ทัศนคติของผู้บริจาคผ่าน Utility Token ของโรงพยาบาลรัฐบาล

บทคัดย่อ

การศึกษานี้เพื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างทัศนคติในการบริจาคเงินให้โรงพยาบาลรัฐบาลของผู้ใช้บริการกับการมอบสิทธิการบริการภายในโรงพยาบาลผ่านการเสนอโทเคนดิจิทัลเพื่อการใช้ประโยชน์ (Utility Token) ให้แก่ผู้บริจาค ทั้งนี้เพื่อเพิ่มการระดมทุนและแก้ปัญหาการขาดแคลนงบประมาณของโรงพยาบาลรัฐ ด้วยวิธีการศึกษาเชิงสำรวจร่วมกับเชิงคุณภาพ จากประชาชนสัญชาติไทยที่ใช้บริการโรงพยาบาลรัฐขนาดใหญ่ (มากกว่า 250 เตียง) ในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 400 คน โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือเพื่อรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์โดยใช้วิธีการทางสถิติประกอบด้วยค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ตารางไขว้ การทดสอบ t-test และ Chi square-test กำหนดนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนมาก เคยบริจาคให้โรงพยาบาลมาก่อน ทัศนคติส่วนมากต่อการบริจาคให้โรงพยาบาลคือ การทำบุญ ส่วนสิ่งที่กลุ่มตัวอย่างอยากให้โรงพยาบาลดูแลผู้บริจาคมากที่สุดคือ บริการดูแลการนัดรักษาโดยตรง อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการเสนอ Utility Token ให้แก่ผู้บริจาคพบว่ากลุ่มตัวอย่างมีแนวโน้มที่จะบริจาคให้โรงพยาบาลรัฐมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยกลุ่มตัวอย่างที่เคยบริจาคให้โรงพยาบาลมาก่อนจะบริจาคมากหรือบ่อยครั้งขึ้น และในกลุ่มตัวอย่างที่ไม่เคยบริจาคให้โรงพยาบาลมาก่อนมีแนวโน้มจะเปลี่ยนใจมาบริจาคให้โรงพยาบาล ผลการศึกษาเชิงคุณภาพพบว่าผู้ใช้บริการในโรงพยาบาลรัฐทั้งที่เคยและไม่เคยบริจาค มีการรับรู้ถึงความขาดแคลนเงินทุน และคิดว่าโรงพยาบาลรัฐควรได้รับงบประมาณเพื่อพัฒนาการบริการให้ดียิ่งขึ้น การเสนอสิทธิการให้บริการผ่าน Utility Token สามารถสร้างส่งเสริมทัศนคติในทางบวกต่อการบริจาคเงินของผู้ใช้บริการในโรงพยาบาลรัฐได้