การประยุกต์หลักอิทธิบาท 4 ไปใช้ในการบริหารงานของผู้บริหารองค์การบริหาร ส่วนตำบลศรีโคตร อำเภอจตุรพักตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด
Main Article Content
บทคัดย่อ
สารนิพนธ์นี้ มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อการประยุกต์หลักอิทธิบาท 4 ไปใช้ในการบริหารงานของผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลศรีโคตร อำเภอจตุรพักตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด 2) เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นต่อการประยุกต์หลักอิทธิบาท 4 ไปใช้ในการบริหารงานของผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลศรีโคตร อำเภอจตุรพักตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด ของประชาชน ที่มีเพศ อายุ ระดับการศึกษา และประกอบอาชีพต่างกัน และ 3) เพื่อรวบรวมข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการประยุกต์หลักอิทธิบาท 4 ไปใช้ในการบริหารงานของผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลศรีโคตร อำเภอจตุรพักตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด ประชากร ที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ประชาชนที่เป็นหัวหน้าครัวเรือนหรือผู้แทนในเขต องค์การบริหารส่วนตำบลศรีโคตร อำเภอจตุรพักตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน 1,052 คน กำหนดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้สูตรการคำนวณของทาโร่ ยามาเน่ (Taro Yamane) ได้กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 290 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่าห้าระดับ มีความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.90 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติอนุมานหรืออ้างอิงได้แก่ การทดสอบค่าที (t-test) การทดสอบความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA : F-test)
ผลการวิจัยพบว่า 1) ความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อการประยุกต์หลักอิทธิบาท 4 ไปใช้ในการบริหารงานของผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลศรีโคตร อำเภอจตุรพักตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด โดยรวมและรายข้อ อยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน อยู่ในระดับปานกลางทั้งสี่ด้าน เรียงจากด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากไปหาน้อย ได้แก่ ด้านโครงสร้างพื้นฐาน ด้านทรัพยากรธรรมชาติ และแหล่งน้ำ ด้านเศรษฐกิจ และด้านสังคม ตามลำดับ 2) ผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า ประชาชน ที่มีเพศ อายุ ระดับการศึกษา และประกอบอาชีพต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการประยุกต์หลักอิทธิบาท 4 ไปใช้ในการบริหารงานของผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลศรีโคตร อำเภอจตุรพักตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด โดยรวมและรายด้าน ไม่แตกต่างกัน ซึ่งไม่เป็นไปตามสมมติฐานของการวิจัยที่ตั้งไว้ และ 3) ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการประยุกต์หลักอิทธิบาท 4 ไปใช้ในการบริหารงานของผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลศรีโคตร อำเภอจตุรพักตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด ลำดับตามความถี่สูงไปหาต่ำ สามอันดับแรก ได้แก่ ควรประยุกต์หลักอิทธิบาท 4 (วิมังสา) คือ การติดตามตรวจสอบงานการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนให้ดีมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ควรติดตามการส่งเสริมอาชีพในชุมชนเพิ่มมากขึ้น และควรติดตามตรวจสอบซ่อมแซมถนนชำรุดให้ใช้งานได้อย่างสม่ำเสมอ
Article Details
เอกสารอ้างอิง
ดาราณี สิทธิพงศ์. (2549). ผลสัมฤทธิ์ในการใช้อิทธิบาท 4 ในการพัฒนาชุมชน: ศึกษาเฉพาะกรณีเทศบาลตำบลทอนหงส์ อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช. สารนิพนธ์ศาสนศาสตร มหาบัณฑิต สาขาวิชารัฐศาสตร์การปกครอง. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย.
บุญชม ศรีสะอาด. (2545). การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 7. กรุงเทพมหานคร : สุวีริยาสาส์น.
พระถวิล ยสินฺธโร (แสงสุด). (2558). การประยุกต์ใช้อิทธิบาท 4 ในการปฏิบัติงานของบุคลากรองค์การบริหารส่วนตำบลหนองพอก อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด. วารสารมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตร้อยเอ็ด. 4(1). 104-118.
พระธรรมโกศาจารย์ (ปัญญานันทภิกขุ). (ม.ป.ป.). พจนานุกรมธรรมของท่านปัญญานันทะ. กรุงเทพมหานคร : ธรรมสภา.
พระธัชพล สิริภทฺโท (งามแพง). (2558). การประยุกต์ใช้หลักอิทธิบาทในการปฏิบัติงานของบุคลากรองค์การบริหารส่วนตำบล อำเภออาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด. วารสารมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตร้อยเอ็ด. 4(1). 158-172.
พระราชปัญญากวี(สุบิน เขมิโย). (2528). ประมวลบทพระธรรมเทศนา. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์กรมการศาสนา.
สรชัย พิศาลบุตร. (2548). เรียนรู้สถิติและการวิจัยด้วยกรณีศึกษา. กรุงเทพมหานคร : บริษัท จูนพับลิซซิ่ง จำกัด.
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ. (2546). คู่มือคำอธิบายและแนวทางปฏิบัติตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์ ก.พลพิมพ์.
เสกสันต์ บุญยะ. (2548). การใช้อิทธิบาท 4 ในการบริหารบุคคลของผู้บริหารโรงเรียนพระปริยัติธรรมขนาดเล็ก แผนกสามัญศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเชียงใหม่ เขต 4. ปริญญานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขารัฐประศาสนศาสตร์. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่.
องค์การบริหารส่วนตำบลศรีโคตร. (2560). แผนพัฒนาสามปีตำบลศรีโคตร. ร้อยเอ็ด : องค์การบริหารส่วนตำบลศรีโคตร.