ผลการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการใช้คอมพิวเตอร์ในการสร้างสรรค์นวัตกรรม รายวิชางานกราฟิกและการนำเสนอข้อมูลของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หลังได้รับการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านกับเกณฑ์ร้อยละ 65 และ 2) เปรียบเทียบทักษะการใช้คอมพิวเตอร์ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หลังได้รับการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านกับเกณฑ์ระดับดี กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/4 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 จำนวนนักเรียน 40 คน ได้มาจากการสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้าน จำนวน 6 แผน มีคุณภาพเหมาะสมระดับมากที่สุด ( = 4.50, S.D. = 0.58) 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.74 และ 3) แบบวัดทักษะการใช้คอมพิวเตอร์ในการสร้างสรรค์นวัตกรรม มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.97 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบทีแบบ t-test for one sample ผลการวิจัย พบว่า 1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หลังได้รับการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 65 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ 2) ทักษะการใช้คอมพิวเตอร์ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หลังได้รับการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านสูงกว่าเกณฑ์ระดับดี อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม. (2563, 27 พฤษภาคม). 10 เทคโนโลยีที่มาแล้วและกำลังจะมาอยู่กับเราในชีวิตประจำวัน. https://www.dip.go.th/en/category/2020-05-27-17-17-22/2020-05-27-18-59-23
กระทรวงศึกษาธิการ. (2552). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
กุลธิดา ขันสุข, ชนวัฒน์ ตันติวรานุรักษ์, และ เชษฐ์ ศิริสวัสดิ์. (2561). การพัฒนาการคิดวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์และกระบวนการกลุ่มโดยจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านบนเว็บ เรื่อง พันธุศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร, 22(3), 25-37.
กุลิสรา จิตรชญาวณิช. (2565). การจัดการเรียนรู้ (พิมพ์ครั้งที่ 4). สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ชนิสรา เมธภัทรหิรัญ. (2560). ห้องเรียนกลับด้าน (Flipped Classroom) กับการสอนคณิตศาสตร์. นิตยสารสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, 46(209), 20-22.
ทิศนา แขมมณี. (2557). ปลุกโลกการสอนให้มีชีวิตสู่ห้องเรียนแห่งศตวรรษใหม่. สหมิตรพริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง.
นครินทร์ สุกใส, และ วิชัย เสวกงาม. (2561). ผลการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ห้องเรียนกลับด้านร่วมกับเกมมิฟิเคชันที่มีต่อความสามารถในการประยุกต์ความรู้ทางคอมพิวเตอร์ของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย. วารสารคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 17(3), 176-184.
พงศ์เทพ จิระโร. (2561). หลักการวิจัยทางการศึกษา (พิมพ์ครั้งที่ 8). ร้านบัณฑิตเอกสาร.
วราพร ดำจับ. (2562). สื่อสังคมออนไลน์กับการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21. วารสารศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้, 7(2), 143-159.
วัลภา สถิรพันธุ์, และ พัชรัตน์ ลออปักษา. (2562). การประยุกต์ใช้การเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับทางเพื่อพัฒนาความพร้อมในการสอนของนักศึกษาสาขาวิชาการศึกษาปฐมวัย. วารสารครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 47(3), 404-421.
วิจารณ์ พานิช. (2557). ครูเพื่อศิษย์สร้างห้องเรียนกลับทาง. เอส.อาร์.พรื้นติ้ง แมสโปรดักส์.
สุวิทย์ มูลคำ. (2547). ความคิดและการคิด. ภาพพิมพ์.
อนุวัติ คูณแก้ว. (2562). การวัดผลและประเมินผลการศึกษาแนวใหม่ (พิมพ์ครั้งที่ 3). จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
Abbas, M., & Idris, A. (2024). Flipped Classroom Learning and Academic Achievement in Genetics Concepts among Secondary School Students in Gusau, Zamfara State, Nigeria. FNAS Journal of Mathematics and Science Education, 5(3), 108-115.
Bergmann, J., & Sams, A. (2012). Flip Your Classroom Reach Every Student in Every Class Every Day: International Society for Technology in Education.
Oliva, P. F., & Gordon, W. (2013). Developing the curriculum (8th ed.). Pearson.
Yildirim F. S. & Kiray S. A. (2016). Flipped classroom model in education. Research Highlights in Education and Science 2016, 2-8.
