ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อเครื่องประดับชั้นดี ในเขตกรุงเทพมหานคร
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อเครื่องประดับชั้นดี ของผู้บริโภคในเขตกรุงเทพมหานคร โดยศึกษาปัจจัยลักษณะทางประชากรศาสตร์ ส่วนประสมทางการตลาด (7Ps) แรงจูงใจ และกลุ่มอ้างอิง กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาคือ ผู้ที่ซื้อหรือเคยซื้อเครื่องประดับชั้นดีในช่วงราคา 100,000-350,000 บาท ในเขตกรุงเทพมหานคร เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม จำนวนทั้งสิ้น 400 ชุด สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่า t ค่าความแปรปรวนทางเดียวและค่าถดถอยแบบพหุคูณ
ผลการวิจัยพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงมีอายุระหว่าง 50-59 ปี การศึกษาระดับปริญญาตรี ประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัว สถานภาพโสด และรายได้เฉลี่ยต่อเดือนมากกว่า 50,001 บาทขึ้นไป นอกจากนี้ผู้ตอบแบบสอบถามนิยมซื้อเครื่องประดับที่มีตัวเรือนทำจากโลหะประเภททองคำ และตัวเรือนประกอบด้วยอัญมณีเพชร ซึ่งเครื่องประดับที่ผู้บริโภคนิยมซื้อมากที่สุดคือ แหวน โดยนิยมซื้อเป็นปกติอยู่แล้วเมื่อพอใจ เพื่อใช้เป็นเครื่องประดับเสริมแต่งตนเอง ส่วนใหญ่ชำระเงินในรูปแบบบัตรเครดิต/ เดบิต มีความถี่ในการซื้ออยู่ที่ 1-2 ครั้ง/ปี และราคาเฉลี่ยที่ซื้ออยู่ในช่วงราคา 100,000-150,000 บาท ส่วนปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อเครื่องประดับชั้นดี ของผู้บริโภคในเขตกรุงเทพมหานคร ได้แก่ (1) ปัจจัยด้านส่วนประสมทางการตลาด ประกอบด้วย ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ และปัจจัยด้านการส่งเสริมการตลาด (R-square เท่ากับ 0.227 (2) แรงจูงใจภายในและแรงจูงใจภายนอก (R-square เท่ากับ 0.437) 5) และ (3) กลุ่มอ้างอิงทางตรงและกลุ่มอ้างอิงทางอ้อม (R-square เท่ากับ 0.255)
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
กัลยา วานิชย์บัญชา. (2561). สถิติสำหรับงานวิจัย. (พิมพ์ครั้งที่ 12). กรุงเทพฯ: สามลดา.
ฐิติสา ศรีโสวรรณา. (2560). ปัจจัยที่มีผลต่อความพึงพอใจในการซื้อเครื่องประดับทองและจิวเวลรี่ (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
แพรวพรรณ จันทร์สุพัฒน์. (2562). กระบวนการตัดสินใจซื้อเครื่องเพชรของกลุ่มเจเนอเรชั่นวายในกรุงเทพมหานคร (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
ทักษพร สมมุ่ง. (2562). ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดบริการและพฤติกรรมการซื้อทองรูปพรรณ 96.5% ของผู้บริโภคในกลุ่มผู้หญิงวัยทำงานในจังหวัดตรัง. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
ศิริวรรณ เสรีรัตน์ และ ศุภร เสรีรัตน์. (2560). การบริหารการตลาดยุคใหม่ (ฉบับปรับปรุงใหม่).กรุงเทพฯ: บริษัทธรรมสาร.
สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน). (2560). สถานการณ์การนำเข้าส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทยปี 2560. สืบค้นจาก https://www.git.or.th/thai/info_center/trade_review/ 2018/GIT_TRADE_REVIEW_2017.pdf.
สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์. (2563). อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ. สืบค้นจาก https://www.pier.or.th/forums/2020/18/jewelry/.
Krungsri guru sme.(2021).ธุรกิจเครื่องประดับแข่งขันดุเดือดไทยอยู่แถวหน้า. สืบค้นจาก https://www.krungsri.com/ th/plearn-plearn/jewelry-business-match-heated-thai-forefront.
Philip Kotler and Keller Kelvin Lane. (2016). Marketing Management. (16th global edition) Edinburgh: Pearson Education.
Schiffman and Kanuk. (2014). Consumer Behavior: implications for marketing strategy (7th). New York: Mc Graw-Hill.