ลักษณะความหมายของคำซ้อนในภาษาไทอาหม ภาษาไทลื้อ และภาษาลาว

Main Article Content

อนิสรา รัศมีเจริญ
ขนิษฐา ใจมโน
บุญเหลือ ใจมโน
สุชาดา เจียพงษ์

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มุ่งศึกษาลักษณะความหมายของคำซ้อนในภาษาไทอาหม ภาษาไทลื้อ และภาษาลาวโดยรวบรวมคำซ้อนจากพจนานุกรม เอกสารทางประวัติศาสตร์ และวรรณกรรม จากนั้นนำไปวิเคราะห์ โดยใช้แนวคิดความสัมพันธ์ทางความหมายของคำ และเสนอผลการวิจัยด้วยวิธีพรรณนาวิเคราะห์ พร้อมแสดงสถิติประกอบผลการวิจัย


ผลการวิจัยพบคำซ้อนภาษาไทอาหม 181 คำ คำซ้อนภาษาไทลื้อ 264 คำ และคำซ้อนภาษาลาว
415 คำ ทั้งนี้มีการใช้คำที่มีความสัมพันธ์ทางความหมายมาซ้อนกัน 4 ลักษณะ คือ ความหมายพ้องกัน ความหมายวิภาคกัน ความหมายตรงข้ามกัน และความหมายเป็นลำดับ ลักษณะที่พบมากที่สุด คือ ความหมายพ้องกัน ทั้งนี้ภาษาไทอาหม กับภาษาไทลื้อ ใช้ความหมายพ้องกันแบบไม่สมบูรณ์มากที่สุด พบ 53 คำ คิดเป็นร้อยละ 29.28 และ127 คำ คิดเป็นร้อยละ 48.10 ตามลำดับ ขณะที่ภาษาลาวใช้ความหมายพ้องแบบสมบูรณ์มากที่สุด พบ 172 คำ โดยคิดเป็นร้อยละ 41.44 ลักษณะที่พบลำดับที่ 2 คือ ลักษณะความหมายวิภาค พบว่าทั้ง 3 ภาษา ใช้ความหมายวิภาคแบบลูกกลุ่มมากที่สุด โดยภาษาไทอาหม พบ 50 คำ คิดเป็นร้อยละ 27.62 ภาษาไทลื้อ 37 คำ คิดเป็นร้อยละ 14.01และภาษาลาว 34 คำ คิดเป็นร้อยละ 8.19 ลักษณะที่พบลำดับที่ 3 คือ ลักษณะความหมายตรงข้ามกัน โดยภาษาไทอาหมใช้ความหมายตรงข้ามแบบทวิภาค และตรงข้ามแบบเทียบเกณฑ์มากที่สุด พบ 6 คำ เท่ากัน คิดเป็นร้อยละ3.31 ภาษาไทลื้อ และภาษาลาวมีการใช้ความหมายตรงข้ามแบบสัมพัทธ์มากที่สุด พบ 6 คำ คิดเป็น ร้อยละ 2.27และ 10 คำ คิดเป็นร้อยละ 2.40 ตามลำดับ ส่วนลักษณะความหมายเป็นลำดับพบน้อยที่สุด ภาษาไทอาหมจะใช้ความหมายเป็นลำดับที่มากที่สุด พบ 4 คำ คิดเป็นร้อยละ 2.20 ส่วนภาษาไทลื้อ และภาษาลาว ใช้ความหมายเป็นลำดับวงจรมากที่สุด พบ 5 คำ คิดเป็นร้อยละ 1.89 และ 3 คำ คิดเป็นร้อยละ 0.72 ตามลำดับ

Article Details

บท
บทความวิจัย

References

ชัชวดี ศรลัมพ์, ดียู ศรีนราวัฒน์, ชลธิชา บำรุงรักษ์, บุญเรือง ชื่นสุวิมล, ทรงธรรม อินทจักร, นันทนา รณเกียรติ,…, วริษา กมลนาวิน. (2559). ภาษาและภาษาศาสตร์. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

เทาคว่างแซ้ง และอ้ายคำ. (ผู้เรียบเรียง). (2544). เชื้อเครือเจ้าแสนหวี สิบสองพันนา. ปริวรรต และแปล โดย เรณู วิชาศิลป์. เชียงใหม่: ซิลคเวอร์มบุคส์.

ประคอง นิมมานเหมินท์. (2554). เจ้าเจืองหาญวีรบุรุษไทลื้อ ตำนาน มหากาพย์ พิธีกรรม. กรุงเทพฯ: สถาบันไทยศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ประเสริฐ ณ นคร. (2534). พจนานุกรมไทอาหม. กรุงเทพฯ: พิฆเณศพริ้นติ้งเว็นเตอร์.

พ. พวาสะบา. (1993). เซียงเหมี้ยง. (พิมพ์ครั้งที่ 2). เวียงจันทน์: โรงพิมพ์สึกสา.

พรพิลาส วงศ์เจริญ. (2554). ความหมายในภาษาไทย. เชียงใหม่: คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณะมนุษยศาสตร์. (2525). พจนานุกรมภาษาไทยเปรียบเทียบกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ไทยลื้อไทยดำ. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์. (2543). พจนานุกรม ลาว - ไทย - อังกฤษ Lao – Thai – English Dictionary ฉบับเฉลิมพระเกียรติ. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.

มหาสิลา วีระวงส์. (2500). พงศาวดารลาว. เวียงจันทน์: กระทรวงศึกษาธิการ.

ราตรี ธันวารชร. (2534). การศึกษาการซ้อนคำในภาษาไทย. (วิทยานิพนธ์ดุษฎีบัณฑิต, สาขาวิชาภาษาไทย จุฬาลงกรณ์หาวิทยาลัย).

ราชบัณฑิตยสถาน. (2556). พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554. กรุงเทพฯ: นานมีบุ๊คส์.

ราชบัณฑิตยสถาน. (2557). พจนานุกรมศัพท์ภาษาศาสตร์ (ภาษาศาสตร์ประยุกต์) ฉบับราชบัณฑิตยสถาน. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: ราชบัณฑิตยสถาน.

เรณู วิชาศิลป์. (2539). พงศาวดารไทอาหม Ahom Buranji เล่ม 1 - 2. กรุงเทพฯ: อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่งจำกัด.

วัลยา ช้างขวัญยืน, วิรุฬห์รัตน์ ไฉนงุ้น, อนันต์ เหล่าเลิศวรกุล และลัตติยา อมรสมานกุล. (2549). บรรทัดฐานภาษาไทย เล่ม 2 : การสร้างคำและการยืมคำ. กรุงเทพฯ: สถาบันภาษาไทย สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา.

วิภาส โพธิแพทย์. (2561). ภาษาไทยในมุมมองแบบลักษณ์ภาษา. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

Hartman, J. (1980). A model for the alignment of dialects in southwestern tai. Journal of the Siam Society, 68(1), 72 – 86.

Lehrer, A. (1974). Semantic fields and lexical structure. Amsterdam: North – Holland Publisher.

Nida, E. A. (1975). Componential analysis of meaning. The Hague: Mouton.

Terwiel, B. J. and Wichasin, R. (1992). Tai Ahoms and the star three ritual texts to ward off danger. New York: Cornell.