มูลค่าทางเศรษฐศาสตร์ของแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ จังหวัดกาญจนบุรี กับความเต็มใจที่จะจ่ายของนักท่องเที่ยว

Main Article Content

ชยุตม์ วะนา
สิริกร เลิศลัคธนาธาร

บทคัดย่อ

       การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ประเมินมูลค่าทางเศรษฐศาสตร์ของอุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์เป็นตัวเงิน 2) ประเมินความเต็มใจที่จะจ่ายในการมาชมอุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ และ 3) วิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลต่อความเต็มใจที่จะจ่ายของนักท่องเที่ยวที่มีต่ออุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้ที่มาท่องเที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ในปี 2560 ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ จำนวนรวม 400 คน โดยใช้วิธีสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน วิเคราะห์ด้วยแบบจำลองการคิดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการเดินทางของบุคคล


               ผลการศึกษา พบว่า ส่วนใหญ่พักอาศัยอยู่ที่กรุงเทพมหานคร มีอายุระหว่าง 21 – 30 ปี สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่า มีรายได้อยู่ระหว่าง 10,001 ถึง 20,000 บาท มาท่องเที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์  1 – 2 ครั้ง ใช้เวลาเดินทางมาท่องเที่ยวมากกว่า 3 แต่ไม่เกิน 4 ชั่วโมง มีวัตถุประสงค์ในการท่องเที่ยวเพื่อศึกษาหาความรู้ทางประวัติศาสตร์ เดินทางมาโดยรถทัวร์ และรถตู้เช่าเหมา มีค่าใช้จ่ายในการเดินทางระหว่าง 1,001 ถึง  1,500 บาท มีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องระหว่าง 1,501 ถึง 2,000 บาท การวิเคราะหปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความ 
เต็มใจที่จะจ่ายในการมาชมอุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ จังหวัดกาญจนบุรี พบว่า ตัวแปรอิสระที่ส่งผลต่อตัวแปรตาม ไดแก ตัวแปรตนทุนทั้งหมดในการเดินทางมาชมโบราณสถาน ณ อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ และระดับการศึกษา เมื่อทำการคำนวณตามขั้นตอนแล้ว พบว่า นักท่องเที่ยวเต็มใจที่จะจ่ายค่าธรรมเนียมเข้าชมอุทยานประวัติศาสตร์ เมืองสิงห์ จังหวัดกาญจนบุรีที่ 37.17 บาทต่อครั้ง เต็มใจที่จะจ่ายค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการมาท่องเที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ จังหวัดกาญจนบุรีที่ 1,804.55 บาทต่อคน และมูลค่าทางเศรษฐศาสตร์ของอุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ จังหวัดกาญจนบุรี ในปี 2560 มีมูลค่าเท่ากับ 51,513,345 บาท

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

1. กชพร สุขจิตภิญโญ และ กาญจนา โชคถาวร. (2555). การศึกษาความเต็มใจที่จะจ่ายเพื่อการอนุรักษ์มรดกทาง วัฒนธรรมโบราณสถานเวียงกุมกาม. วารสารการจัดการ, 1(1), 1-9.
2. กรมศิลปากร. (2559). อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์. สืบค้น 8 กรกฎาคม 2559, จาก http://www.finearts.go.th
3. กรมการท่องเที่ยว. (2559). สถิตินักท่องเที่ยวปี 2558. สืบค้น 25 พฤศจิกายน 2559, จาก http://tourism.go.th
4. กรมศิลปากร. (2560). สถิติผู้มาท่องเที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์. สืบค้น 10 กรกฎาคม 2560, จาก http://www.finearts.go.th
5. กัลยาณี พรพิเนตรพงศ์. (2548). การประเมินค่าแหล่งนันทนาการ: กรณีตัวแบบพื้นที่เดี่ยว. วารสารรัฐประศาสนศาสตร์ 3, 2(48), 13-32.
6. ขนิษฐา ภานุทัต. (2558). การประเมินมูลค่าประโยชน์ทางเศรษฐศาสตร์ของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
7. จรีวรรณ มณีเมือง. (2550). การตีค่ามูลค่าทางนันทนาการของสวนเบญจกิติกรุงเทพมหานคร (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
8. จิรวรรณ ดีประเสริฐ. (2559). ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่มีต่อแหล่งท่องเที่ยวด้านประวัติศาสตร์ศิลปวัฒนธรรม และประเพณีของจังหวัดนครพนม. วารสารมหาวิทยาลัยนครพนม, 6(3), 41-49.
9. ฉันทัช วรรณถนอม. (2557). ทรัพยากรการท่องเที่ยว. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา.
10. ณัชชา ว่องวัฒนานุกูล. (2557). การประเมินมูลค่าประโยชน์ทางนันทนาการบริเวณชายหาดแม่รำพึง จังหวัดระยอง (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
11. ดุษฎี เทียมเทศ บุญมาสูงทรง, สุพรรณี พรภักดี และ ปุริ หนุนนัด. (2557). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความตั้งใจในการมาท่องเที่ยวซ้ำของนักท่องเที่ยวในอำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา. นครราชสีมา: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน.
12. นราทิพย์ ชุติวงศ์. (2557). หลักเศรษฐศาสตร์ I : จุลเศรษฐศาสตร์ (พิมพ์ครั้งที่ 14). กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
13. ปวีณา ทวีวงศ์โอฬาร. (2552). ความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวชาวไทยในการท่องเที่ยวในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา. (การศึกษาเฉพาะบุคคลปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยกรุงเทพ).
14. พิมพิกา ชมชีพ. (2559). การประเมินมูลค่านันทนาการเพื่อการจัดการสวนสัตว์นครราชสีมา (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
15. มณฑกาฬ ลีมา. (2558). มูลค่าและการจัดการด้านนันทนาการของหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บ้านทรงไทย ตำบลปลายโพงพาง จังหวัดสมุทรสาคร (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
16. เรณู สุขารมณ์. (2543). วิธีการสมมติเหตุการณ์ให้ประเมินมูลค่าสินค้าที่ไม่ผ่านตลาด. รวมบทความที่ระลึกครบรอบ 60 ปี อาจารย์อัมมาร์ สยามวาลา, 187 - 208.
17. วนัชพร จันทรักษา และ วารัชต์ มัธยมบุรุษ. (2558). ปัจจัยที่สำคัญต่อการท่องเที่ยวโบราณสถานเขตอรัญญิก เมืองนครชุม จังหวัดกำแพงเพชร. วารสารกระแสวัฒนธรรม, 16(30), 41-54.
18. วริศรา บุญสมเกียรติ. (2555). แนวทางการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม จังหวัดนครศรีธรรมราช: วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร วัดธาตุน้อย และโบราณสถานโมคลาน (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.
19. วสุวัฒน์ หลักฐาน. (2554). การประเมินมูลค่าความเต็มใจจ่ายของนักท่องเที่ยวต่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย จังหวัดเชียงใหม่ (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). เชียงใหม่ : มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
20. โสมสกาว เพชรานนท์. (2543). วิธีวัดมูลค่าทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยวิธีมูลค่าตัวแทน. ในเศรษฐศาสตร์สิ่งแวดล้อม หน่วยที่ 1-7. นนทบุรีฯ: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
21. อมรินทร์ ตันติเมธ. (2548). เศรษฐศาสตร์ว่าด้วยพฤติกรรมการท่องเที่ยว กรณีศึกษา การตัดสินใจเลือกเดินทางมายังประเทศไทยของชาวต่างชาติ. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.
22. Lierop D. V., Lee B. Y., & El-Geneidy A. M. (2012). Secure Investment for Active Transport: Willingness to Pay for 23. Secured Bicycle Parking in Montreal, Canada. In Bicycle Urbanism Symposium. Washington.Yamane, T. (1973). Statistics: An Introductory Analysis. New York: Harper & Row.