การจัดกิจกรรมทางกายหลังเลิกเรียนตามนโยบาย ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ในโรงเรียน ระดับประถมศึกษา สังกัดเขตพื้นที่การศึกษากระบี่

Main Article Content

ไมตรี ยาตา
รายาศิต เต็งกูสุลัยมาน
พีระพงศ์ หนูพยันต์

บทคัดย่อ

         บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพการจัดกิจกรรมทางกายหลังเลิกเรียนตามนโยบาย ลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ ในโรงเรียนระดับประถมศึกษา สังกัดเขตพื้นที่การศึกษากระบี่ กลุ่มตัวอย่างเป็นครูพลศึกษา จำนวน 147 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบถามแบบตรวจคำตอบ ซึ่งมีค่าความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา จากการคำนวณหาค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่างข้อคำถามกับวัตถุประสงค์ของการวิจัย ระหว่าง 0.67-1.00 และมีค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามทั้งฉบับเท่ากับ 0.73 สถิติสำหรับวิเคราะห์ข้อมูลประกอบด้วยการหาค่าความถี่ และค่าร้อยละ


          ผลการวิจัยพบว่า การจัดกิจกรรมทางกายหลังเลิกเรียนตามนโยบาย ลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ ในโรงเรียนระดับประถมศึกษา สังกัดเขตพื้นที่การศึกษากระบี่ส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนขนาดเล็กและจัดกิจกรรมทางกายบริเวณสนามฟุตบอลเคยจัดกิจกรรมทางกายอย่างต่อเนื่องทั้งนี้เนื่องจากเป็นนโยบายของสถานศึกษา โดยใช้เวลา 30 นาที ก่อนเข้าเรียนในการปฏิบัติกิจกรรม เป็นเวลา 5 วันต่อสัปดาห์ จัดกลุ่มกิจกรรมทางกายตามชั้นปีที่ศึกษา กิจกรรมที่นักเรียนเลือกคือกิจกรรมนันทนาการและเกม โดยมีวัตถุประสงค์ที่สำคัญคือ เพื่อส่งเสริมสุขภาพร่างกาย อารมณ์ และจิตใจตามที่คู่มือกำหนด นอกจากนี้ยังพบอีกว่าอุปสรรคที่พบขณะจัดกิจกรรมทางกายคือ สภาพดินฟ้าอากาศไม่อำนวย

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ยาตา ไ., เต็งกูสุลัยมาน ร., & หนูพยันต์ พ. (2019). การจัดกิจกรรมทางกายหลังเลิกเรียนตามนโยบาย ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ในโรงเรียน ระดับประถมศึกษา สังกัดเขตพื้นที่การศึกษากระบี่. วารสารมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตร้อยเอ็ด, 9(2), 435–447. สืบค้น จาก https://so01.tci-thaijo.org/index.php/AJMBU/article/view/244715
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ. (2559). นโยบาย ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้. สืบค้นเมื่อ 20 พฤศจิกายน 2559. จาก http://www.moe.go.th/websm/2015/sep/319.html

กระทรวงศึกษาธิการ. (2559). แนวทางลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้. สืบค้นเมื่อ 25 พฤศจิกายน 2559. จาก http://www.thaigov.go.th

กระทรวงสาธารณสุข. (2550). ข้อเสนอแนะ แนวทางการมีกิจกรรมทางกาย (Physical Activity) ที่เหมาะสมสำหรับเด็กและเยาวชนในโรงเรียน.
กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์ชุมชนสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.

กัลยา กิจบุญชู. (2546). แนวทางการส่งเสริมการออกกำลังกายในโรงเรียน. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์ชุมชนสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.

เจริญ กระบวนรัตน์. (2556). กิจกรรมทางกาย. วารสารสุขศึกษา พลศึกษา และสันทนาการ. 39 (1). 5-13.

ซิตินทรีย์ บุญมา. (2562). กระบวนการเรียนรู้ที่จะช่วยสร้างเสริมพัฒนาการเรียนรู้. สืบค้นเมื่อ 20 กันยายน 2562. จาก http://padatabase.net/uploads/files/01/doc/476_.pdf

นโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2562). สืบค้นเมื่อ 20 กันยายน 2562.จาก www.phitsanulok2.go.th › UserFiles › files › policies_Obec2562

นรินทร์ สุทธิศักดิ์. (2558). การพัฒนาศักยภาพครูพลศึกษาหลักสูตร “การจัดกิจกรรมทางกาย สำหรับนักเรียนหลังเลิกเรียน” โครงการลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้. กรุงเทพมหานคร :สำนักพิมพ์สถาบันการพลศึกษา กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา.

ปราณี คงพิกุล. (2559). นโยบายการลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ Moderate Class More Knowledge. สืบค้นเมื่อ 25 พฤศจิกายน 2559. จาก http://www.sk1edu.go.th/dta

วาสนา คุณาอภิสิทธิ์. (2556). เป้าหมายของการจัดกิจกรรมทางกายในสถานศึกษาให้สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขันพื้นฐาน. วารสารสุขศึกษา พลศึกษา และสันทนาการ. 39(1). 16-39.

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2579. สืบค้นเมื่อ 20 กันยายน 2562. จาก https://www.kruchiangrai.net