปีที่ 1-2 คือ การทำความเข้าใจเนื้อหาของวิชา สำหรับนักศึกษาระดับชั้นปีที่ 3-4 คือ การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต โดยผู้วิจัยได้มีข้อเสนอแนะว่าในอนาคตรัฐบาล บริษัท โทรคมนาคมและมหาวิทยาลัยควรลงทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตทั่วประเทศ เนื่องจากการเรียนรู้ออนไลน์จะเป็นบรรทัดฐานใหม่ในอนาคตอันใกล้ นอกจากนี้มหาวิทยาลัยยังต้องจัดให้มีการฝึกอบรมเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มพูนทักษะการสอนออนไลน์ของอาจารย์ นักวิชาการเพื่อให้แน่ใจว่าสามารถสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ 3) นักศึกษาส่วนใหญ่ชอบการเรียนรู้ออนไลน์ผ่านการบรรยายที่บันทึกไว้ล่วงหน้าและมากกว่าครึ่งหนึ่งของนักศึกษาระบุว่าหากเลือกได้ไม่ต้องการเรียนรู้ออนไลน์ต่อไปในอนาคต

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย (research article)

เอกสารอ้างอิง

กมลชนก แก้วทอง. (ม.ป.ป.). กระบวนการจัดการเรียนการสอน E-learning แบบออนไลน์. สืบค้นเมื่อ 26 พฤษภาคม 2563 จาก https://sites.google.com/site/kamonchanok561031350/krabwnkarcadkar-reiyn-kar-sxn-e-learning-baeb-xxnlin.

กรุงเทพธุรกิจ (2563). ไวรัสโคโรน่า (COVID-19). สืบค้นเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2563 จาก https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/871151.

จีระวัฒน์ ยุวอมรพิทักษ์. (2544). ลักษณะการเรียนรู้ ด้วยตนเองของนักศึกษาชันปริญญาตรีมหาวิทยาลัยรามคําแหงสาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติ. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยรามคําแหง.

สุภมาส ทองใส. (2535). ลักษณะการเรียนรู้ ด้วยการนําตนเองของผู้เรียนนอกระบบโรงเรียนประเภท อาชีวศึกษา สังกัดสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน. วิทยานิพนธ์ ครุศาสตรมหาบัณฑิต (การศึกษานอกโรงเรียน), บัณฑิตวิทยาลัย, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

เสาวคนธ์ วงศ์ศุภชัยนิมิต. (2546). การสังเคราะห์งานวิจัยเกี่ยวกับลักษณะการเรียนรู้ด้วยการนําตนเองของผู้ใหญ่. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต (การศึกษาผู้ใหญ่), บัณฑิตวิทยาลัย.มหาวิทยาลัยบูรพา.

Chung, E., Noor, N. M., & Vloreen Nity Mathew. (2020). Are You Ready? An Assessment of Online Learning Readiness among University Students. International Journal of Academic Researchin Progressive Education and Development, 9(1), 301-317.

Hung, M. L., Chou, C., Chen, C. H., Own. Z. Y. (2010). Learner readiness for online learning: cale development and student perception. Computers & Education, 55(2010), 1080-1090. Doi: 10.1016/j.compedu.2020.05.004.

Tam, G. & El-Azar, D. (2020). 3 ways the coronavirus pandemic could reshape education. The World Economic Forum COVID Action Platform. Retrieved from https://www.weforum.org/agenda/2020/03/3-ways-coronavirus-is-reshaping-education-andwhat-changes-might-be-here-to-stay.