การพัฒนาความสามารถในการออกเสียงสัทอักษรภาษาจีน โดยการจัดการเรียนรู้ฐานสมรรถนะเชิงรุก ของนักศึกษาสาขาวิชาภาษาจีน มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาปัญหาการออกเสียงกลุ่มพยัญชนะ z,c,s,zh,ch,sh, r,x,g,k,h และกลุ่มสระ iɑ,ie,ɑng,eng,uo,ou,uɑ,iɑo,iou และ uɑiของนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ที่ลงทะเบียนในรายวิชาการฟังและการพูดภาษาจีน (2) พัฒนาความสามารถในการออกเสียงสัทอักษรภาษาจีน (พินอิน) ของนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ที่ลงทะเบียนในรายวิชาการฟังและการพูดภาษาจีน กลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 สาขาภาษาจีน 1/2565 มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม จำนวน 34 คน เลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ประกอบด้วย ชุดทดสอบการอ่านออกเสียงภาษาจีนซึ่งแบ่งการวัดผลออกเป็น 3 ขั้นตอน ขั้นตอนที่ 1 วัดผลก่อนเรียน ขั้นตอนที่ 2 ผู้เรียนได้เรียนภาษาจีนแล้ว 1 เดือน วัดผลจากทดสอบย่อย ขั้นตอนที่ 3 วัดผลจากการสอบกลางภาค ในการทดสอบวัดผลผู้เรียนนี้ใช้แบบทดสอบสัทอักษร การอ่านพินอิน การผันเสียงทิศทางเดียวกัน
ผลการศึกษา พบว่า (1) ปัญหาการออกเสียงกลุ่มพยัญชนะ ผู้เรียนอ่านพยัญชนะ z c s และ zh ch sh ไม่ชัดเจน ซึ่งการออกเสียง z c s และ p t k q c ch ผิดพลาดเนื่องจากออกเสียงไม่ถูกต้องตามหลักการออกเสียงภาษาจีน กลุ่มสระ นักศึกษาไม่สามารถออกเสียง ou uo ได้ชัดเจน เนื่องจากความสับสนในคำควบเสียง คือ ou โอว และ uo อัว เนื่องจากสับสนในการออกเสียง ส่วน iɑ, ie จะมีเสียงที่คล้ายครึงกันค่อนข้างมาก นอกจากนั้นนักศึกษาออกเสียง u ผิดพลาด เนื่องจากนักศึกษาบางส่วนออกเสียงไม่ถูกต้องตามหลักการออกเสียงเช่นกัน เนื่องจาก สระ u และ ü ในภาษาจีนมีการเขียน 2 รูปแบบ มีการลดรูป จึงทำให้นักศึกษามีความสับสนและออกเสียงสลับกัน วรรณยุกต์ นักศึกษาส่วนใหญ่จะมีปัญหากับการผันเสียงวรรณยุกต์เสียงที่ 3 และเสียงเบาผิดพลาดเนื่องจากนักศึกษาไม่จดจำกฎการเปลี่ยนเสียงได้ 2. ผลสัมฤทธิ์ก่อนและหลังเรียน พบว่า ผลสัมฤทธิ์หลังเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 26.38 ซึ่งสูงกว่าก่อนเรียนที่มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 14.85 ร้อยละความก้าวหน้าโดยเฉลี่ย คือ 76.47 แสดงว่านักศึกษามีความสามารถในการเรียนรู้สูงขึ้น
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
ตุลยนุสรญ์ สุภาษา และฉี เสวียหง. (2560). การศึกษาปัญหาการออกเสียงภาษาจีนของนักศึกษาสาขาวิชาภาษาจีนธุรกิจวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่. วารสารบัณฑิตวิจัย, 8(1), 115-124.
ภัทราพร โชคไพบูลย์ และคณะ. (January - June 2017). การพัฒนาทักษะการออกเสียงสัทอักษรภาษาจีนกลาง. วารสารวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา, 9(1), 192-201.
สายฝน วรรณสินธพ. (2554). ศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการออกเสียงพยัญชนะ สระ และวรรณยุกต์ในภาษาจีนกลาง. วารสาร มฉก. วิชาการ, 14(28), 97-108
อาชวิน นิสสัยกล้า และสายสุนีย์ เติมสินสุข. (2565). การเปรียบเทียบความสามารถในการฟังและการพูดภาษาจีนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ด้วยวิธีการสอนโดยใช้บทบาทสมมติ. วารสารราชพฤกษ์, 20(1), 156-166.
Bock, S. (1993). Developing materials for the study of literature. English Teaching Forum, 31, 3-9.
Selinker, L. (1972). Interlanguage (Fossilization). International Review of Applied linguistics in Language Teaching. 10(3). 215-216.
Qu Zhi. (2020). Experimental study on the acquisition of compound vowels in Mandarin among Thai college students [Master's thesis, Guangdong University of Foreign Studies]. https://kns.cnki.net/KCMS/detail/detail.aspx?dbname=CMFD202002&filename=1020819636.nh
陈娥. (2006). 泰国学生汉语习得中的语音偏误研究, 云南师范大学硕士学位论文.
黄伯荣 廖序东. (2010). 现代汉语 .北京:高等教育出版社.
何霜. (2011). 泰国学生习得汉语复合元音韵母的偏误分析《白色学院学报》,广西: 广西民族大学 .第六期.
李红印. (1995). 泰国学生汉语学习的语音偏误《世界汉语教学》. 北京:北京大学. 第二期.
李佳芸. (2020). 印尼、韩国、泰国留学生汉语单元音、二合元音以及三合元音韵母发音的偏误分析, 广州: 暨南大学硕士学位论文.
陆俭明. (2013). 再谈《汉语拼音方案和汉语教学》, 北京:北京大学汉语语言研究中心 .