โครงสร้างการบริหารงานและความสามารถในการทำกำไรส่งผลต่อการวางแผนภาษีของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย: กลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร

Main Article Content

ราตรี ขจรบุญ
มัตธิมา กรงเต้น

บทคัดย่อ

การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาอิทธิพลของโครงสร้างการบริหารงานที่มีต่อการวางแผนภาษีของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร และ (2) ศึกษาอิทธิพลของความสามารถในการทำกำไรที่มีต่อการวางแผนภาษีของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร การวิจัยเป็นการวิจัยเชิงปริมาณ โดยใช้ข้อมูลทุติยภูมิจากงบการเงินประจำปี พ.ศ. 2563–2567 ของบริษัทจดทะเบียนในกลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากรที่มีข้อมูลครบถ้วนและต่อเนื่อง จำนวน 61 บริษัท ตัวแปรการวางแผนภาษีวัดจากอัตราภาษีต่อกระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลที่แท้จริง อัตราภาษีต่อสินทรัพย์รวม และอัตราภาษีต่อกำไรสุทธิ ตัว‍แปรอิสระประกอบด้วยความสามารถในการทำกำไร ได้แก่ อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ อัตรา‍ผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น และ‍อัตรากำไรสุทธิ รวมถึงโครงสร้างการบริหารงาน ได้แก่ สัดส่วนของกรรมการอิสระ กรรมการเพศหญิง และ‍กรรมการชาวต่างชาติ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนาและการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณ


ผลการศึกษาตามวัตถุประสงค์ข้อที่ (1) พบว่า โครงสร้างการบริหารงานไม่ส่งผลต่อการวางแผนภาษีของบริษัทจดทะเบียนในกลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากรอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ โดยไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างสัดส่วนของกรรมการอิสระ กรรมการเพศหญิง และกรรมการชาวต่างชาติ กับตัวชี้วัดการวางแผนภาษีและผลการศึกษาตามวัตถุประสงค์ข้อที่ (2) พบว่า ความสามารถในการทำกำไรส่งผลต่อการวางแผนภาษีของบริษัทจดทะเบียนในกลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากรอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์และอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น ซึ่งมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับอัตราภาษีต่อกระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงานและอัตราภาษีต่อสินทรัพย์รวม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 ผล‍การศึกษาสะท้อนให้เห็นว่า บริษัทที่มีความสามารถในการทำกำไรสูงมีแนวโน้มรับรู้ภาระภาษีในระดับที่‍สูงกว่า

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย (research article)

เอกสารอ้างอิง

กัลยา ตันมณี, ธนธร จงศิริฐิติศักดิ์, & ณัฐวุฒิ ปัทมาคม. (2567). การศึกษาความสามารถในการทำกำไรที่ส่งผลต่อคุณภาพกำไรของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย. วารสารสุทธิปริทัศน์, 38(4), 70–86.

จรรยา ครองบุญ และกุสุมา ดำพิทักษ์. (2564). โครงสร้างผู้ถือหุ้น ความสามารถในการทำกำไร และโครงสร้างเงินทุนที่มีผลต่อการวางแผนภาษีของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย: กลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง. Journal of Management Science Nakhon Pathom Rajabhat University, 8(2). 257-269.

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย. (2566). รายงานอุตสาหกรรมทรัพยากรในตลาดทุนไทย. สืบค้นเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2568 จาก https://www.set.or.th.

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย. (2567). ระบบภาษีและผลกระทบต่อบริษัทจดทะเบียน. สืบค้นเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2568 จาก https://www.set.or.th.

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย. (2568). การจัดกลุ่มอุตสาหกรรมและหมวดธุรกิจ อุตสาหกรรมทรัพยากร. สืบค้นเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2568 จาก https://www.set.or.th/th/regulations/simplified_ regulations/industry_sector_p1.html.

สุพรรษา พรมกุล และพรทิวา แสงเขียว. (2565) อิทธิพลของความสามารถในการทำกำไร ประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และการบริหารสินค้า ที่ส่งผลต่อการวางแผนภาษีเงินได้นิติบุคคลของกลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ที่ได้รับส่งเสริมลงทุนในเขตอุตสาหกรรมภาคตะวันออก. Journal of Modern Learning Development, 7(10), 236-254.

Callista, V. A., Siahaan, M., & Nauli, T. D. (2024). Tax avoidance and firm characteristics: Evidence from non-financial firms listed on the Indonesia Stock Exchange. International Journal of Financial Research, 15(2), 45–60.

Desai, M. A., & Dharmapala, D. (2006) Corporate tax avoidance and firm value. The Review of Economics and Statistics, 88(4), 520-531.

Jensen, M. C. & Meckling, W.H. (1976). Theory of the Firm: Managerial Behavior, Agency Costs and Ownership Structure. Journal of Financial Economics, 3, 305-360.

Khaoula, F. & Moez, D. (2019). The moderating effect of the board of directors on firm value and tax planning: Evidence from European listed firms. Borsa Istanbul Review. 19.10.1016/j.bir.2019.07.005.

Lanis, R., & Richardson, G. (2012). The effect of board of director composition on corporate tax aggressiveness. Journal of Accounting and Public Policy, 30(1), 50–70.