รูปแบบและวิธีปฏิบัติต่อผู้ป่วยติดเตียงตามแนวพระพุทธศาสนา
คำสำคัญ:
ผู้ป่วยติดเตียง, พระพุทธศาสนา, รูปแบบ, วิธีปฏิบัติบทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสถานการณ์ผู้ป่วยติดเตียงและการดำเนินงานด้านการดูแลสุขภาพผู้ป่วยติดเตียง 2) ศึกษาแนวทางปฏิบัติต่อผู้ป่วยติดเตียงตามแนวพระพุทธศาสนา 3) นำเสนอรูปแบบและวิธีปฏิบัติต่อผู้ป่วยติดเตียงตามแนวพระพุทธศาสนา การวิจัยเชิงคุณภาพนี้ใช้การสัมภาษณ์เชิงลึกและสนทนากลุ่มกับผู้ทรงคุณวุฒิ และใช้การวิเคราะห์เนื้อหา พร้อมนำเสนอด้วยการพรรณนาอ้างอิงคำพูดตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด
ผลการวิจัยพบว่า
- จังหวัดลำพูนมีประชากร 393,982 คน เป็นผู้สูงอายุ 111,054 คน (28.19%) ปี 2566 มีผู้สูงอายุรับการคัดกรอง 62,925 คน พบติดบ้าน 1,963 คน ติดสังคม 60,515 คน และติดเตียง 447 คน การดูแลผู้ป่วยติดเตียงครอบคลุมด้านสุขอนามัย โภชนาการ กายภาพบำบัด และจิตใจ พร้อมการสนับสนุนจากครอบครัว ชุมชน และเทคโนโลยี การป้องกันแผลกดทับควรพลิกตัวสม่ำเสมอ ใช้อุปกรณ์ช่วย ลดแรงกดทับ ส่วนด้านจิตใจควรเสริมกำลังใจ พูดคุย และจัดกิจกรรมผ่อนคลาย โดยอาสาสมัครสาธารณสุขเป็นผู้ติดตามและประเมินผล
- แนวทางปฏิบัติต่อผู้ป่วยติดเตียงตามแนวพระพุทธศาสนา ประกอบด้วย 1) การดูแลตามหลักภาวนา 4 และการป้องกันแผลกดทับ 2) การใช้พรหมวิหารธรรมในการส่งเสริมกำลังใจและจิตใจ 3) การประยุกต์หลักสติปัฏฐาน 4 เพื่อประเมินผลการดูแล และ 4) การเตรียมผู้ป่วยสู่การสิ้นชีวิตอย่างสงบตามหลักอนิจจัง
- รูปแบบและวิธีปฏิบัติต่อผู้ป่วยติดเตียงตามแนวพุทธประกอบด้วย 1) การดูแลร่างกายและจิตใจ เช่น ป้องกันแผลกดทับ อาหารเหมาะสม ฟื้นฟูกายภาพ พูดคุยให้กำลังใจ 2) ยึดหลักพรหมวิหาร 4 และภาวนา 4 เสริมความเข้าใจ เห็นใจ และวางใจต่อความทุกข์ 3) ใช้ EKAPON Model ได้แก่ ความฉลาดทางอารมณ์ (E) การดูแลโดยครอบครัว (K) การจัดสิ่งแวดล้อม (A) การประคับประคอง (P) การสร้างความหมายชีวิต (O) และการเชื่อมโยงเครือข่ายชุมชน (N) เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี
เอกสารอ้างอิง
ธิรพัฒน์ เกตุอยู่ และนาฏฤดี พรงาม. (2564). การสร้างความศรัทธาของผู้สูงอายุ ต่อการปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานตามหลัก สติปัฏฐาน 4. วารสารพุทธอาเซียนศึกษา, 6(2), 52-69. http://ojs.mcu.ac.th/index.php/BAS/article/view/6801
นิตยา ทรัพย์วงศ์เจริญ และทีปทัศน์ ชินตาปัญญากุล. (2563). บทบาทพยาบาลในการดูแลแบบประคับประคอง ในโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ. วารสารพยาบาลทหารบก, 21(1), 26-34. https://he01.tci-thaijo.org/index.php/JRTAN/article/view/203234
ปาร์ยชญาน์ วงษ์ไตรรักษ์. (2561). รูปแบบการดูแลผู้สูงอายุติดเตียงที่บ้านโดยครอบครัว [วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต, มหาวิทยาลัยบูรพา]. Burapha University Research Information. https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/7422
พระปลัดกมลมาศ เลขธมฺโม (พรหมสนธิ์). (2563). กระบวนการส่งเสริมการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายตามแนวพระพุทธศาสนาของประชาชนในเขตอำเภอตรอน จังหวัดอุตรดิตถ์ [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย]. MCU Digital Collections. https://e-thesis.mcu.ac.th/thesis/2207
พระยงค์ยุทธ เทวธมฺโม (จันทะอ่อน). (2563). การดูแลผู้ป่วยติดเตียงตามหลักพุทธจริยศาสตร์ในตำบลบ้านฝาง อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด [วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต, มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย]. MCU Digital Collections. https://e-thesis.mcu.ac.th/thesis/261
พิศมัย บุติมาลย์, แสงอรุณ อิสระมาลัย, และเพลินพิศ ฐานิวัฒนานนท์. (2561). การพัฒนาแนวปฏิบัติทางการพยาบาลเพื่อป้องกัน ภาวะแทรกซ้อนสำหรับผู้สูงอายุกลุ่มติดเตียงที่บ้าน. วารสารวิจัยทางการพยาบาล การผดุงครรภ์และวิทยาศาสตร์สุขภาพ, 38(3), 79–91. สืบค้น จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/nur-psu/article/view/148304
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2539). พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข. (2566). รายงานสถานการณ์ผู้สูงอายุในประเทศไทย ปี 2566. กระทรวงสาธารณสุข.
สุวรรณา วุฒิรณฤทธิ์ และวลัยนารี พรมลา. (2564). การดูแลผู้สูงอายุติดเตียง: การทบทวนอย่างเป็นระบบ. รายงานการวิจัย. วารสารพยาบาลทหารบก, 22(3), 367-375. https://he01.tci-thaijo.org/index.php/JRTAN/article/view/249975
Black, J. M., & Berke, C. (2020). Ten top tips: Managing wound odour. Wounds International 2020, 11(4), 8-11.
Thongpool, R., & Mahatthanadull, S. (2021). Buddhist approach to improve the quality of life of palliative patients. Journal of International Buddhist Studies, 12(2), 53-63. https://so09.tci-thaijo.org/index.php/jibs/article/view/2573
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 มมร ล้านนาวิชาการ

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ผลการวิจัยและความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความ ถือเป็นความคิดเห็นและอยู่ในความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความ มิใช่ความเห็นหรือความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ หรือมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตล้านนา ทั้งนี้ไม่รวมความผิดพลาดอันเกิดจากการพิมพ์
บทความที่ได้รับการเผยแพร่โดยวารสาร มมร วิชาการล้านนาถือเป็นสิทธิ์ของวารสารฯ