ปัญหาทางกฎหมายว่าด้วยลักษณะต้องห้ามของการใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 : ศึกษากรณีลักษณะต้องห้ามเป็น ผู้เคยต้องคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด
Main Article Content
บทคัดย่อ
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้ใช้อำนาจนิติบัญญัติในฐานะตัวแทนประชาชนย่อมต้องได้รับการกลั่นกรองคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามในเบื้องต้นเพื่อเป็นหลักประกันว่าผู้ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะต้องมีความประพฤติและคุณสมบัติอันเป็นที่ยอมรับ
ของสาธารณชน ปฏิบัติหน้าที่อย่างสุจริตเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ไม่มีมลทิน และไม่ทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติภูมิของสภาผู้แทนราษฎร ฉะนั้น ผู้ที่เคยต้องคำพิพากษาศาลอันถึงที่สุดต้องด้วยลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามนัยของมาตรา 98 (10) รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ย่อมไม่อยู่ในฐานะที่จะไว้วางใจในความสุจริตและปราศจากเหตุมัวหมองในการปฏิบัติหน้าที่ได้ อย่างไรก็ตาม บทบัญญัติว่าด้วยลักษณะต้องห้ามดังกล่าวมีลักษณะเป็นการตัดสิทธิของบุคคล โดยถึงแม้ว่าในแง่ความเหมาะสมและความจำเป็นในการกำหนดลักษณะต้องห้ามขึ้นเพื่อเป็นการคัดเลือกบุคคลผู้ซึ่งสมควรที่จะเข้ามาปฏิบัติภารกิจหน้าที่เพื่อประโยชน์มหาชน โดยการเลือกมาตรการที่มีผลเป็นการลดทอนสิทธิของปัจเจกชนบางประการเพื่อความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งทางการเมืองอันเป็นการปฏิบัติหน้าที่ที่สำคัญ แต่ในด้านเนื้อหาการกำหนดฐานความผิดอันจะทำให้ผู้นั้นเสียสิทธิสมัครรับเลือกตั้งไว้ในบทบัญญัติดังกล่าวนั้นยังขาดความชัดเจนและความได้สัดส่วนระหว่างการกำหนดเนื้อหาที่มีลักษณะกว้างกับบทลงโทษด้วยการถูกตัดสิทธิสมัครรับเลือกตั้งอย่างไม่มีกำหนด รวมถึงประเด็นสังเกตในกรณีการได้รับการแก้ไขปรับปรุงผู้กระทำผิดโดยการล้างมลทินซึ่งถือเป็นผู้ที่เคยต้องคำพิพากษาของศาลตามความหมายของบทบัญญัติดังกล่าว จึงทำให้บทบัญญัติดังกล่าวข้างต้นมีผลเป็นการตัดสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานในด้านการใช้สิทธิทางการเมืองของบุคคลมากเกินกว่าเหตุ เมื่อเทียบกับบทบัญญัติอื่นในลักษณะต้องห้ามอย่างเดียวกัน ดังนั้น เพื่อเป็นการเคารพหลักสิทธิมนุษยชนของบุคคลและเพื่อให้บทบัญญัติดังกล่าวสามารถบังคับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสอดคล้องตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญในการกำหนดลักษณะต้องห้ามของผู้ซึ่งจะใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเพื่อดำรงตำแหน่งสาธารณะ จึงเห็นสมควรให้มีการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายในเรื่องขอบเขตของลักษณะต้องห้ามเป็นผู้เคยต้องคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุดสำหรับการใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้เป็นบรรทัดฐานถือปฏิบัติตามและแบบอย่างการเป็นผู้นำที่ดีและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อให้ข้อกำหนดในบทบัญญัติดังกล่าวมีความสอดคล้องเหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยในปัจจุบันอย่างมากที่สุด
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution 4.0 International License.
O ความคิดเห็นใดๆ ที่ลงตีพิมพ์ใน CMU Journal of Law and Social Sciences เป็นของผู้เขียน (ความคิดเห็นใดๆ ของผู้เขียน กองบรรณาธิการ CMU Journal of Law and Social Sciences ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย)
O กองบรรณาธิการ CMU Journal of Law and Social Sciences ไม่สงวนสิทธิ์ในการคัดลอกแต่ให้อ้างอิงแหล่งที่มาด้วย
เอกสารอ้างอิง
“Constitution of the Federal Republic of Germany.” Accessed March 9, 2025. https://www.bmi.bund.de/EN/topics/constitution/constitutional-issues/constitutional-issues-node.html.
“Commonwealth of Australia Constitution Act (The Constitution).” Accessed
April 5, 2025. https://www.legislation.gov.au/C2004Q00685/latest/text.
“Electoral Code - Title II: Special Provisions for the Election of Members of Parliament (Articles LO119 to L190).” Accessed April 6, 2025. https://www.legifrance.gouv.fr/codes/section_lc/LEGITEXT000006070239/LEGISCTA000006148465/#LEGISCTA000006148465.
“Constitution of the Republic of Singapore.” Accessed April 12, 2025. https://www.eld.gov.sg/Resources/Constitution%20of%20the%20Republic%20of%20Singapore.pdf.
“German Criminal Code (Strafgesetzbuch - StGB).” Accessed March 26, 2025. https://www.gesetze-im-internet.de/englisch_stgb/index.html.
“The Basic Law (Grundgesetz).” Accessed March 15, 2025. https://www.bamf.de/EN/Themen/Integration/ZugewanderteTeilnehmende/ErsteOrientierung/UnserGrundgesetz/unser-grundgesetz-node.html.
เกรียงไกร เจริญธนาวัฒน์. หลักพื้นฐานกฎหมายมหาชน. พิมพ์ครั้งที่ 9. กรุงเทพฯ: วิญญูชน, 2566.
เกื้อ เจริญราษฎร์. “มโนทัศน์ว่าด้วยความสมควรแก่เหตุ: ศึกษาพัฒนาการของหลักกฎหมายและการปรับใช้ในศาลรัฐธรรมนูญแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีและศาลสูงสุดแห่งสหรัฐอเมริกา” (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2560.
คริษฐา ดาราศร. “ปัญหาการบังคับใช้ประมวลจริยธรรมของสมาชิกรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 ศึกษาเฉพาะกรณีการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและประโยชน์ส่วนสาธารณะ” (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2548.
จุฬารัตน์ ยะปะนัน. “นิรโทษกรรม พระราชทานอภัยโทษ และการล้างมลทิน.” สืบค้นเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2568. https://www.senate.go.th/assets/portals/93/fileups/272/files/ Sub_Jun/12know/K27_jun_3_2.pdf.
ต่อพงศ์ กิตติยานุพงศ์, ทฤษฎีสิทธิขั้นพื้นฐาน. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ: วิญญูชน, 2565.
ธนิตา สุขช่วย. “หลักการขัดกันแห่งผลประโยชน์ตามรัฐธรรมนูญ: ศึกษากรณีข้อห้ามสมาชิกรัฐสภาเข้าเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่ต้องห้าม” (วิทยานิพนธ์ ปริญญามหาบัณฑิต, คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2560.
วิชช์ จีระแพทย์. “สิทธิมนุษยชน vs สิทธิพลเมือง,” วารสารศาลรัฐธรรมนูญ (2546): 134-135. สืบค้นเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568. https://elibrary.constitutionalcourt.or.th/multim/jindex
/5-13/Image/5-13-134.pdf.
วิวรรธน์ ดำรงกุลนันท์. “หลักเกณฑ์ใหม่ในการรอการกำหนดโทษและรอการลงโทษ” วารสารรามคำแหง ฉบับนิติศาสตร์ 6, ฉ.2 (2560).
ศิรสา พูลสนอง. “การล้างมลทินในประเทศไทย” (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต,
คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2543.
สมยศ เชื้อไทย. ทฤษฎีกฎหมายนิติปรัชญา. พิมพ์ครั้งที่ 12. กรุงเทพฯ: วิญญูชน, 2552.
สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ. รวมคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ประจำปี 2564 เล่ม 1. กรุเทพฯ: อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง, 2564.
หยุด แสงอุทัย. กฎหมายอาญา ภาค 1. พิมพ์ครั้งที่ 21. สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2556.