แนวทางการบูรณาการการเรียนรู้ภาษาอังกฤษโดยใช้แนวคิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อใช้ในหน่วยงานและชุมชน
คำสำคัญ:
การเรียนรู้ตลอดชีวิต, ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน, ผู้ชี้นำตนเองบทคัดย่อ
บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอแนวทางการบูรณาการการเรียนรู้ภาษาอังกฤษโดยใช้แนวคิดการเรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่อใช้ในหน่วยงานและชุมชนโดยมุ่งเน้นการบูรณาการเรียนรู้ภาษาอังกฤษซึ่งมีความจำเป็นอย่างมากในยุคปัจจุบัน เนื่องด้วยการแข่งขันทางเศรษฐกิจและสังคมโลกนั้นล้วนใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักในการสื่อสาร กลุ่มที่จัดอยู่นอกระบบการศึกษาในช่วงวัยผู้ใหญ่ พบว่า มีทักษะด้านภาษาอังกฤษ ในระดับต่ำ เกิดปัญหาในการทำงานหรือการสื่อสารในการค้าขาย จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องพัฒนาหรือจัดตั้งแหล่งการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะในหน่วยงานและชุมชน เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษให้กับกลุ่มนี้ โดยนำแนวคิดการเรียนรู้ตลอดชีวิตมาประยุกต์ใช้ในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ เพื่อทำให้ผู้เรียนรู้ วัยผู้ใหญ่สามารถชี้นำตนเองสู่การเรียนรู้และให้การเรียนรู้นั้นเป็นไปอย่างต่อเนื่อง บทความนี้ได้เสนอแนวทางการบูรณาการการเรียนรู้ภาษาอังกฤษโดยใช้แนวคิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต ที่ช่วยให้หน่วยงาน ชุมชน ใช้เป็นประโยชน์ในการจัดการบริหารอย่างเป็นขั้นตอน โดยจัดตั้งแหล่งเรียนรู้ ในหน่วยงานและชุมชน หาเครือข่ายความร่วมมือ และจัดหาบุคคลากรผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาอังกฤษและผู้เชี่ยวชาญด้านการเรียนรู้ตลอดชีวิต เป็นส่วนช่วยส่งเสริมและพัฒนาให้บุคคลในชุมชนมีทักษะทางด้านภาษาอังกฤษให้เป็นคนมีความรู้ สามารถนำความรู้ทางด้านภาษาอังกฤษไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีคุณภาพ เมื่อบุคคลเป็นผู้รักการเรียนรู้และเป็นบุคคลที่พัฒนาศักยภาพของตนเองเต็มขีดความสามารถแล้ว ก็จะเป็นบุคคลกลุ่มสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อน และพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้ก้าวหน้าและก้าวทันสังคมโลกต่อไป
References
กระทรวงศึกษาธิการ. (2553). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2553 (ฉบับที่ 3). กรุงเทพฯ: บริษัท สยาม สปอรต์ ซินดิเคท จำกัด.
จินตนา สุจจานันท์. 2554. การศึกษาตลอดชีวิตและการพัฒนาชุมชน. กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์
ดุษณี ดำมี. 2557. การศึกษาตลอดชีวิต: พัฒนาสังคมไทยสู่สังคมแห่งการเรียนรู้. Mahidol R2R e-Journal, 1(2) สืบค้นจาก https://doi.org/10.14456/jmu.2014.5
ปิยะ ศักดิ์เจริญ .(2558). ทฤษฎีการเรียนรู้ผู้ใหญ่และแนวคิดการชี้นำตนเอง: กระบวนการเรียนรู้เพื่อการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต, วารสารพยาบาลทหารบก, 16(1), 9-13.
ศักรินทร์ ชนประชา (2562). การศึกษาตลอดชีวิต. สืบค้นเมื่อ 5 พฤษภาคม 2563
จาก https://so01.tci-thaijo.org/index.php/NUR_YIU/article/download/137662/145886/ .
สุวิธิดา จรุงเกียรติกุล. (2554). อนาคตภาพรูปแบบสังคมแห่งการเรียนรู้เพื่อการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์เชิงบวกสำหรับชุมชน. (วิทยานิพนธ์ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการศึกษานอกระบบโรงเรียน ภาควิชาการศึกษาตลอดชีวิต คณะครุศาสตร์). จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
อาชัญญา รัตนอุบล. (2557). การศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิต Lifelong Education and Lifelong Learning. กรุงเทพฯ: สานักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
Drucker, P. (1993). Post-Capitalist Society. New York: Harper Business.
Dweck, C. (2012). Mindset: How You Can fulfill Your Potential. London: Robinson.
Graddol, D. (2006). English next. London: British Council.
Husen, T. (1974). The Learning Society. London: Methuen.
Hutchins, R. M. (1970). The Learning Society. Harmondsworth: Penguin.
Kinsch,I. (2001). International Adult literacy Survey (IALS): Understanding what was measures. Retrieved from://www.ets.org/portal/site/menuitem
Knowles, M. 1980. The Modern Practice of Adult Education: What is Andragogy. Chicago: Follet.
Longworth, N., & Osborne, M. (Eds.). (2000). Perspectives on learning cities and regions: Policy, practice and participation. Leicester. England: National Institute of Adult Continuing Education.
OECD. (1998). High level seminar on competitive strength and social cohesion through learning cities and regions: Concepts, developments, evaluation. Paris: Center for Research and Innovation.
Ranson, S. (1994). Towards the Learning Society. London: Cassell.
Schon, D. (1963). The Theory and Rhetoric of the Learning Society. Retrieved from http://www.infed.org/lifelonglearning/b-lrnsoc.htm
The Global Competitiveness Report 2017–2018. (2017). Retrieved from
https://www.weforum.org/reports/the-global-competitiveness-report-2017-2018
UNESCO. (2005). Towards knowledge societies. UNESCO World Report. UNESCO Publishing.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
เนื้อหาและข้อมูลที่ตีพิมพ์ในวารสารนี้ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือร่วมรับผิดชอบในทุกกรณี
บทความและข้อมูลที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารนี้ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารผู้ใดต้องการตีพิมพ์ซ้ำต้องได้รับอนุญาตจากบรรณาธิการวารสารก่อนเท่านั้น และบทความที่ได้รับการตอบรับเพื่อตีพิมพ์ในวารสารนี้จะต้องไม่ปรากฎในสิ่งพิมพ์อื่นใดมาก่อนที่จะปรากฎในวารสารนี้ กองบรรณาธิการจะส่งวารสารที่มีบทความของผู้เขียนตีพิมพ์ให้แก่ผู้เขียนจำนวน 1 ฉบับ