การพัฒนารูปแบบสำหรับกิจกรรมการเรียนรู้แบบมัลติมีเดียบนเทคโนโลยีโมบาย โดยใช้เทคนิคสเปซรีพีททิชัน
Main Article Content
บทคัดย่อ
เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลไทยที่ต้องการเพิ่มโอกาสในการศึกษาให้แก่ประชากรด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ประกอบกับพฤติกรรมการใช้งานโทรศัพท์มือถือที่มีสูงมาก และคุณสมบัติของโทรศัพท์มือถือที่สามารถนำเสนอสื่อมัลติมีเดียได้ดี การวิจัยในครั้งนี้จึงทำการพัฒนารูปแบบสำหรับกิจกรรมการเรียนรู้ที่อยู่ในรูปแบบมัลติมีเดียบนโทรศัพท์มือถือที่ใช้เทคนิคสเปซรีพีททิชันเพื่อช่วยในการเพิ่มความสามารถในการจดจำความรู้ให้รวดเร็วและคงทนมากยิ่งขึ้น การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนารูปแบบกิจกรรมการเรียนรู้แบบมัลติมีเดียบนเทคโนโลยีโมบายโดยใช้เทคนิคสเปซรีพีททิชัน 2) ประเมินความเหมาะสมของรูปแบบที่พัฒนาขึ้น
รูปแบบของการวิจัยเป็นการวิจัยที่ประกอบด้วย 2 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นที่ 1 การวิเคราะห์รูปแบบสำหรับกิจกรรมการเรียนรู้แบบมัลติมีเดียบนเทคโนโลยีโมบายโดยใช้เทคนิคสเปซรีพีททิชัน เพื่อรวบรวมข้อมูลต่างๆ ประเมินความต้องการและพิสูจน์แนวคิดของรูปแบบ กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์หรือทางการศึกษา ที่มีประสบการณ์การสอนหรือใช้งานระบบอีเลิร์นนิงผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ จำนวน 31 คน เครื่องมือวิจัยคือ 1) กรอบแนวคิดการจัดกิจกรรมการเรียนโมบายเลิร์นนิงด้วยเทคนิคสเปซรีพีททิชัน และ 2) แบบสอบถามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญที่มีต่อกรอบแนวคิด ขั้นที่ 2 การสังเคราะห์รูปแบบสำหรับกิจกรรมการเรียนรู้แบบมัลติมีเดียบนเทคโนโลยีโมบายโดยใช้เทคนิคสเปซรีพีททิชัน โดยทำการประเมินความเหมาะสมองค์ประกอบของรูปแบบที่ได้พัฒนาขึ้น โดยผู้เชี่ยวชาญจำนวน 9 คน แบ่งเป็นกลุ่ม 3 ด้านได้แก่ ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ, ด้านการศึกษา และด้านมัลติมีเดีย เครื่องมือวิจัยคือ 1) รูปแบบกิจกรรมการเรียนรู้แบบมัลติมีเดียบนเทคโนโลยีโมบายโดยใช้เทคนิคสเปซรีพีททิชัน และ 2) แบบสอบถามความคิดเห็นผู้เชี่ยวชาญที่มีต่อความเหมาะสมของการสังเคราะห์รูปแบบที่พัฒนาขึ้น สถิติที่ใช้ คือ ค่าเฉลี่ย และ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า รูปแบบกิจกรรมการเรียนรู้แบบมัลติมีเดียบนเทคโนโลยีโมบายโดยใช้เทคนิคสเปซรีพีททิชันที่พัฒนาขึ้นประกอบไปด้วย 5 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) ด้านนโยบายหลักการและบริบท 2) ด้านหลักการแนวคิดทฤษฎีการเรียนรู้ 3) ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ 4) ด้าน โมบายเลิร์นนิงแอปพลิเคชัน และ 5) ด้านตัวบ่งชี้กิจกรรมการเรียนรู้ โดยที่ผลการประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญ พบว่า ในภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ย 4.77 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.42 เมื่อพิจารณารายด้านก็พบว่า ทุกด้านอยู่ในระดับมากที่สุด เช่นกัน
Article Details
![Creative Commons License](http://i.creativecommons.org/l/by-nc-nd/4.0/88x31.png)
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความ ข้อความ ภาพประกอบ ตารางประกอบ ที่ตีพิมพ์ในวารสารเป็นความคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียว ไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชแต่อย่างใด
บทความที่เสนอพิจารณาในวารสาร e-JODIL ต้องเป็นบทความที่ไม่เคยส่งไปลงพิมพ์ เผยแพร่ หรืออยู่ระหว่างการพิจารณาของวารสารอื่น
กองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาและตัดสินการตีพิมพ์บทความในวารสาร
References
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร. (2559). แผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (พิมพ์ครั้งที่ 1). กรุงเทพฯ: กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร.
ชายแดน มิ่งเมือง, วรปภา อารีราษฎร์ และ ธรัช อารีราษฎร์. (2560). ผลการศึกษาการจัดการเรียนรู้โมบายเลิร์นนิงด้วยเทคนิคสเปซรีพิททิชัน. วารสารการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรม, 4(2), 167-176.
เชิงชาย สมประชา และณัฐพัชญ์ พยุงศักดิ์สกุล (2555). ศึกษาพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์มือถือในเวลาเรียนของนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ (รายงานการวิจัย). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์.
เดชพล ใจปันทา, วรปภา อารีราษฎร์ และธรัช อารีราษฎร์. (2559). การส่งเสริมครูประยุกต์ใช้สื่อผสมเพื่อการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ด้วยกระบวนการกลุ่ม. วารสารเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี, 6(1), 59-72.
ธนกฤต โพธิ์ขี. (2555) ผลการใช้เกมส์มัลติมีเดียเพื่อพัฒนาการจำและความคงทนในการจำคำศัพท์ภาษาอังกฤของนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวัดชินวราวรรณ (เจริญผลวิทยาเวศม์) (วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิต). สาขาวิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี. กรุงเทพฯ.
พรชัย ยอดวิศิษฎ์ศักดิ์, วีระยุทธ โถวประเสริฐ และคิริภัทร เกียรติพันธุ์สดใส. (2557) ทัศนคติและพฤติกรรมของนักศึกษาแพทย์ต่อการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการเรียนชั้นคลินิก. ธรรมศาสตร์เวชสาร, 14(3), 367-377.
พิสุทธา อารีราษฎร์. (2551). การพัฒนาซอฟต์แวร์ทางการศึกษา. มหาสารคาม: อภิชาตการพิมพ์
มยุรี เกื้อสกุล. (2560). การศึกษาเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเจตคติระหว่างวิธีสอนแบบเอสทีเอดี (STAD) กับแบบเอ็มไอเอพี (MIAP) รายวิชาการบัญชีการเงิน หลักสูตรปริญญาตรี มหาวิทยาลัยธนบุรี. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยธนบุรี, 11(26), 31-46.
วิทยา อารีราษฎร์. (2549). การพัฒนารูปแบบการสอนใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนแบบอัจฉริยะและมีส่วนร่วมผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ (วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต). สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ. กรุงเทพฯ
วิลาส วูวงศ์ และบุญเจริญ ศิริเราวกุล. (2535). ระบบผู้เชี่ยวชาญ. กรุงเทพฯ: ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ
สำนักยุทธศาสตร์ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม. (2563). รายงานผลการสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ต ในประเทศไทย ปี 2563 Thailand Internet User Profile 2020 (พิมพ์ครั้งที่ 1). กรุงเทพฯ.
อภิเชษฐ์ ขาวเผือก. (2559). การพัฒนาเกมการศึกษาบนแท็บเล็ตโดยใช้เทคนิคช่วยจำเพื่อส่งเสริมความคงทนในการจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนวัดสะแกงาม. Veridian E-Journal, Silpakorn University, 9(2), 1416-1431.
Bassil, Y. (2012). Expert PC Troubleshooter with Fuzzy-Logic and Self-Learning Support. International Journal of Artificial Intelligence & Applications (IJAIA), 3(2), 11-21. doi: 10.5121/ijaia.2012.3202.
Begley, K., Monaghan, M. S., & Qi, Y. (2013). Repeated Testing to Improve Skills in a Pharmacy Practice Laboratory Course. American Journal of Pharmaceutical Education, 77(6), 130.
Blocki, J., Komanduri, S., Cranor, L., & Datta, A. (2014). Spaced Repetition and Mnemonics Enable Recall of Multiple Strong Passwords. Retrieved from https://arxiv.org/abs/1410.1490
Böhmer, M., Hecht, B., Schöning, J., Krüger, A., & Bauer, G. (2011). Falling asleep with Angry Birds, Facebook and Kindle: A Large Scale Study on Mobile Application Usage. In 13th International Conference on Human Computer Interaction with Mobile Devices and Services (pp. 47-56). Stockholm: ACM.
Bower, J. V., & Rutson-Griffiths, A. (2016). The Relationship between the Use of Spaced Repetition Software with a TOEIC Word List and TOEIC Score Gains. Computer Assisted Language Learning, 29(7), 1238-1248.
Chukharev-Hudilainen, E., & Klepikova, T. A. (2016). The Effectiveness of Computer-Based Spaced Repetition in Foreign Language Vocabulary Instruction: A Double-Blind Study. Calico Journal, 33(3), 334-354.
Edge, D., Fitchett, S., Whitney, M., & Landay, J. (2012, September). MemReflex: Adaptive Flashcards for Mobile Microlearning. In Proceedings of the 14th international Conference on Human-computer Interaction with Mobile Devices and Services (pp. 431-440). California: ACM.
Giarratano, J. C., & Riley, G. (2004). Expert Systems: Principles and Programming (4th ed.). Course Technology.
GSM Association. (2019) Mobile Economic Impact Thailand. Retrieved January 19, 2020, from https://www. gsma.com/betterfuture/wp-content/uploads/2019/08/Mobile-Economic-Impact-2019-Thailand.pdf
Heckerman, D. (1992). The Certainty-Factor Model. Encyclopedia of Artificial Intelligence, 131-138.
Ozdamli, F., & Cavus, N. (2011). Basic Elements and Characteristics of Mobile Learning. Procedia-Social and Behavioral Sciences, 28, 937-942.
Partnership for 21st Century Skills. (2009). P21 Framework Definitions. in A Framework for 21st Century Learning. Retrieved from https://eric.ed.gov/?id=ED519462.
Srinuan, C., Srinuan, P., & Bohlin, E. (2012). An Analysis of Mobile Internet Access in Thailand: Implications for Bridging the Digital Divide. Telematics and Informatics, 29(3), 254-262.
Wozniak, P. A. (1998). SuperMemo 2: Algorithm.
Wymbs, N. F., Bastian, A. J., & Celnik, P. A. (2016). Motor Skills Are Strengthened through Reconsolidation. Current Biology, 26(3), 338-343.