รูปแบบความได้เปรียบทางการแข่งขันของผู้ประกอบการธุรกิจดอกไม้ประดิษฐ์ในประเทศไทย

Main Article Content

สุรางค์รัตน์ วรรัตน์
บุรพร กำบุญ
สุชาติ ปรักทยานนท์
ฐนันวริน โฆษิตคณิน

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความได้เปรียบทางการแข่งขันของผู้ประกอบการธุรกิจดอกไม้ประดิษฐ์ ในประเทศไทย 2) เพื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของสมการโครงสร้างที่มีอิทธิพลต่อความได้เปรียบทางการแข่งขันของผู้ประกอบการธุรกิจดอกไม้ประดิษฐ์ ในประเทศไทย 3) เพื่อสร้างรูปแบบความได้เปรียบทางการแข่งขันของผู้ประกอบการธุรกิจดอกไม้ประดิษฐ์ ในประเทศไทย


การวิจัยนี้เป็นการวิจัยแบบวิธีผสมผสาน (Mixed Methods Research) ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้นภูมิ จากประชากรจำนวน 2,828 คน โดยกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างตามเกณฑ์ของแฮร์ และคณะ ซึ่งกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้ประกอบการ และผู้บริหาร จำนวน 340 คน และการวิจัยเชิงคุณภาพใช้วิธีการสุ่มแบบเจาะจง จำนวน 15 คน ได้แก่ ผู้ประกอบการ และผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์โมเดลสมการโครงสร้างโดยโปรแกรมลิสเรล


ผลการวิจัย พบว่า (1) เมื่อพิจารณาอิทธิพลของตัวแปร คุณลักษณะของความเป็นผู้ประกอบการ การจัดการลูกค้าสัมพันธ์ ความได้เปรียบทางการแข่งขันของธุรกิจดอกไม้ประดิษฐ์ในประเทศไทย ตามปัจจัยที่ศึกษานั้น การจัดการลูกค้าสัมพันธ์ มีอิทธิพลทางตรงเชิงบวกต่อความได้เปรียบทางการแข่งขัน มีค่าอิทธิพลทางตรงเท่ากับ 0.241 คุณลักษณะความเป็นผู้ประกอบการ มีอิทธิพลทางตรงเชิงบวกต่อความได้เปรียบทางการแข่งขัน มีค่าอิทธิพลเท่ากับ 0.033 คุณภาพการบริการ มีอิทธิพลทางตรงเชิงบวกต่อความได้เปรียบทางการแข่งขัน มีค่าอิทธิพลทางตรงเท่ากับ 0.772 การจัดการลูกค้าสัมพันธ์ มีอิทธิพลทางตรงเชิงบวกต่อความได้เปรียบทางการแข่งขัน โดยผ่านคุณภาพการบริการ มีค่าอิทธิพลทางตรงเท่ากับ 0.241 และค่าอิทธิพลทางอ้อมเท่ากับ 0.469 คุณลักษณะความเป็นผู้ประกอบการ มีอิทธิพลทางตรงเชิงบวกต่อความได้เปรียบทางการแข่งขัน โดยผ่านคุณภาพการบริการ มีค่าอิทธิพลทางตรงเท่ากับ 0.033 และค่าอิทธิพลทางอ้อมเท่ากับ 0.334 (2) รูปแบบความได้เปรียบทางการแข่งขันของผู้ประกอบการธุรกิจดอกไม้ประดิษฐ์ ในประเทศไทยได้แก่ การจัดการลูกค้าสัมพันธ์ คุณลักษณะความเป็นผู้ประกอบการ คุณภาพการบริการ และความได้เปรียบทางการแข่งขันของผู้ประกอบการ และ (3) ความได้เปรียบทางการแข่งขันของผู้ประกอบการ มีอิทธิพลทางบวกต่อความได้เปรียบทางการแข่งขันของผู้ประกอบการธุรกิจดอกไม้ประดิษฐ์ ในประเทศไทย ค่าดัชนีวัดระดับความสอดคล้องของโมเดลจําลองสมการเชิงโครงสร้างมีความเหมาะสมกลมกลืนกับข้อมูลเชิงประจักษ์ gif.latex?x2= 234.613, df = 95, gif.latex?x2  / df = 2.469, p-value = 0.0517, CFI = 0.980, TLI = 0.971, RMSEA = 0.065 และ SRMR = 0.022 และความได้เปรียบทางการแข่งขันของผู้ประกอบการธุรกิจดอกไม้ประดิษฐ์ ในประเทศไทย มีความเชื่อมโยงซึ่งกันและ‍กัน

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย (research article)

เอกสารอ้างอิง

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์. (2565). สถิติการจดทะเบียนนิติบุคคลคงอยู่ในประเทศไทย.สืบค้นเมื่อ 1 มกราคม 2566 จาก http://datawarehouse.dbd.go.th/bdw/menu/est/1.html.

บุญชม ศรีสะอาด. (2561). หลักการวิจัยเบื้องต้น. (พิมพ์ครั้งที่ 9). กรุงเทพฯ: สุวิริยาสาส์น.

สุภมาส อังศุโชติ และคณะ. (2561). สถิติวิเคราะห์สำหรับการวิจัยทางสังคมศาสตร์และพฤติกรรมศาสตร์:เทคนิคการใช้โปรแกรม LISREL. (พิมพ์ครั้งที่ 3 ฉบับปรับปรุง). กรุงเทพฯ: เจริญดีมั่นคงการพิมพ์.

สุวิมล ติรกานันท์. (2557). ระเบียบวิธีการวิจัยทางสังคมศาสตร์: แนวทางสู่การปฏิบัติ. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

Almasi, F. & Pirzad, A. (2017). The Effect of Intellectual Capital and Knowledge Management on Competitive Advantage: Testing the Mediating Role of Customer Relationship Management. Journal of Economic & Management Perspectives, 11(3), 895-904.

Anwar, M. Khan, S. Z. & Khan, N. U. (2018). Intellectual Capital, Entrepreneurial Strategy and New Ventures Performance: Mediating Role of Competitive Advantage. Business and Economic Review, 10(1), 63-93.

Atilla, A. (2006). Measuring service quality in the hotel industry: A study in a business hotel in Turkey. International Journal of Hospitality Management, 25, 170-192.

Bryman, A. & Bell, E. (2001). Business Research Methods. (3rd ed.). (n.p): Oxford University.

Cui, Y., Sun, C., Xiao, H. and Zhao, C. (2016). How to become an excellent entrepreneur: The moderating effect of risk propensity on alertness to business ideas and entrepreneurial capabilities. Technological Forecasting and Social Change, 112, 171-177.

Ebrahimi, E., Fathi, M. R. & Irani, H. R. (2016). A new hybrid method based on fuzzy Shannon's Entropy and fuzzy COPRAS for CRM performance evaluation (Case: Mellat Bank). Iranian Journal of Management Studies, 9(2), 333-358.

Hair, J. F., Black, W. C., Babin, B. J., & Anderson, R. E. (2010). Multivariate data Analysis: A Global Perspective. (7th ed.). New Jersey: Pearson Education Inc.

Hatten, T. S. (2006). Small Business Management: Entrepreneurship and Beyond. (3rd ed.). Boston: Houghton Mifflin.

Jones, G. R. & George, M.J. (2003). Contemporary management. (9th ed.). New York: McGraw-Hill.

Mohammed, A. A. & Rashid, B. (2012). Customer Relationship Management: CRM in Hotel Industry: A Framework Proposal on the Relationship among CRM Dimensions, Marketing Capabilities, and Hotel Performance. International Review of Management and Marketing, 2(4), 220-230.

Morales, G. & Silvia, T. (2015). Factors of the entrepreneur's profile and the service quality management that influence firm survival. Barranquilla Jouranl, 38, 176-207.

Oztaysi, B. et al. (2011). A Measurement Tool for Customer Relationship Management Processs. Industrial Management & Data Systems, 11(6), 943-960.

Pantouvakis, A. & Mpogiatzidis, P. (2013). The impact of internal service quality and learning organization on clinical leaders' job satisfaction in hospital care services. Leadership in Health Services. Bradford, 26(1), 34-49.

Patel, N. & Bhatt, N. (2017). An Empirical Study on Integration of Seroquel and Kano Model for Measuring Service Quality of Hospitals in Ahmedabad. Indian Journal of Commerce and Management Studies, 8(3), 77-95.

Smith, D. (2006). Exploring Innovation. Berkshire: McGraw-Hill Education.

Tseng, S. (2016). Knowledge management capability, customer relationship management, and service quality. Journal of Enterprise Information Management, 29(2), 202-221.