ลัทธิอนาคตวงศ์ : พุทธศาสนาประชานิยมยุคต้นรัตนโกสินทร์

ผู้แต่ง

  • ศรัณย์ ทองปาน คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร

คำสำคัญ:

พระพุทธศาสนา, สมัยรัตนโกสินทร์, ลัทธิอนาคตวงศ์

บทคัดย่อ

ในช่างต้นสมัยรัตนโกสินทร์ มีหลักฐานระบุในพระราชพงศาวดาร ว่ามีการเผาตัวตาย เพื่อมุ่งหมายการตรัสรู้ในพุทธศาสนาสองราย คือนายบุญเรือง (หรือเรือง) ในปี พ.ศ. 2333 และนายนก ในปี พ.ศ. 2360 แต่จากหลักฐานร่วมสมัย ปรากฏว่าในช่วงใกล้เคียงกันนั้น ยังมีบุคคลอื่นที่เผาตัวตายด้วยวัตถุประสงค์ทางศาสนาอีกอย่างน้อยสองราย เป็นสามเณรและนางชี รวมทั้งมีบันทึกถึงความนิยมในการเชือดเนื้อเอาเลือดมาเป็นน้ำมันจุดตะเกียง หรือเอาดาบแทงตัวเอง เพื่อบูชาพระพุทธเจ้าก็มี โดยผู้ที่กระทำเช่นนี้ มีตั้งแต่ระดับชาวบ้าน นักบวช ไปจนถึงสมาชิกชั้นสูงในพระราชวงศ์

เรื่องทำนองนี้อาจดู “นอกรีต” ในสายตาพุทธศาสนิกชนยุคปัจจุบัน ทว่าอย่างน้อยในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ การกระทำเช่นนี้เป็นสิ่งที่ยอมรับได้ และถือเป็นกรณียกิจอันควรยกย่อง

ที่มาของการบูชา “ด้วยเลือดด้วยเนื้อ” เหล่านี้ น่าจะมาจากความเชื่อที่แพร่หลายเกี่ยวกับพระพุทธเจ้า 10 พระองค์ที่จะมาตรัสรู้ในอนาคต ดังที่ระบุไว้ในคัมภีร์ อนาคตวงศ์ เรื่องราวของพระอนาคตพุทธเจ้าใน อนาคตวงศ์ นั้น ล้วนแล้วแต่บำเพ็ญกุศลอย่างเด็ดขาดรุนแรง เช่นตัดศีรษะ หรือเผาศีรษะของตัวถวายเป็นพุทธบูชา

เรื่องราวเหล่านี้ อาจสร้างมาตรฐานและเป็นต้นแบบของการนับถือพุทธศาสนาในยุคนั้น ในระดับที่ถือเป็น “ลัทธิ” ได้เลยทีเดียว เราอาจเรียกลัทธินี้ตามนามของคัมภีร์สำคัญได้ว่าเป็น “ลัทธิอนาคตวงศ์” ซึ่งเป็นพุทธศาสนาประชานิยมในยุคต้นสมัยกรุงเทพฯ ก่อนที่จะถูกเบียดขับและทำให้ลืมเลือน ด้วยกระแส “เหตุผลนิยม” ของพุทธศาสนา “สมัยใหม่” เช่นธรรมยุติกะนิกาย ที่เฟื่องฟูขึ้นตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 25 เป็นต้นมา

ดาวน์โหลด

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความ