การศึกษาสภาพการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนกับชุมชนของสถานศึกษา กลุ่มโรงเรียนพื้นที่พิเศษในอำเภอเชียงดาว สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3

ผู้แต่ง

  • สิรินทรา ก๋าคำ มหาวิทยาลัยพะเยา
  • ณัฐวุฒิ สัพโส มหาวิทยาลัยพะเยา

คำสำคัญ:

การสร้างความสัมพันธ์, โรงเรียนกับชุมชน, ผู้บริหารสถานศึกษา

บทคัดย่อ

การวิจัยในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนกับชุมชนของสถานศึกษา 2) เพื่อเปรียบเทียบสภาพการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนกับชุมชนของสถานศึกษากลุ่มโรงเรียนพื้นที่พิเศษในอำเภอเชียงดาว ตามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา และครู จำแนกตามประสบการณ์ในการทำงาน และวุฒิการศึกษา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา และครู            กลุ่มโรงเรียนพื้นที่พิเศษในอำเภอเชียงดาว จำนวน 217 คน ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูล สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที วิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว เมื่อพบความแตกต่างใช้วิธีทดสอบความแตกต่างเป็นรายคู่ตามวิธีของเชฟเฟ่

จากการศึกษาพบว่า 1) สภาพการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนกับชุมชน ของสถานศึกษากลุ่มโรงเรียนพื้นที่พิเศษในอำเภอเชียงดาว ภาพรวมอยู่ในระดับมาก        ( 𝑥̅= 4.25) เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ทุกด้านอยู่ในระดับมาก ( 𝑥̅= 4.25) โดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ด้านการสนับสนุนและใช้แหล่งเรียนรู้ ภูมิปัญญาท้องถิ่นของชุมชน ( 𝑥̅= 4.32) รองลงมา คือ ด้านการให้บริการชุมชน (𝑥̅ = 4.26) และด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ด้านการสร้างเสริมความสัมพันธ์กับชุมชนของโรงเรียนและหน่วยงานอื่น ( 𝑥̅= 4.20)  2) เมื่อเปรียบเทียบจำแนกตามประสบการณ์ทำงานและวุฒิการศึกษา ทั้ง 5 ด้าน พบว่า ไม่แตกต่างกัน

เอกสารอ้างอิง

นพภัสสร เลิศยศอนันต์, สุเทพ เมยไธสง และกุศล ศรี สารคาม. (2561).การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนกับชุมชนโรงเรียนการกุศลของวัดในพระพุทธศาสนา จังหวัดร้อยเอ็ด. วารสารมหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัยวิทยาเขตร้อยเอ็ด, ปีที่ 7 ฉบับที่ 1 ประจำเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 2561, หน้า 24-34.

บุญชม ศรีสะอาด. (2560). การวิจัยเบื้องต้น. (พิมพ์ครั้งที่ 10). กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.ปฏิภาณ ศาสตร์อำนวย. (2561). ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนกับชุมชนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษา สมุทรปราการ เขต 2. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรอุตสาหกรรมมหาบัณฑิต, ภาควิชาการบริหารการศึกษา, คณะครุศาสตร์, สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง.

พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542.( 2542). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ (ฉบับที่ 2 แก้ไขเพิ่มเติม) พ.ศ. 2545. ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 119 ตอนที่ 19 ก, หน้า 13-28.

มัลลิกา แก้วจ้อน. (2565). สภาพการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนกับชุมชนของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาน่านเขต 1. การค้นคว้าอิสระปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต, สาขาการบริหารการศึกษา, มหาวิทยาลัยพะเยา.

รุ่งทิพย์ เข็มทิศ. (2559). การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนกับชุมชนของโรงเรียนเทศบาลแหลมฉบัง 3 อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต,สาขาวิชาการบริหารการศึกษา, คณะศึกษาศาสตร์,มหาวิทยาลัยบูรพา.

เสน่ห์ เหลือขันธ์. (2551). บทบาทของผู้บริหารสถานศึกษากับงานด้านความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนกับชุมชนของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสกลนคร เขต 3. วิทยานิพนธ์ ครุศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาการบริหารการศึกษา คณะครุศาสตร์, มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3. (แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา

ขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2566 – 2570) (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2567), สืบค้นจาก https://www.cmarea3.go.th/2567 สืบค้นเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2567.

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2547). คู่มือปฏิบัติงานคณะกรรมการ

สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์การศาสนา หน้า 55-63.

Krejcie, R. V. & Morgan, D. W. (1970). Determining Sample Size for Research

Activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), pp. 607-610.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-12-01