การใช้กระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือกันพัฒนาความสามารถในการดำเนินการงานวิจัยในชั้นเรียน ของนักศึกษา ฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูในโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบการดำเนินการทำวิจัยชั้นเรียนแบบร่วมมือกันศึกษาความคิดเห็นของครูพี่เลี้ยง/ครูที่ปรึกษา ผู้บริหาร และนักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูต่อการใช้กระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือกันพัฒนาความสามารถในการดำเนินการงานวิจัยชั้นเรียน และศึกษาประสิทธิภาพในการใช้กระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือกันพัฒนาความสามารถในการดำเนินการงานวิจัยชั้นเรียน ของนักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูระเบียบวิธีวิจัยใช้เทคนิคผสมระหว่างวิธีการเชิงคุณภาพ โดยจัดเวทีสนทนากลุ่มเป้าหมาย และเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงปริมาณ
ผู้วิจัยสังเคราะห์รูปแบบการดำเนินการทำวิจัยชั้นเรียนแบบร่วมมือกันของนักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูในโรงเรียนสาธิต มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่เสนอเป็น 4S Model เป็นรูปแบบเฝ้าระวัง กำกับและติดตามตรวจสอบการดำเนินการของผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ใน 4 ขั้นตอน ดังนี้
SWOT SETTLE STEERAGE STEPPING
ทบทวนตนเอง วางรากฐานสร้างความพร้อม ควบคุมวางแนวทาง การนำไปพัฒนาต่อ
การศึกษาประสิทธิภาพการใช้กระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือกันพัฒนาความสามารถในการดำเนินการงานวิจัยชั้นเรียนของนักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูในโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่โดยสถานศึกษาพบว่านักศึกษาทุกคนได้รับการประเมินการปฏิบัติการทำวิจัยชั้นเรียนได้ในระดับดีเยี่ยม ตามเกณฑ์ของคณะครุศาสตร์ (90-100)ความคิดเห็นของครูพี่เลี้ยง/ครูที่ปรึกษา ผู้บริหาร และนักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูต่อรูปแบบการดำเนินการทำวิจัยชั้นเรียนแบบร่วมมือกันพบว่ามีความคิดเห็นโดยรวมอยู่ในระดับมากถึงระดับมากที่สุด (4.30-4.69)
Using Co- operative Learning for Developing of Classroom Action Research Ability of Full-time Experience Teacher Students in Chiangmai Rajabhat University Demonstration School.
The purpose of this research are to develop the Co-operative learning model of classroom action research, to study a comment reflected by an instructional coaches/advisors, an executive officer, Full- time Experience Teacher Students and to study an efficiency of Co-operative learning model practiced by the Full- time Experience Teacher Students. Research methodology was comprised of qualitative research by focus group discussion, and quantitative research by collecting data. The research has found that:
Researcher synthesized the research of Co-operative learning model practiced by the Full- time Experience Teacher Students at Chiang Mai Rajabhat University Demonstation School, and presented as 4S Model; monitoring and examining model.
SWOT SETTLE STEERAGE STEPPING
Self-Revision Well-Prepared Supervision and Control To develop
The study of the efficiency of Co-operative leaning model practiced by the Full- time Experience Teacher Students who have worked/trained at Chiang Mai Rajabhat University Demonstration School has found that overall evaluation of the classroom action research, evaluated by the school officer were excellent level. The study of the comments that was revealed by instructional coaches/advisors, the executive officers and the Full- time Experience Teacher Student to the Co-operative learning model has found that opinion at a high level to at the highest level.
Article Details
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ และคณาจารย์ท่านอื่นๆ ในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว