การพัฒนาโปรแกรมพัฒนาครูในการเสริมสร้างการเห็นคุณค่าในตนเองของนักเรียน สำหรับสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 27
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาองค์ประกอบการเห็นคุณค่าในตนเองของนักเรียน 2) ศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์ของการเห็นคุณค่าในตนเองของนักเรียน 3) ศึกษาวิธีการพัฒนาครูในการเสริมสร้างการเห็นคุณค่าในตนเองของนักเรียน และ 4) พัฒนาโปรแกรมพัฒนาครูในการเสริมสร้างการเห็นคุณค่าในตนเองของนักเรียน การวิจัยแบ่งออกเป็น 4 ระยะ ดังนี้ ระยะที่ 1 ศึกษาองค์ประกอบการเห็นคุณค่าในตนเองของนักเรียน ประเมินความเหมาะสมขององค์ประกอบโดยผู้ทรงคุณวุฒ 5 คน ระยะที่ 2 ศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์ของการเสริมสร้างการเห็นคุณค่าในตนเองของนักเรียนเก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง คือ ครูประจำชั้นและครูผู้สอนโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 27 จำนวน 360 คน ระยะที่ 3 ศึกษาวิธีการพัฒนาครูในการเสริมสร้างการเห็นคุณค่าในตนเองของนักเรียน ผู้ให้ข้อมูลคือ ผู้บริหารและครูโรงเรียนต้นแบบ 2 โรงเรียน และระยะที่ 4 การพัฒนาโปรแกรมพัฒนาครูในการเสริมสร้างการเห็นคุณค่าในตนเองของนักเรียน สำหรับสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 27 ประเมินความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของโปรแกรม โดยผู้ทรงคุณวุฒิ 5 คน สถิติที่ใช้ในการวิจัย คือ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ และการวิเคราะห์หาค่าดัชนีความต้องการจำเป็น
ผลการวิจัยพบว่า 1)องค์ประกอบของการเห็นคุณค่าในตนเองของนักเรียน ประกอบด้วย4 องค์ประกอบ ดังนี้ การพึ่งพาตนเอง ความเชื่อมั่นในตนเอง การยอมรับในตนเองและผู้อื่น การจัดการอารมณ์ 2)สภาพปัจจุบันการเสริมสร้างการเห็นคุณค่าในตนเองของนักเรียน มีสภาพปัจจุบันโดยรวมและรายด้านทุกด้านอยู่ในระดับปานกลาง สภาพที่พึงประสงค์โดยรวมและรายด้านทุกด้านอยู่ในระดับมาก 3)วิธีการพัฒนาครูในการเสริมสร้างการเห็นคุณค่าในตนเองของนักเรียนจากการศึกษาวิธีการพัฒนาบุคลากรของโรงเรียนต้น 2 แห่ง ได้แก่ การอบรมให้ความรู้ การนิเทศภายใน การประชุมอย่างไม่เป็นทางการ และการฝึกปฏิบัติงานในงาน 4)ผลการพัฒนาโปรแกรมพัฒนาครูในการเสริมสร้างการเห็นคุณค่าในตนเองของนักเรียนสำหรับสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 27 ประกอบด้วย 7 องค์ประกอบ ดังนี้ 1) บริบทของโปรแกรม 2) แผนการดำเนินกิจกรรม และ 3) การดำเนินกิจกรรมผลการประเมินความเหมาะสมโดยรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก และมีความเป็นไปได้โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
ชูชีพ อ่อนโคกสูง. (2550). จิตวิทยาศัพท์. กรุงเทพมหานคร : คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
ธีระ ชัยยุทธยรรยง. (2542). การเสริมสร้างความรู้สึกเห็นคุณค่าในตนเอง. วารสารวิชาการ. 2(2). 68-74.
นงลักษณ์ วิรัชชัยและสุวิมล ว่องวานิช. (2544). การวิจัยและพัฒนาเพื่อการปฏิรูปโรงเรียน. กรุงเทพมหานคร : คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
อภิเชษฐ์พูลทรัพย์ และมนูญพูลทรัพย์. (2553). การศึกษารูปแบบกระบวนการสร้างพลังต่อการพัฒนาแบบมีส่วนร่วมในอาสาพัฒนาสิ่งแวดล้อมและโรงพยาบาลปลอดบุหรี่. พิษณุโลก : โรงพยาบาลพุทธชินราชพิษณุโลก.
อรุณ รักธรรม. (2540). การพัฒนาและฝึกอบรม :ศึกษาเชิงพฤติกรรม. กรุงเทพมหานคร : คณะรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์.
อุมาพร ตรังคสมบัติ. (2543). EVEREST พาลูกค้นหาความนับถือตนเอง. กรุงเทพมหานคร : ซันต้าการพิมพ์.
Barry, P.D. (1998). Mental Health and Mental Illness. 5th ed. Philadelphia : J.B. Lippincott.
Coopersmith, S. (1981). The Antecedents of Self-inventory. 2nd ed.. Palo Alto, California : Psychologists.
Krejcie, R.V., &Morgan, D.W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement. 30(3). 607 – 610.
Maslow, A. (1970). Motivation and Personality. New York : Harper & Row.