การเสด็จเยือนประเทศไทย และคำสอนของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ที่มีผลต่อเจตคติและการเติบโตทางจิตใจของบรรดาเยาวชน

Main Article Content

กมลา สุริยพงศ์ประไพ
มลธวัฒน์ กิจสวัสดิ์
บาทหลวง ผศ.ดร.อภิสิทธิ์ กฤษเจริญ
ศรัญญู พงศ์ประเสริฐสิน
บาทหลวง ผศ.วสันต์ พิรุฬห์วงศ์
บาทหลวง ดร.สุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์
บาทหลวง วิทยา เลิศทนงศักดิ์ 
บาทหลวง ทัศมะ กิจประยูร

บทคัดย่อ

การวิจัยเรื่อง การเสด็จเยือนประเทศไทยและคำสอนของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสที่มีผลต่อเจตคติและการเติบโตทางจิตใจของบรรดาเยาวชนครั้งนี้ เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาเจตคติของบรรดาเยาวชนต่อการเสด็จเยือนประเทศไทยและคำสอนของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส  2) ศึกษาการเติบโตทางจิตใจของบรรดาเยาวชนจากสมณลิขิตเตือนใจหลังการประชุมสมัชชา เรื่อง พระคริสตเจ้าทรงพระชนม์ (CHRISTUS VIVIT) ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส สำหรับบรรดาเยาวชน และประชากรของพระเจ้าทุกคน และบทเทศน์ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสที่ตรัสแก่เยาวชน ณ อาสนวิหารอัสสัมชัญ วันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 3) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างระหว่างเจตคติต่อการเสด็จเยือนประเทศไทยและคำสอนของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสกับประสบการณ์การรับเสด็จสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส  4) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการเติบโตทางจิตใจของบรรดาเยาวชนกับการรับรู้คำสอนเกี่ยวกับบรรดาเยาวชนของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส และ 5) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างเจตคติต่อการเสด็จเยือนประเทศไทยและคำสอนของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสกับการเติบโตทางจิตใจของบรรดาเยาวชนกลุ่มตัวอย่าง เป็นเยาวชนคาทอลิกจากสังฆมณฑลต่าง ๆ ในประเทศไทย ที่ได้จากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Sampling) จำนวน 456 คน เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วยแบบสอบถามเกี่ยวกับเจตคติต่อการเสด็จเยือนประเทศไทยและคำสอนของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส เป็นมาตรประมาณค่า 6 ระดับ จำนวน 30 ข้อ และแบบสอบถามเกี่ยวกับการเติบโตทางจิตใจของบรรดาเยาวชนเป็นมาตรประมาณค่า 6 ระดับ จำนวน 25 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ค่าร้อยละ(Percentage) ค่าเฉลี่ย (M) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD.) การวิเคราะห์ความแตกต่างระหว่างกลุ่ม (Independent sample t-test) การเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-Way ANOVA)  และการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ (Pearson correlation)


ผลการวิจัยพบว่า


  1. เยาวชนที่มีประสบประสบการณ์การรับเสด็จสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสระหว่างวันที่ 20-22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 ต่างกัน มีเจตคติแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

  2. เยาวชนที่รับรู้คำสอนจากสมณลิขิตเตือนใจ หลังการประชุมสมัชชา เรื่อง พระคริสตเจ้าทรงพระชนม์ (CHRISTUS VIVIT) ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส สำหรับบรรดาเยาวชน และประชากรของพระเจ้าทุกคน และบทเทศน์ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ต่างกัน มีการเติบโตทางจิตใจแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

  3. เจตคติต่อการเสด็จเยือนประเทศไทยและคำสอนของสมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิสมีความสัมพันธ์กับประสบการณ์การรับเสด็จสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ระหว่างวันที่ 20-22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (r = .176)

  4. การเติบโตทางจิตใจของบรรดาเยาวชนมีความสัมพันธ์กับการรับรู้คำสอนข้อคิดเกี่ยวกับเยาวชน จากสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (r = .110)

  5. เจตคติต่อการเสด็จเยือนประเทศไทยของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ระหว่างวันที่ 20-22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 มีความสัมพันธ์กับการเติบโตทางจิตใจ ของบรรดาเยาวชน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (r = .725)

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
สุริยพงศ์ประไพ ก., กิจสวัสดิ์ ม., กฤษเจริญ อ., พงศ์ประเสริฐสิน ศ. ., พิรุฬห์วงศ์ ว., ชุ่มศรีพันธุ์ ส., เลิศทนงศักดิ์  ว., & กิจประยูร ท. (2021). การเสด็จเยือนประเทศไทย และคำสอนของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ที่มีผลต่อเจตคติและการเติบโตทางจิตใจของบรรดาเยาวชน. วารสารวิชาการ วิทยาลัยแสงธรรม, 13(2), 58–84. สืบค้น จาก https://so01.tci-thaijo.org/index.php/scj/article/view/248154
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

จิรานุวัฒน์ คำปลิว. (2561). ความสัมพันธ์ระหว่างเจตคติและพฤติกรรมการปฏิบัติเกี่ยวกับนันทนาการของ นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

ณัฐภรณ์ นรพงษ์. (2553). การวิเคราะห์เปรียบเทียบโมเดลประยุกต์และโมเดลบูรณาการ การวัดความฉลาดทางจิตวิญญาณของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายในบริบทสังคมไทย. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: ครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

นิยะดา จิตต์จรัส. (2553). ความสุข. (เอกสารประกอบการสอน). กรุงเทพฯ: ม.ป.พ.

บุญธรรม กิจปรีดาบริสุทธิ์. (2540). ระเบียบวิธีวิจัยทางสังคมศาสตร์. คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.

ประณต เค้าฉิม. (2549). จิตวิทยาวัยรุ่น. กรุงเทพฯ: ภาควิชาจิตวิทยา คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

ราชบัณฑิตยสถาน. (2546). พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542. กรุงเทพฯ: นานมีบุ๊ค พับลิเคชั่นส์.

ปรียาพร วงศ์อนุตรโรงน์. (2551). จิตวิทยาการศึกษา : Educational psychology. กรุงเทพฯ: ศูนย์สื่อเสริมกรุงเทพ.

พระสุข สุขสำราญ. (2555). การศึกษาเจตคติด้านศีล 5 ในชีวิตประจำวันของนักเรียนวัยรุ่น. (สารนิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

รัชนี อิทธิวรากร. (2552). ความสัมพันธ์ระหว่างเชาวน์จิตวิญญาณ ความสุขในการทางานและความตั้งใจที่จะลาออก: กรณีศึกษาบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

สภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย. (2560). สมณลิขิตเตือนใจ หลังการประชุมสมัชชา เรื่องพระคริสตเจ้าทรงพระชนม์ (CHRISTUS VIVIT) ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส สำหรับบรรดาเยาวชน และประชากรของพระเจ้าทุกคน. (ม.ป.ป.) กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์อัสสัมชัญ.

อัญชลี ศุภวิทยาภินันท์. (2552). ความสัมพันธ์ระหว่างเชาวน์ด้านจิตวิญญาณ ความสุข และพฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีขององค์กร : กรณีศึกษาของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

Amram, Yosi. (2007). The Seven Dimensions of Spiritual Intelligence: An Ecumenical, Grounded Theory. N.P.: Paper Presented at the Conference of the 115th American.

Cooperman, A., Townsend, T. & O’Connell, T. (2014). How U.S. Catholics View Pope Francis: In Their Own Words. Communications, Religion & Public Life Project, Pew Reacher Center.

Emmons, Robert A. (2000). Is Spirituality an Intelligence? Motivation, Cognition, and the Psychology of Ultimate Concern. N.P.: The International Journal For The Psychology Of Religion.

Emmons, Robert A. (2000). Spirituality and Intelligence: Problems and Prospects. N.P.: The International Journal for the Psychology of Religion.