โปรแกรมการเสริมสร้างกำลังขาสำหรับนักกีฬาฟุตบอล รุ่นอายุ 12 ปี โรงเรียนสังกัดเทศบาลนครเชียงใหม่
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อสร้างโปรแกรมการเสริมสร้างความแข็งแรงขา สำหรับนักกีฬาฟุตบอล รุ่นอายุ 12 ปี โรงเรียนในสังกัดเทศบาลนครเชียงใหม่ (2) เพื่อศึกษาผลของการใช้โปรแกรมการเสริมสร้างความแข็งแรงขา สำหรับนักกีฬาฟุตบอล รุ่นอายุ 12 ปี โรงเรียนในสังกัดเทศบาลนครเชียงใหม่ เครื่องมือที่ใช้ เป็นโปรแกรมการเสริมสร้างที่สร้างขึ้น โดยผ่านการตรวจสอบคุณภาพจากผู้เชี่ยวชาญ ได้ค่าความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา = .67-1 ได้ค่าความเชื่อมั่น 0.87
กลุ่มเป้าหมาย คือ นักกีฬาฟุตบอลทีมเทศบาลนครเชียงใหม่ มีจำนวนทั้งหมด 20 คน และใช้แบบทดสอบการส่งบอลระยะไกลของ ชูพงศ์ จันทร์อรุณ และกันยา ปาละวิวัธน์ และวัดพลังของกล้ามเนื้อขาโดยใช้เครื่องวัดแรงเหยียดขา ผลการศึกษาพบว่า จากการทดลองใช้โปรแกรมการเสริมสร้างความแข็งแรงขา ระยะเวลา 12 สัปดาห์ จากนั้นทำการทดสอบด้วยแบบทดสอบ 2 แบบ คือ การส่งบอลระยะไกล และ การวัดด้วยเครื่องวัดแรงเหยียดขา ผลการทดสอบการส่งบอลระยะไกล กำลังขาก่อนและหลังการใช้โปรแกรมเสริมสร้างความแข็งแรงขา พบว่า (1) มีนักฟุตบอลจำนวน 11 คน มีพัฒนาการระดับสมรรถนะอยู่ในระดับดี คิดเป็นร้อยละ 55 และมีนักฟุตบอลจำนวน 9 คน มีพัฒนาการระดับสมรรถนะอยู่ในระดับ พอใช้ คิดเป็นร้อยละ 45 ซึ่งมีค่าระยะเฉลี่ยการส่งบอลระยะไกลทั้งหมด 20 คน ก่อนเท่ากับ 15.34 เมตร หลัง เท่ากับ 20.07 เมตร ผลต่างระยะเฉลี่ย เท่ากับ 4.74 พัฒนาอยู่ในระดับดี และค่าเฉลี่ยของระยะการส่งบอลก่อนและหลังเท่ากับ 1.99 (2) ผลการทดสอบการวัดแรงเหยียดขาก่อนและหลังการใช้โปรแกรมเสริมสร้างความแข็งแรงขา พบว่า มีค่าเฉลี่ยแรงเหยียดขา ก่อน เท่ากับ 1.16 กก./นน. หลัง เท่ากับ 1.67 กก./นน. ผลต่างแรงเหยียดขาเฉลี่ย เท่ากับ 0.51 กก./นน. และมีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานก่อน เท่ากับ 0.36 หลัง เท่ากับ 0.28 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของค่าแรงเหยียดขาเฉลี่ย เท่ากับ 0.26 ซึ่งสรุปได้ว่า หลังการใช้โปรแกรมการเสริมสร้างความแข็งแรงขาให้กับนักกีฬาฟุตบอลรุ่นอายุ 12 ปี โดยการทดสอบการส่งบอลระยะไกล และผลจาการวัดแรงเหยียดขาสูงกว่า ก่อนการใช้โปรแกรมการเสริมสร้างความแข็งแรงขา
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
กรมพลศึกษา. (2554). การอบอุ่นร่างกาย. กรุงเทพฯ: กลุ่มพัฒนาการวิจัยและพัฒนาสำนักวิทยาศาสตร์การกีฬา.
เกชา พูลสวัสดิ์. (2548). ผลของการฝึกเสริมพลัยโอเมตริกที่มีต่อการพัฒนาความคล่องแคล่ว ว่องไวของนักกีฬาฟุตบอลอายุระหว่าง 14 - 16 ปี (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
กรรวี บุญชัย. (2558). ความสําคัญของการสอนทักษะการเคลื่อนไหวขั้นพื้นฐานสําหรับเด็กปฐมวัย. วารสารครุศาสตร์สาร, 9(2), 103 – 109.
ชูพงศ์ จันทร์อรุณ, กันยา ปาละวิวัธน์. (2558). ผลของการฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขาที่มีต่อ ความสามารถในการเตะลูกฟุตบอลของนักกีฬาฟุตบอล อายุ 13 – 15 ปี (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). นครสวรรค์: มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์.
ศิลปชัย สุวรรณธาดา. (2532). การเรียนรู้การเคลื่อนไหวภาคปฏิบัติการ. กรุงเทพ: คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สามารถ ฮวบสวรรค์. (2557). การพัฒนาโปรแกรมการฝึกความแข็งแรงกล้ามเนื้อขาสำหรับนักกีฬาวอลเลย์บอลชายอายุไม่เกิน 18 ปี (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). นครสวรรค์ : มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์.
สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตชุมพร. (2557). เกฑณ์ตารางการวัดแรงเหยียดขา. ชุมพร: โครงการวิจัยการพัฒนาสื่อการเรียนการสอนผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต.
D.lom. (2013). การเพิ่มความถี่ (Over load) และเพิ่มขึ้นตามการพัฒนาของผู้ฝึก. สืบค้นจาก http://dropdeadhealthy.blogspot.com/2013/09/ progressive-overload.html.
Mitchell JReid. (1963). Soccer for Children Ability. การฝึกด้วยน้ำหนัก. สืบค้นจาก https://www.scribd.com.