ยุทธศาสตร์เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอย่างยั่งยืนในเขตพื้นที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

Main Article Content

ปิยะสุดา เพชราเวช
พระมหาอำนวย มหาวีโร
พระศิลาศักดิ์ สุเมโธ
สิริวุฒิ รัศมีฉาย

บทคัดย่อ

          การวิจัยนี้มีจุดประสงค์ 1)เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อยุทธศาสตร์การพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2)เพื่อศึกษายุทธศาสตร์ที่เหมาะสมในการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3) เพื่อหาแนวทางการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเป็นเส้นทางการท่องเที่ยวโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ได้คัดเลือกแบบเจาะจง ในพื้นที่จังหวัดนครพนม จังหวัดร้อยเอ็ด และจังหวัดยโสธร เพื่อคัดเลือกตัวแทนการจัดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ผ่านสถาบันหลักทั้ง 6 สถาบัน ผู้ให้ข้อมูลประกอบด้วย กลุ่มผู้รู้ 12 คน กลุ่มผู้ปฏิบัติ 50 คน กลุ่มบุคคลทั่วไป 60 คน ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสัมภาษณ์ การสนทนากลุ่ม ตรวจสอบข้อมูลโดยใช้เทคนิคการตรวจสอบแบบสามเส้า วิเคราะห์ตามความมุ่งหมาย นำเสนอผลการวิจัยโดยการพรรณนาวิเคราะห์ ผลการวิจัยพบว่า


           1. ผลการศึกษาปัจจัยส่วนบุคคลที่มีผลต่อยุทธศาสตร์เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบว่า ในการจัดทำยุทธศาสตร์ ปัจจัยส่วนบุคคลจะไม่มีผลต่อการทำแผนยุทธศาสตร์มาก เนื่องจากการจัดทำแผนจะต้องอาศัยกลุ่มบุคคลที่ร่วมมือกันประกอบด้วย กลุ่มงานภาครัฐ กลุ่มงานภาคธุรกิจ และกลุ่มประชาชนในพื้นที่ วิเคราะห์ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholder Analysis) โดยการจัดทำประชาคมเพื่อเสนอเข้าสู่การกำหนดยุทธศาสตร์ของหน่วยงานภาครัฐ ในการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ดังนั้น ปัจจัยส่วนบุคคลจะมีผลน้อยมากต่อการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ นอกจากนี้การศึกษาศึกษายังมีประเด็นของปัจจัยที่มีผลต่อยุทธศาสตร์การท่องเที่ยว คือ 1) ต้นทุนทางด้านกายภาพ และ 2) ต้นทุนทางด้านจิตภาพ


           2. ผลการศึกษาปัจจัยพื้นฐานของการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ภาคตะวันออกเฉียงเหนือประกอบไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่มีความหลากหลาย และกระจายไปยังพื้นที่ต่างๆ ของภาค แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญและมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากจะอยู่ในการดูแลของหน่วยงานภาครัฐหลายหน่วยงาน ซึ่งแหล่งท่องเที่ยวบางแห่งจะหน่วยงานที่มีหน้าที่ดูแลและรับผิดชอบหลายหน่วยงาน ทำให้เกิดปัญหาในเชิงการบริหารและการจัดการของแหล่งท่องเที่ยว ส่งผลต่อการพัฒนาให้ทันต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว การบูรณาการการทำงานของหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแหล่งท่องเที่ยวจึงเป็นสิ่งที่ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนและกำหนดไว้ในแผนยุทธศาสตร์การพัฒนามีแผนการปฏิบัติงานอย่างชัดเจน


           3. การจัดทำเส้นทางการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ให้มีความเชื่อมโยงไปยังจังหวัด และภูมิภาคอื่นๆ ด้วย โดยเน้นให้มีการจัดกลุ่มการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมให้ชัดเจน

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
เพชราเวช ป., มหาวีโร พ., สุเมโธ พ., & รัศมีฉาย ส. (2019). ยุทธศาสตร์เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอย่างยั่งยืนในเขตพื้นที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. วารสารมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตร้อยเอ็ด, 8(2), 372–382. สืบค้น จาก https://so01.tci-thaijo.org/index.php/AJMBU/article/view/229194
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กุลธิดา สามะพุทธิ. (2540). การท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม : ทางเลือกใหม่ของการเดินทาง.กรุงเทพมหานคร : ม.ป.พ..

ภูมิชัย มั่งเรืองสกุล บุญทัน ดอกไธสง สุดใจ ทูลพานิชยวิจ และสะอาด บรรเจิดฤทธิ์. (2555). ยุทธศาสตร์การพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของจังหวัดนครราชสีมา. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสาราคาม(มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์). 6(3). 55-65.

รุ่งรดิศ เมืองลือ, พยอม ธรรมบุตร. (2560). แผนยุทธศาสตร์เพื่อการพัฒนาการท่องเที่ยวแบบบูรณาการอย่างยั่งยืน ในจังหวัดชลบุรี. วารสารวิชาการมหาวิทยาบลัยฟาร์อีสเทอร์น. 11(2). 162-181.

สุนีย์ เลี่ยวเพ็ญวงษ์. (2557). ยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลางสู่การเป็นศูนย์กลางอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง. ในการประชุมวิชาการ การพัฒนาชนบทที่ยั่งยืน ครั้งที่ 4 ประจำปี 2557 วันที่ 11-13 มิถุนายน 2557. 674-678.

สุภางค์ จันทวานิช. (2553). วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ. พิมพ์ครั้งที่ 18. กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.