วิหารน้ำแต้ม-วิหารพระเจ้าศิลา วัดพระธาตุลำปางหลวง : การเปลี่ยนแปลงนาคทัณฑ์กับข้อสันนิษฐานการกำหนดอายุวิหาร

ผู้แต่ง

  • สุภารัตน์ รจพจน์ นักศึกษาระดับปริญญาโท สาขาวิชาประวัติศาสตร์ศิลปะ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร อีเมล: suparat901@gmail.com https://orcid.org/0000-0003-2975-3009

คำสำคัญ:

วิหาร, นาคทัณฑ์, วิหารน้ำแต้ม, วิหารพระเจ้าศิลา, วัดพระธาตุลำปางหลวง

บทคัดย่อ

วิหารน้ำแต้มและวิหารพระเจ้าศิลามีผังโครงสร้างแบบวิหารล้านนารุ่นเก่า คือตั้งอยู่บนฐานเตี้ย ส่วนฐานและผนังวิหารยกเก็จออกมาด้านหน้า 2 ห้อง ด้านหลัง 1 ห้อง หลังคาลดชั้นตามเก็จวิหาร ส่วนผนังของวิหารน้ำแต้มยังเป็นฝาย้อย(ฝาไม้)เขียนลายจิตรกรรมอันสัมพันธ์กับลายคำประดับเสา ต่างจากวิหารพระเจ้าศิลาที่ใช้คอนกรีตก่อปูนฉาบเรียบ อีกทั้งส่วนประดับหลังคาอย่างช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ และเครื่องลำยองเป็นงานช่างแบบภาคกลาง รวมไปถึงหน้าบันและโกงคิ้ว (รวงผึ้ง) หล่อจากคอนกรีดทั้งหมด จากการศึกษาที่ผ่านมาบ่งชี้ว่าวิหารสองหลังนี้น่าจะมีมาแล้วตั้งแต่ก่อนพุทธศตวรรษที่ 24 โดยวิหารพระเจ้าศิลาอาจสร้างขึ้นพร้อมกับพระธาตุ หรือคราวที่มีการสร้างวิหารพระพุทธและวิหารน้ำแต้ม ส่วนวิหารน้ำแต้มจัดว่าเป็นวิหารรุ่นเก่าที่ศิลปกรรมส่วนใหญ่มีการบูรณะตามแบบแผนเดิม

นักวิชาการได้ให้ความเห็นว่านาคทัณฑ์ประดับวิหารน้ำแต้มและวิหารพระเจ้าศิลา เป็นตัวอย่างศิลปกรรมดั้งเดิมที่สร้างขึ้นพร้อมกับวิหาร และเป็นส่วนโครงสร้างสำคัญที่ได้รับการบูรณะน้อยมาก โดยแบ่งออกเป็นสองแนวคิด คือนาคทัณฑ์วิหารน้ำแต้มมีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 21 และอีกแนวคิดระบุว่าไม่เก่าไปกว่าพุทธศตวรรษที่ 23 ส่วนนาคทัณฑ์วิหารพระเจ้าศิลาสร้างขึ้นหลังวิหารน้ำแต้มเล็กน้อย หรือในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ทั้งนี้ผู้เขียนได้ทำการศึกษาลวดลายต่างๆพบว่านาคทัณฑ์ในปัจจุบันไม่ใช่งานช่างเมื่อแรกสร้าง แต่เป็นงานช่างเมื่อครั้งบูรณะเปลี่ยนเสริมในภายหลัง อันได้แก่ วิหารน้ำแต้มพบนาคทัณฑ์สองช่วง คือไม่เก่าไปกว่าพุทธศตวรรษที่ 23 และพุทธศตวรรษที่ 24 ส่วนนาคทัณฑ์วิหารพระเจ้าศิลาเป็นงานช่างรุ่นหลังวิหารน้ำแต้มชัดเจน คือปลายพุทธศตวรรษที่ 23-24 และยังมีการบูรณะเปลี่ยนแปลงอยู่บ่อยครั้งจนถึงช่วงพุทธศตวรรษที่ 25

เอกสารอ้างอิง

Scott W. Morton, (c2005). China : Its History and Culture. New York : McGraw-Hill.

เปลื้อง ณ นคร, (2516) พจนะ-สารานุกรม ฉบับทันสมัย. กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนาพานิช.

กรมศิลปากร, (2542). ประชุมพงศาวดารฉบับกาญจนาภิเษก เล่ม 2. กรุงเทพฯ : กองวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร.

ณัฏฐภัทร จันทวิช, (2537). เครื่องถ้วยจีนจากแหล่งโบราณคดีในประเทศไทย. กรุงเทพฯ: กรมศิลปากร.

พรรณิภา ปิณฑวณิช, (2549). การศึกษารูปแบบทางสถาปัตยกรรมวัดพระธาตุลำปางหลวง จังหวัดลำปาง วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรม, บัณฑิตวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยศิลปากร.

พระยาประชากิจจักร, (2507). พงศาวดารโยนก. พระนคร : คลังวิทยา.

วรลัญจก์ บุญยสุรัตน์, (2544). วิหารล้านนา. กรุงเทพฯ : ด่านสุทธาการพิมพ์.

วิบูลย์ ลี้สุวรรณ, (2535). พจนานุกรมศัพท์ศิลปกรรมไทย. นนทบุรี : เมืองโบราณ.

ศักดิ์ชัย สายสิงห์, (2551). งานช่าง สมัยพระนั่งเกล้าฯ. กรุงเทพฯ : มติชน.

____________, (2555). วัดพระธาตุลำปางหลวง. กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร.

สมคิด จิระทัศนกุล, (2559). อภิธานศัพท์ช่างสถาปัตยกรรมไทย. กรุงเทพฯ : คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร.

สันติ เล็กสุขุม, (2553). พัฒนาการของลายไทย : กระหนกกับเอกลักษณ์ไทย. กรุงเทพฯ : เมืองโบราณ.

สุรพล ดำริห์กุล, (2559) ลายคำล้านนา. กรุงเทพฯ : เมืองโบราณ.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2022-06-29

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความ