Burial Practices in Dvaravati Culture: Similarities and Differences to Prehistoric Period
Keywords:
Burial practice, Mortuary practices, Dvaravati periodAbstract
This article aims to study burial in Dvaravati culture by analyzing burial practices, as well as comparing it with the prehistoric period to show the common features and differences in burial practice. The relationship between burial practice and attributes of burial were sex, age at death, artefacts found with burials, and head orientation.
The study found that during the Dvaravati period, the burial could be divided into 2 mortuary phases; the first mortuary phase (6th-9th century) and the second mortuary phase (10th-11st century). In both phases, various burial poses were found similar to the prehistoric period. The most common burial practice is extended, head oriented to the west, and no artefacts are found with burials, a distinctive feature in Dvaravati culture. It was also found that sub-attributes of those burials were independent from burial patterns.
In the Dvaravati period, the burial traditions such as sprinkling red ochre or placing the body on sherd sheets were not found like in the prehistoric period, but there were burials found alongside Buddhist monuments in some archaeological sites. However, burials were still found until the late Dvaravati period, along with cremation.
References
ภาษาไทย
กรมศิลปากร, 2540. วัดชมชื่น. กรุงเทพฯ: สำนักนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม กรมศิลปากร.
เกษินี โชยติรส, 2515. “วัฒนธรรมสมัยหินใหม่ที่บ้านเก่า.” วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรบัณฑิต (โบราณคดี) คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร.
จารึก วิไลแก้ว, 2534. โบราณคดีเมืองอู่ตะเภา. กรุงเทพฯ: กองโบราณคดี กรมศิลปากร.
จีราวรรณ แสงเพ็ชร์, 2552. “ระบบการจัดและประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุในประเทศไทย.” วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต (โบราณคดีสมัยประวัติศาสตร์) ภาควิชาโบราณคดี คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ชิน อยู่ดี, 2559. “รายงานการขุดค้นแหล่งโบราณคดีที่บ้านดอนตาเพชร หมู่ที่ 6 ต.พนมทวน อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี พ.ศ. 2518-2519.” ใน ภาควิชาโบราณคดี (บรรณาธิการ), ASEAN Archaeologies in the 21st century: The first international symposium in honor of professor Chin You-Di (หน้า 96-114). กรุงเทพฯ: ห้างหุ้นส่วนจำกัดเรือนแก้วการพิมพ์.
เซเดส์, ยอร์ช, 2507. ตำนานอักษรไทย ตำนานพระพิมพ์ที่พงตึกและความสำคัญต่อประวัติศาสตร์สมัยโบราณแห่งประเทศไทย ศิลปะไทยสมัยสุโขทัย ราชธานีรุ่นแรกของไทย. กรุงเทพฯ: คุรุสภา.
นฤพล หวังธงชัยเจริญ, 2549. รายงานเบื้องต้น: การขุดค้น-ขุดแต่งทางโบราณคดีโครงการปรับปรุงอาคารหลุมขุดค้นวัดชมชื่น อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัยประจำปีงบประมาณ 2548. สุโขทัย: นอร์ทเทิร์นซัน (1935) จำกัด.
ประพิศ ชูศิริ, 2540. “ผลการวิเคราะห์โครงกระดูกมนุษย์หลุมขุดค้นวัดชมชื่น.” ใน ธาดา สุทธิเนตร และคณะ (บรรณาธิการ), วัดชมชื่น (หน้า 91-128). กรุงเทพฯ: สำนักนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม กรมศิลปากร.
ประพิศ พงศ์มาศ, 2542. “หม้อกระดูก: พิธีกรรมผสมผสานระหว่างยุค.” ศิลปากร 42(4): 78-88.
ผาสุข อินทราวุธ, 2527. “ผลการขุดค้นเมืองโบราณสมัยทวารวดีที่จังหวัดสิงห์บุรีและนครปฐม.” เมืองโบราณ 10 (4): 28-42.
, 2542. ทวารวดี การศึกษาเชิงวิเคราะห์จากหลักฐานทางโบราณคดี. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์อักษรสมัย.
, 2544. รายงานการขุดค้นเมืองโบราณฟ้าแดดสงยาง. นครปฐม: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยศิลปากร.
, 2551. ทวารวดีธรรมจักร. กรุงเทพฯ: ภาควิชาโบราณคดี คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร.
พิมพ์ชนก พงษ์เกษตร์กรรม์, 2552. “พัฒนาการทางวัฒนธรรมของเมืองโบราณดงแม่นางเมือง อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์.” วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (โบราณคดีสมัยประวัติศาสตร์) ภาควิชาโบราณคดี คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ภาควิชาโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร, 2523. การขุดค้นและการศึกษาวัฒนธรรมของชุมชนโบราณที่บ้านคูเมือง อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี. กรุงเทพฯ: ภาควิชาโบราณคดี คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร.
รัศมี ชูทรงเดช และคณะ, 2546. รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ โครงการโบราณคดีบนพื้นที่สูงในอำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน ระยะที่ 2 เล่มที่ 4: การขุดค้นแหล่งโบราณคดีเพิงผาบ้านไร่. กรุงเทพฯ: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.).
วสันต์ เทพสุริยานนท์, 2545. “รายงานผลการขุดค้นทางโบราณคดีที่บ้านนาลาว ตำบลอู่ทอง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี พ.ศ. 2544.” ใน เขมชาติ เทพไชย (บรรณาธิการ), โบราณคดีเมืองอู่ทอง (หน้า127-150). นนทบุรี: สหมิตรพริ้นติ้ง.
วัฒนา สุภวัน, 2529. “การศึกษาโครงกระดูกที่ได้จากการขุดค้นแหล่งโบราณคดี ทัพหลวง คุ้งขี้เหล็ก อู่ทอง ซับจำปาและโคกพนมดี.” วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (โบราณคดีสมัยประวัติศาสตร์) ภาควิชาโบราณคดี คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร.
วีรพันธุ์ มาไลยพันธุ์, 2516. “ซับจำปา.” ใน ดำรงราชานุภาพ: โบราณคดีนิทรรศการ (หน้า 20-26). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์พิฆเณศ.
สถาพร เที่ยงธรรม และธาดา สุทธิเนตร, 2540. “การขุดค้นทางโบราณคดีและการขุดแต่งพื้นที่รอบโบราณสถานวัดชมชื่น.” ใน ธาดา สุทธิเนตร และคณะ (บรรณาธิการ), วัดชมชื่น (หน้า37-81). กรุงเทพฯ: สำนักนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม กรมศิลปากร.
สฤษดิ์พงศ์ ขุนทรง, 2559. เมืองโบราณอู่ทอง ผลการขุดค้นทางโบราณคดีที่เนินพลับพลาปี 2558.กรุงเทพฯ: เปเปอร์เมท.
สันติ์ ไทยานนท์, 2554. “การศึกษาลำดับพัฒนาการวัฒนธรรมทางโบราณคดีเมืองอู่ทอง.” วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (โบราณคดีสมัยประวัติศาสตร์) ภาควิชาโบราณคดี คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร.
สำนักศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา, 2561. รายงานผลการดำเนินการงานจ้างเหมาวิเคราะห์โบราณวัตถุจากการขุดค้นทางโบราณคดีด้วยวิธีวิทยาศาสตร์ แหล่งโบราณคดีบ้านคูเมือง อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี. ม.ป.ท.
สำนักศิลปากรที่ 4 ลพบุรี, 2549. รายงานเบื้องต้นการขุดค้น-ขุดแต่งทางโบราณคดีโบราณสถานในเมืองซับจำปา ตำบลซับจำปา อำเภอท่าหลวง จังหวัดลพบุรี. ม.ป.ท.
, 2552. รายงานการศึกษาทางด้านโบราณคดี แหล่งโบราณคดีดงแม่นางเมือง(DMN’09:M.1) ตำบลเจริญผล อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ (กรณีศึกษาเฉพาะเนินดินนอกเมืองโบราณดงแม่นางเมือง ด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้. กรุงเทพฯ: กรมศิลปากร.
สุกัญญา เบาเนิด, 2553. โบราณคดีในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้. อุบลราชธานี: ห้างหุ้นส่วนจำกัดศิริธรรมออฟเซ็ท.
สุรพล นาถะพินธุ, 2550. รากเหง้าบรรพชนคนไทย พัฒนาการทางวัฒนธรรมก่อนประวัติศาสตร์. กรุงเทพฯ: มติชน.
สุรินทร์ ภู่ขจร, 2534. รายงานเบื้องต้นการขุดค้นที่ถ้ำหมอเขียว จังหวัดกระบี่ ถ้ำซาไก จังหวัดตรังและการศึกษาชาติพันธุ์วิทยาทางโบราณคดี ชนกลุ่มน้อยเผ่าซาไก จังหวัดตรัง. กรุงเทพฯ: โครงการวิจัยวัฒนธรรมโหบินเนียนในประเทศไทย.
สุริยา สุดสวาท, 2561. “ชุมชนก่อนเมืองโบราณศรีเทพ: หลักฐานและความรู้เพิ่มใหม่.” ศิลปากร 61 (2):48-59.
อภิรัฐ เจะเหล่า, 2553. “รายงานเบื้องต้นการขุดกู้โครงกระดูกบริเวณคูเมืองโบราณอู่ทอง.” สุพรรณบุรี: สำนักศิลปากรที่ 2. เอกสารอัดสำเนา.
อิสราวรรณ อยู่ป้อม, 2556. “รูปแบบการฝังศพที่แหล่งโบราณคดีหนองราชวัตร.” ใน สุภมาศ ดวงสกุล (บรรณาธิการ), รวมบทความประกอบการสัมมนาเรื่องโบราณคดีของสังคมเกษตรกรรมจากบ้านเก่าถึงหนองราชวัตร (หน้า 225-330). ปราจีนบุรี: ธุรการเจริญกิจ.
ภาษาต่างประเทศ
Clarke W., 2012. “Return to P’ong Tuk: Preliminary reconnaissance of a seminal Dvaravati site in west-central Thailand.” Master’s dissertation. Center for International Studies, Ohio University.
, 2014. “The Skeletons of Phong Tuek: Human remains in Dvaravati ritual contexts.” In Before Siam essays in art and archaeology (pp.310-329). Bangkok: River Books and The Siam Society.
Higham C. & Bannanurag R., 1990. The excavation of Khok -Phanom Di : Prehistoric site in central Thailand. London: Society of Antiquaries of London.
Moore E., 2007. Early Landscapes of Myanmar. Bangkok: River Books.
Quaritch Wales H.G., 1936. “Further excavations at P'ong Tük (Siam).” Indian Art and Letters 10: 42–48.
Stargardt J., 1990. The ancient Pyu of Burma 1: Early Pyu cities in a man-made landscape. Cambridge: PACSEA, Cambridge in association with the Institute of Southeast Asian Studies, Singapore.
The Fine Arts Department, Thailand, 2010. The origin of the civilization of Angkor: The excavation of Ban Non Wat. The neolithic occupation. Bangkok: The Fine Arts Department.
, 2012a. The origin of the civilization of Angkor: The excavation of Ban Non Wat. The Bronze Age. Bangkok: The Fine Arts Department.
, 2012b. The origin of the civilization of Angkor: The excavation of Ban Non Wat.The Iron Age, Summary and Conclusions. Bangkok: The Fine Arts Department.
White J.C., 1982. Ban Chiang: Discovery of a lost bronze age. Philadelphia: University of Pennsylvania Press.
Yamamoto T., 1979. “East asian historical sources for Dvaravati studies.” Proceeding Seventh IAHA Conference vol.II: 1150-1197.
Downloads
Published
Issue
Section
License
Copyright (c) 2022 Damrong Journal of The Faculty of Archaeology Silpakorn University
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความนี้เป็นผลงานของข้าพเจ้าแต่เพียงผู้เดียว และ/หรือเป็นผลงานของข้าพเจ้าและผู้ร่วมงาน ตามชื่อที่ระบุในบทความจริง และเป็นผลงานที่มิได้ถูกนำเสนอหรือตีพิมพ์ที่ใดมาก่อน