การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาการอ่านจับใจความภาษาไทยจากเรื่องราวในท้องถิ่น กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 3 บ้านปาตาตีมอ เทศบาลเมืองตะลุบัน อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาการอ่านจับใจความภาษาไทย จากเรื่องราวในท้องถิ่น กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 3 บ้านจะบังติกอ สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี จำนวน 27 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1)เครื่องมือสำรวจข้อมูลพื้นฐาน ได้แก่ แบบสัมภาษณ์ 2) เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอน ได้แก่ รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาการอ่านจับใจความภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย และแผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 26 แผน 3)เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินผลและปรับปรุงรูปแบบการเรียนการสอน ได้แก่ แบบทดสอบการอ่านจับใจความแบบสังเกตพฤติกรรมและแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการเรียนการสอน ดำเนินการเก็บข้อมูลทุกขั้นตอนด้วยตนเอง วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า 1)ผลการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานได้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาการอ่านจับใจความภาษาไทยจากเรื่องราวในท้องถิ่น กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นที่ 1 ขั้นเตรียม ขั้นที่ 2 ขั้นสอนเป็นกลุ่ม ขั้นที่ 3 ขั้นตรวจสอบความรู้เป็นคู่ทีม ขั้นที่ 4 ฝึกเสริมเป็นรายบุคคล ขั้นที่ 5 การวัดผลและประเมินผล 2)รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาการอ่านจับใจความภาษาไทย จากเรื่องราวในท้องถิ่น ตามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากถึงมากที่สุด 3) ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาการอ่านจับใจความภาษาไทย จากเรื่องราวในท้องถิ่น พบว่า คะแนนเต็ม 30 คะแนน นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน 12.52 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 41.73 คะแนนเฉลี่ยหลังเรียน 24.36 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 81.20 แสดงว่านักเรียนมีความสามารถในการอ่านจับใจความภาษาไทย จากเรื่องราวในท้องถิ่นเพิ่มขึ้น 4) จากการทดสอบวัดความสามารถในการอ่านจับใจความภาษาไทย จากเรื่องราวในท้องถิ่น ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 พบว่า คะแนนเต็ม 30 คะแนน นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน 12.56 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 41.85 คะแนนเฉลี่ยหลังเรียน 24.52 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 81.73 ซึ่งไม่น้อยกว่าเกณฑ์ร้อยละ 75 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานของการวิจัย และนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีความพึงพอใจต่อการอ่านจับใจความภาษาไทย จากเรื่องราวในท้องถิ่นที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาการอ่านจับใจความภาษาไทย จากเรื่องราวในท้องถิ่น กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กองการศึกษา เทศบาลเมืองตะลุบัน อำเภอสายบุรี. (2556). รายงานผลการประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน. จังหวัดปัตตานี : กองการศึกษา เทศบาลเมืองตะลุบัน.
ขวัญทอง ศรีนรพรรณ. (2551). การพัฒนาการอ่านจับใจความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยจากนิทานพื้นบ้าน ในรูปสื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนธรรมจาริกอุปถัมภ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเชียงราย เขต 3. วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย.
ณภัทร เพพรรธนะ. (2542). ภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร. กรุงเทพมหานคร : ดอกหญ้า.
ทิพย์จันทร์ ธรรมวิเศษ. (2554). การพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความโดยใช้บทเรียนสำเร็จรูปประกอบการ์ตูน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5. วิทยานิพนธ์วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาหลักสูตรและการสอน. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.
ปาริชาติ แผงบุดดา. (2553). การพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความ โดยใช้ชุดการสอนนิทานพื้นบ้าน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม.
เยาวลักษณ์ สาระโน. (2551). การใช้ชุดการสอนนิทานเพื่อพัฒนาการอ่านจับใจความกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช่วงชั้นที่ 1 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านห้วยไคร้ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเชียงราย เขต 3. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพัฒนาหลักสูตรและการสอน มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย.
โรงเรียนเทศบาล 3 บ้านปาตาตีมอ. (2556). รายงานการประเมินคุณภาพภายนอก. ปัตตานี : เทศบาลเมืองตะลุบัน อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี.
ศิริอร อินทร์ตลาดชุม. (2546). หลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย.วารสารวิชาการ. 6(2). 27-29.