ผลของการจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะตามแนวคิดคาร์ล ออร์ฟ ที่มีต่อความคิดสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย โรงเรียนบ้านบางน้ำจืด จังหวัดสมุทรสาคร
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบความคิดสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัยก่อนและหลัง การจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะตามแนวคิดคาร์ล ออร์ฟ ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือ เด็กปฐมวัยอายุระหว่าง 4 - 5 ปี กำลังศึกษาอยู่ชั้นอนุบาลปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 ที่โรงเรียนบ้านบางน้ำจืด ในจังหวัดสมุทรสาคร จำนวน 2 ห้องเรียนรวมทั้งสิ้น 40 คน เลือกกลุ่มตัวอย่างโดยวิธีการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม ได้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1 ห้องเรียนเป็นเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 2/2 จำนวน 20 คน การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง ใช้แบบแผนการวิจัยกลุ่มเดียวทดสอบก่อนและหลังการทดลอง ระยะเวลาในการทดลอง 8 สัปดาห์ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ แผนการจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะตามแนวคิดของคาร์ล ออร์ฟ และแบบทดสอบความคิดสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัยที่มีค่าความเชื่อมั่นที่ .86 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบน-มาตรฐาน หาคุณภาพของเครื่องมือ ได้แก่ ค่าความสอดคล้อง (IOC) ความยากง่าย (P) ค่าอำนาจจำแนก (B) ค่าความเชื่อมั่นโดยใช้สูตรจากสูตร KR - 20 และสถิติทดสอบสมมติฐานคือ ค่าทีที่ไม่เป็นอิสระจากกัน
ผลการวิจัยพบว่าเด็กปฐมวัยมีความคิดสร้างสรรค์ภายหลังได้รับการจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะตามแนวคิดคาร์ล ออร์ฟ สูงกว่าก่อนได้รับการจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะตามแนวคิดคาร์ล ออร์ฟอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
ตฤณ แจ่มถิ่น. (2561). เด็กปฐมวัยกับการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ (Creativity in Early Childhood Development). สาขาวิชาการศึกษาปฐมวัย คณะศึกษาศาสตร์. มหาวิทยาลัยจันทรเกษม.
เทพรัตน์ พานิชยิ่ง. (2553). ผลของการใช้กิจกรรมดนตรีตามแนวคดของออร์ฟ ที่มีต้อความคิด สร้างสรรค์ของนักเรียนระดับปฐมวัย โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร (ฝ่ายประถม) เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร. ปริญญานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต, สาขาจิตวิทยาการศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนคริทรวิโรฒ.
ธวัชชัย ศรีเทพ, ชลาธิป สมาหิโต, และปัทมา เล่ห์มงคล. (2558). การจัดประสบการณ์ดนตรีตามแนวคิคคาร์ล ออร์ฟ เพื่อพัฒนาทักษะทางสังคม – อารมณ์ของเด็กออทิสติกในระดับปฐมวัย. วารสารศึกษาศาสตร์ปริทัศน์. 32(2), 110-112.
เกตุมณี เหมรา และชลาธิป สมาหิโต. (2559). การจัดกิจกรรมสะเต็มศึกษาเรื่องของดีเมืองร้อยเอ็ดเพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาของเด็กปฐมวัย. วารสารศึกษาศาสตร์ปริทัศน์. 31(3), 153-160.
ประจักษ์ ปฏิทัศน์. (2562). การคิดเชิงระบบและความคิดสร้างสรรค์. สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย: กรุงเทพมหานคร.
ยุภาดี ปณะราช. (2565). สถิติเพื่อการวิจัยทางการศึกษา (Statistics For Research Education). (ตีพิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
โรงเรียนบ้านบางน้ำจืด. (2564). รายงานการประชุมกรรมการบริหารสถานศึกษาโรงเรียนบ้านบางน้ำจืด ครั้งที่ 6 ประจำปีการศึกษา 2564. สมุทรสาคร: โรงเรียนบ้านบางน้ำจืด.
ศุภรักษ์ ฮามคำไพ, ณรงค์ฤทธิ์ อินทนาม และธิดารัตน์ จันทะหิน. (2563). การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 กลุ่มเครือข่ายสถานศึกษาที่ 14. วารสารวิจัยและประเมินผลอุบลราชธานี, 9(2), 140-148.
สุปรีดา นาพี. (2563). การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ โดยใช้ชุดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมความคิดสร้าง สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2. วารสารเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษาคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 3(8), 96-106.
อารี พันธ์มณี. (2547). ฝึกคิดให้เป็น คิดให้สร้างสรรค์. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์ใยไหม.
อัญชลี ไสยวรรณ และวรดี เลิศไกร. (2564). เอกสารประกอบการสอน วิชาการจัดประสบการณ์ การเรียนรู้สำหรับเด็กปฐมวัย. คณะจิตวิทยา มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต.
Guilford. (1959). Personnality. New York: Mcgran Hill Book Company.
Guilford. (1967). The Nature of Human Intelligence. New York: McGraw-Hill Book Co.
Torrance, E. P. (1969). Rewarding creative behavior: Experiment in classroom creativity. Englewood Cliffs, NJ: Prentice-Hall.