ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความผูกพันต่อองค์กรของบุคลากรคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับความผูกพันต่อองค์กรของบุคลากรคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ และ 2) ศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความผูกพันต่อองค์กรของบุคลากรคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ กลุ่มตัวอย่าง คือ บุคลากรสายวิชาการและบุคลากรสายอำนวยการ จำนวน 142 คน โดยการสุ่มแบบเฉพาะเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูล ประกอบด้วย แบบสอบถาม 3 ส่วน คือ 1) ลักษณะส่วนบุคคล 2) ความคิดเห็นเกี่ยวกับปัจจัยด้านลักษณะงาน และ 3) ความคิดเห็นเกี่ยวกับความผูกพันต่อองค์กร วิเคราะห์ข้อมูลโดยการแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยที่ศึกษาโดยใช้สถิติสหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน สถิติสหสัมพันธ์อันดับของสเปียร์แมน และสถิติสหสัมพันธ์แบบพอยท์ไบซีเรียล ผลการศึกษา พบว่า ระดับความผูกพันต่อองค์กรโดยรวมของบุคลากรคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ อยู่ในระดับมาก (𝑥̅ = 4.20, S.D. = .49) ปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ เพศ (r = -.22, p < .01), อายุ (r = .28, p < .01) และระยะเวลาการปฏิบัติงาน (r = .24, p < .01) มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติกับความผูกพันต่อองค์กรในระดับต่ำ และปัจจัยด้านลักษณะงานโดยรวมมีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติกับความผูกพันต่อองค์กรในระดับปานกลาง (r = .60, p < .01) ผลการศึกษาครั้งนี้สามารถเป็นข้อมูลพื้นฐานในการนำไปใช้เป็นแนวทางในการออกแบบกิจกรรมหรือปรับปรุงกระบวนการเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้บุคลากรมีความผูกพันต่อองค์กรต่อไป
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
อยู่ระหว่างการปรับปรุง (ลิขสิทธิ์และการรับผิดชอบ)
เอกสารอ้างอิง
กรมสุขภาพจิต. (2563). รายงานผลการประเมินความผูกพันของบุคลากรต่อองค์กรในภาพรวมของกรมสุขภาพจิต ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562. https://hr.dmh.go.th/files/news/attachment/1592963921-Por-1.pdf
กฤตภาคิน มิ่งโสภา, บุษกร วัฒนบุตร, และวิโรชน์ หมื่นเทพ. (2566). แรงจูงใจในการปฏิบัติงานที่ส่งผลต่อความผูกพันต่อองค์กรของบุคลากรสายสนับสนุน มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดปทุมธานี. วารสารวิทยาลัยสงฆ์นครลำปาง, 12(3), 31-50.
กัลย์สุดา แก้วสุวรรณ. (2564). ความผูกพันต่อองค์กรของพนักงานมหาวิทยาลัยสายสนับสนุน มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ.
เขมจินันท์ เทิดทูนการค้า, ปณิตา อินทะจันทร์, และเมฆินทร์ สุรเมฆินทร์. (2567). สภาพแวดล้อมในการทำงานและความผูกพันต่อองค์กรมีผลต่อแรงจูงใจในการทำงาน กรณีศึกษา: โรงงานมะลิ กรุ๊ป 1962 จำกัด. วารสารวิทยาลัยนครราชสีมา สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 18(1), 321–334.
คณะกรรมการพิทักษ์สิทธิ์สวัสดิภาพและป้องกันภยันตรายในการวิจัยกับมนุษย์. (2567). แนวปฏิบัตินักวิจัยในการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ (ฉบับที่ 5.0). สำนักงานจริยธรรมการวิจัย สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
ชนัด เผ่าพันธุ์ดี. (2567). ความสัมพันธ์ของวัฒนธรรมองค์การกับความผูกพันของบุคลากรในเทศบาลตำบลช่องล อำเภอลานกระบือ จังหวัดกำแพงเพชร. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์, 26(1), 177-192.
ทิพย์ชนก เสนผดุง. (2563). ปัจจัยที่มีผลต่อความผูกพันต่อองค์กรของบุคลากรกรมการข้าว [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ธวัชชัย สุนทรนนท์. (2566). การศึกษาความผูกพันต่อองค์กรและการพัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบายในการส่งเสริมความผูกพันต่อองค์กรภายใต้กระแสการเปลี่ยนแปลงของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล จังหวัดตรัง. วารสารวิจัยสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 16(2), 1-16.
ธัญพิมล วสยางกูร, และจารุวรรณ พลอยดวงรัตน์. (2565). การบริหารทรัพยากรมนุษย์ในยุคการเปลี่ยนแปลงพลิกผันด้วยการสร้างองค์กรแห่งความคล่องตัว. วารสารสมาคมพัฒนาวิชาชีพการบริหารการศึกษาแห่งประเทศไทย (สพบท.), 4(4), 15-28.
ธารปาง ต.วิเชียร. (2563). ความสัมพันธ์ระหว่างงานที่มีความหมายต่อความผูกพันขององค์การของครูโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดระยอง [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยบูรพา.
ธิดารัตน์ สวนเศรษฐ์, ระพิน ชูชื่น, และธนวิน ทองแพง. (2562). ปัจจัยที่ส่งผลต่อความผูกพันองค์กรของพนักงานสายสนับสนุนวิชาการในมหาวิทยาลัยบูรพา. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา, 1(6), 55-67.
บุญใจ ศรีสถิตย์นรากูร. (2563). ขนาดอิทธิพลการวิเคราะห์อำนาจการคำนวณขนาดตัวอย่างที่เหมาะสมโดยโปรแกรม G*Power. สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
พัชร์หทัย จารุทวีผลนุกูล, ธัญวฤณ วัทโล, และวิลาสิณี สุดประเสริฐ. (2563). ปัจจัยที่ส่งผลต่อความผูกพันต่อองค์การของพนักงานบริษัทเอสเอสเค โลจิสติกส์ จำกัด. วารสารวิชาการสังคมศาสตร์เครือข่ายวิจัยประชาชื่น, 2(3), 27-39.
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์. คณะพยาบาลศาสตร์. (2567). แผนยุทธศาสตร์เพื่อการพัฒนา คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พ.ศ. 2568-2572.
รมิตา ประวัติ. (2564). ปัจจัยที่มีผลต่อความผูกพันต่อองค์กรของบุคลากรโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยบูรพา.
รัตน์ศิริ ทาโต. (2561). การวิจัยทางพยาบาลศาสตร์: แนวคิดสู่การประยุกต์ใช้ (ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 4). โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
รุจิรา ตัณฑพงษ์. (2563). ความสัมพันธ์ระหว่างแรงจูงใจในการปฏิบัติงานกับความผูกพันต่อองค์การของบุคลากรสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ศรญา จิตตมานนท์กุล. (2567). บรรยากาศองค์กรที่ส่งผลต่อความผูกพันต่อองค์กรของข้าราชการ สังกัดสำนักงานสถิติแห่งชาติ (ส่วนกลาง) [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ศิริลักษณ์ รักเจียม, ณัฐวัชร ประทีป ณ ถลาง, และจุรีวรรณ จันพลา. (2564). ความผูกพันต่อองค์กรและความสุขในการทำงานของบุคลากรสังกัดสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐแห่งหนึ่ง. วารสารวิจัยมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 9(2), 16-31.
สิทธิ์ชัย ชูจีน. (2563). ปัจจัยที่ส่งผลต่อความผูกพันองค์การของบุคลากรสังกัดสำนักงานสาธารณสุข อำเภอท่าแซะจังหวัดชุมพร. วารสารวิจัยและนวัตกรรมทางสุขภาพ, 3(2), 57-71.
อารีรัตน์ เสสตะญาติ, และกฤษฎา มูฮัมหมัด. (2566). ปัจจัยที่มีผลต่อความผูกพันในองค์การของพนักงานบริษัทเอกชนกลุ่มเจนเนอเรชั่นซีในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล. วารสารวไลยอลงกรณ์ปริทัศน์ (มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์), 13(2), 159-176.
ฮัสมิน มุวรรณสินธุ์, รติพร ถึงฝั่ง, และรัชพันธุ์ เชยจิตร. (2567). ความสัมพันธ์ระหว่างแรงจูงใจกับความผูกพันต่อองค์การของบุคลากรโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดชายแดนภาคใต้. วารสารพัฒนาสังคมและยุทธศาสตร์การบริหาร, 26(2), 97-119.
Bujang, M. A., Omar, E. D., Foo, D. H. P., & Hon, Y. K. (2024). Sample size determination for conducting a pilot study to assess reliability of a questionnaire. Restorative Dentistry & Endodontics, 49(1), e3. https://doi.org/10.5395/rde.2024.49.e3
Cohen, J. (1988). Statistical power analysis for the behavioral sciences (2nd ed.). Lawrence Erlbaum.
Deniz, A. (2024). The effect of normative commitment on intention to stay at work: An application in the aviation sector. Journal of Social Science Studies, 11(2), 1-69. https://doi.org/10.5296/jsss.v11i2.22398
Elifson, K. W., Runyon, R. P., & Haber, A. (1990). Fundamentals of social statistics (2nd ed.). McGraw-Hill.
Gandhi, M. (2023, January 19). The 7 generations: What do we know about them? Journey Matters. https://journeymatters.ai/7-generations/
Gray, J. R., Grove, S. K., & Sutherland, S. (2021). Burns and Grove’s the practice of nursing research: Appraisal, synthesis, and generation of evidence (9th ed.). Elsevier.
Meyer, J. P., & Allen, N. J. (1997). Commitment in the workplace: Theory, research and application. Sage.
Mowday, R. T., Steer, R. M., & Porter, L. W. (1979). The measurement of organizational commitment. Journal of Vocational Behavior, 14(2), 244-247. http://dx.doi.org/10.1016/0001-8791(79)90072-1
Polit, D. F., & Beck, C. T. (2021). Nursing research: Generating and assessing evidence for nursing practice (11th ed.). Wolters Kluwer.
