ธรรมดาวิสัยของความรุนแรงกับลักษณะปฏิทรรศน์ของสถานการณ์ทางการเมืองการปกครอง
คำสำคัญ:
การเมือง, การปกครอง, ความรุนแรง, ประวัติศาสตร์บทคัดย่อ
ความรุนแรงมักถูกมองในแง่ของความทารุนโหดร้ายที่เห็นได้ ทั้งในแง่ปริมาณสถิติและในแง่ของความชัดเจนสำคัญทางประวัติศาสตร์ บทความนี้มุ่งไปที่รูปลักษณ์และภาพลักษณ์ของความรุนแรงที่ต่างออกไป เป็นความรุนแรงที่แสดงออกมาในลักษณะที่เป็นไปอย่างปกติธรรมดา ความรุนแรงในรูปแบบดังกล่าวนี้ไม่ได้แสดงออกในลักษณะของความโหดร้ายหรือสยดสยองจากเงื้อมมือมนุษย์ แต่แฝงอยู่ในความเป็น “ธรรมดาวิสัย” ที่แสดงออกมาในหลายๆ รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของวัฏจักรชีวิต เป็นไปตามตัวบทกฎหมาย เป็นส่วนหนึ่งของกลไกทางสังคม เป็นส่วนหนึ่งของการเสียสละทางสังคม เป็นไปตามอำนาจที่ถูกต้องชอบธรรมตามหลักศีลธรรม เป็นเหตุเป็นผลในแง่ของการบริหารจัดการ หรือเป็นความรุนแรงภายใต้สุนทรียภาพของความอ่อนไหวเร้าอารมณ์ ความสงบสุขกลมกลืนรื่นรมย์ ความรุนแรงที่มีลักษณธธรรมดาวิสัยดังกล่าวนั้นยากที่จะชี้ให้เห็น เพราะคามแยบยลในการสร้างภาพ โดยอาศัยการหยิบยืมรูปแบบทางภาษาและสัญลักษณ์ที่มาจากความปกติธรรมดา หรือแม้แต่การนำเอาองค์ประกอบในแง่บวกสำเร็จรูปที่มีอยู่แล้วกลับมาใช้ใหม่ การศึกษานี้จะใช้เป็นแนวทางต่อไปเพื่อทำความเข้าใจลักษณะปฏิทรรศน์ของความรุนแรง กับความเป็นธรรมดาวิสัยผ่านภาพลักษณ์ของสถานการณ์ทางการเมืองและสังคมไทยในปัจจุบัน
แนวคิดนี้ได้รับความสนใจขึ้นมาจากปรากฏการณ์ทางการเมืองและสังคมภายระบอบเผด็จการในหลายรูปแบบ และในหลายช่วงประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการศึกษาในขอบเขตเกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในยุคนาซีเยอรมนีหรือโฮโลคอสต์(Holocaust studies) บทความนี้จะศึกษาถึงแนวคิดดังกล่าวในแง่มุมต่างๆ เช่นสังคมวิทยา ประวัติศาสตร์ วรรณคดีศึกษา และปรัชญา รูปแบบของความเป็นธรรมดาวิสัยเหล่านั้นได้แฝงมาซึ่งความรุนแรง หรืออาจจะเรียกได้ว่าเป็นความรุนแรง “สมัยใหม่” ตามอย่างนักวิชาการหลายท่าน เช่น Hannah Arendt, Zygmunt Bauman, Saul Friedlander และ Giorgio Agamben
ดาวน์โหลด
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความนี้เป็นผลงานของข้าพเจ้าแต่เพียงผู้เดียว และ/หรือเป็นผลงานของข้าพเจ้าและผู้ร่วมงาน ตามชื่อที่ระบุในบทความจริง และเป็นผลงานที่มิได้ถูกนำเสนอหรือตีพิมพ์ที่ใดมาก่อน