สมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อการบริหารงานวิชาการตามความคิดเห็นของครูในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 3

Main Article Content

วราภรณ์ ตระยางค์กูล
รศ.ดร.ประภาวรรณ ตระกูลเกษมสุข
ดร.สุภาวดี วงษ์สกุล

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับสมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษาตามความคิดเห็นของครูในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 3 2) ศึกษาระดับการบริหารงานวิชาการตามความคิดเห็นของครูในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 3 และ 3) วิเคราะห์สมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อการบริหารงานวิชาการตามความคิดเห็นของครูในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือครูในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษาเขต 3 จำนวน 346 คน คัดเลือกโรงเรียนของกลุ่มตัวอย่างจากผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ที่มีคะแนนเฉลี่ยระดับโรงเรียนสูงกว่าระดับประเทศ จำนวน 11 โรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 3 จากนั้นดำเนินการแบ่งสัดส่วนจำนวนครูด้วยการเทียบบัญญัติไตรยางค์ และทำการสุ่มตัวอย่างด้วยการสุ่มอย่างง่าย (Simple random sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือแบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น เป็นแบบสอบถามชนิดตรวจสอบรายการ (Checklist) และแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) ตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือ ความเที่ยงตรงของเนื้อหา (Content Validity) เท่ากับ 0.88 และความเชื่อมั่น รวมทั้งฉบับ (Reliability) เท่ากับ 0.98 สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ (Frequency) ร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (x̅) และส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน (S.D.) และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ (Multiple Regression Analysis) แบบ Stepwise ผลการวิจัยพบว่า 1) สมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษาตามความคิดเห็นของครูในโรงเรียนอยู่ในระดับมาก 2) การบริหารงานวิชาการตามความคิดเห็นของครูในโรงเรียนอยู่ในระดับมาก 3) สมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษาส่งผลต่อการบริหารงานวิชาการตามความคิดเห็นของครูในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 3 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 มีทั้งหมด 3 ด้าน ประกอบด้วยด้านการบริการที่ดี ด้านการมุ่งผลสัมฤทธิ์ และด้านจริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพ มีรูปแบบคะแนนดิบ (b) เท่ากับ 0.346, 0.251 และ 0.114 ตามลำดับ มีค่าสัมประสิทธิ์ของตัวแปรพยากรณ์ในรูปคะแนนมาตรฐาน (β) เท่ากับ 0.404, 0.310 และ 0.135 ตามลำดับ มีอำนาจในการพยากรณ์ร้อยละ 60.90 (R2 = 0.609) สำหรับสมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษาที่ไม่ส่งผลต่อการบริหารงานวิชาการ คือ สมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษาด้านการพัฒนาตนเอง ด้านการทำงานเป็นทีมและด้านการบริหารสถานศึกษา

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ตระยางค์กูล ว., ตระกูลเกษมสุข ป., & วงษ์สกุล ส. (2022). สมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อการบริหารงานวิชาการตามความคิดเห็นของครูในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 3. วารสารวิชาการ วิทยาลัยแสงธรรม, 14(2), 279–299. สืบค้น จาก https://so01.tci-thaijo.org/index.php/scj/article/view/264091
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

จิรพิพรรธ ธรรมแท้. (2557). สภาวการณ์การศึกษาไทยในเวทีโลกปี 2557 (พิมพ์ครั้งที่ 1). พริกหวาน กราฟฟิค.

นิทัศน์ ศิริโชติรัตน์. (2559). สมรรถนะเพื่อการพัฒนา Competency. ปัญญาชน.

บรรลุ ชินน้ำพอง. (2556). สมรรถนะของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของโรงเรียน สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น. [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยขอนแก่น].

พงษ์ศักดิ์ ด้วงทา. (2558). สมรรถนะวิชาชีพผู้บริหารโรงเรียนเอกชน ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาพิษณุโลกเขต 1. [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยศิลปากร]

พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับที่ 1) พ.ศ. 2546 (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2553 (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2562. ราชกิจจานุเบกษา. สำนักพิมพ์คณะรัฐมนตรีและราชกิจจานุเบกษา.

พิทูล ไชยศิริ. (2560). สมรรถนะหลักทางการบริหารของผู้บริหารสถานศึกษาตามความคิดเห็นของครูโรงเรียนบรบือวิทยาคาร. [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา].

วิทยากร ยาสิงห์ทอง. (2559). สมรรถนะในการบริหารงานของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาฉะเชิงเทรา เขต 1. [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์].

วิไลพร ศรีอนันต์. (2559). สมรรถนะผู้บริหารที่ส่งผลต่อการบริหารงานวิชาการโรงเรียนเอกชน จังหวัดนครปฐม. [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยศิลปากร].

ศรีนภา ฉิมเฉย. (2558). สมรรถนะของผู้บริหารที่ส่งผลต่อการบริหารงานวิชาการในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบุรีเขต 1. [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยศิลปากร].

สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน. (2558). แนวทางการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา: เพื่อพร้อมรับการประเมินภายนอก. พิมพ์ดี.

สำนักงานคณะกรมการการศึษาขั้นพื้นฐาน. (2553). คู่มือการประเมินสมรรถนะครู พ.ศ. 2553. คุรุสภา ลาดพร้าว.

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2560). แผนการศึกษาแหงชาติพ.ศ. 2560–2579. พริกหวาน กราฟฟิค.

อุษา แซ่เตียว. (2559). หลักการบริหารโรงเรียน. วัฒนาพานิช.

Cortina, L. (2011). School Administrators and the Professional Learning of General Education Teachers Related to Gifted Education: A Delphi Study Seton Hall University Dissertations and Theses (ETDs). Paper 1421.

Cronbach, Lee J. (1990). Essentials of psychological testing (3" ed). Harper & Row Publishers.

Krejcie, R. V. & Morgan, D. W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607-610.

Lackeus, M. (2015). Entrepreneurshib in Education, What, Why, When, How, OECD-European Commission, Brussels.

Likert, Rensis. (1967). The Method of Constructing and Attitude Scale. In Reading in Fishbeic, M (Ed.), Attitude Theory and Measurement. Wiley & Son.

McClelland, C. (1973). Test for Competency rather than intelligence. American Psychologists, 17(7).

Podolny, J. M. (2015). Education Governance and Administration (5th ed). Pearson Allyn and Bacon.