แนวทางส่งเสริมการออมเงินสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายของโรงเรียนศรีราชาที่เป็นสมาชิกโครงการธนาคารโรงเรียน
คำสำคัญ:
แนวทางการส่งเสริม, การออมเงิน, ธนาคารโรงเรียนบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาพฤติกรรมการออมเงินของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายของโรงเรียนศรีราชาที่เป็นสมาชิกโครงการธนาคารโรงเรียน (2) ศึกษาแนวทางส่งเสริมการออมเงินของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายของโรงเรียนศรีราชาที่เป็นสมาชิกโครงการธนาคารโรงเรียน และ (3) ประเมินความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของแนวทางส่งเสริมการออมเงินของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายของโรงเรียนศรีราชาที่เป็นสมาชิกโครงการธนาคารโรงเรียนมีวิธีดำเนินการวิจัยสามระยะ คือ ระยะที่ 1 การศึกษาพฤติกรรมการออมเงินของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายของโรงเรียนศรีราชาฯ ผู้ให้ข้อมูลเป็นนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 – 6 ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายที่เป็นสมาชิกโครงการธนาคารโรงเรียน รวม 230 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มแบบแบ่งชั้น (Stratified Random Sampling) ระยะที่ 2 การศึกษาแนวทางส่งเสริมการออมเงินของนักเรียน ผู้ให้ข้อมูลเป็นครูผู้รับผิดชอบโครงการธนาคารโครงเรียน และเจ้าหน้าที่ธนาคารโรงเรียน รวม 7 คน ระยะที่ 3 การประเมินความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของแนวทางออมเงินของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายของโรงเรียนศรีราชาที่เป็นสมาชิกโครงการธนาคารโรงเรียน ผู้ให้ข้อมูลเป็นผู้บริหารสถานศึกษา หัวหน้างานวิชาการ ครูผู้รับผิดชอบโครงการธนาคารโรงเรียน และเจ้าหน้าที่ธนาคาร รวม 7 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย แบบสอบถามพฤติกรรมการออมเงิน แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง และแบบสัมภาษณ์การสนทนากลุ่ม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้วิธีการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)
หาค่าความถี่ (Frequency) และค่าร้อยละ (Percentage)
ผลการวิจัยพบว่า 1. พฤติกรรมการออมเงินของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนศรีราชา ที่เป็นสมาชิกโครงการธนาคารโรงเรียน ส่วนใหญ่มีสาเหตุการออมเงินเพื่อนำเงินไปซื้อสิ่งของ ความถี่ในการออมเงิน 1-2 ครั้ง/สัปดาห์ จำนวนเงินออมกับธนาคารโรงเรียน ไม่เกิน 100 บาท/ครั้ง และนำเงินส่วนที่เหลือจากการใช้จ่ายมาออม 2. แนวทางส่งเสริมการออมเงิน มี 5 ด้าน ประกอบด้วย (1) ด้านการสนับสนุนจากครูและสถานศึกษา (2) ด้านการสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่ธนาคาร (3) ด้านการสนับสนุนจากผู้ปกครองและครอบครัว (4) ด้านการสนับสนุนจากกลุ่มเพื่อน และ (5) ด้านการปลูกฝังทัศนคติเกี่ยวกับการออมเงิน 3. แนวทางส่งเสริมการออมเงินสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายของโรงเรียนศรีราชาที่เป็นสมาชิกโครงการธนาคารโรงเรียน ทั้ง 5 ด้าน มีความเหมาะสมและความเป็นไปได้ในการนำไปใช้ในสภาพจริง
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว.
กนกกาญจน์ สังขนนท์, วรพงศ์ จวงรัตนะกำจร, และชาคริต ศรีสกุน. (2563). พฤติกรรมการออมเพื่อการเกษียณ: กรณีศึกษากลุ่มตัวอย่างพนักงานธนาคารพาณิชย์ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล. วารสารวิทยาลัยดุสิตธานี, 14(3), 479-490.
กมลวรรณ วรรณธนัง, ประพันธ์ แสงทองดี, และประกร ฤทธิญาติ. (2563). รูปแบบการส่งเสริมการออมของแรงงานนอกระบบตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในกองทุนการออมแห่งชาติกรณีศึกษา ตำบลบางนมโค อำเภอเสนาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา. วารสารการจัดการสมัยใหม่, 18(2), 54-68.
ณัฐพล กองทอง. (2560). แนวทางการส่งเสริมภาวะการออมเงินของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายที่เป็นสมาชิกโครงการธนาคารโรงเรียน จังหวัดลพบุรี. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต (พัฒนศึกษา). นครปฐม: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ธิชาพร ยอดกัณหา. (2554). การประเมินโครงการธนาคารโรงเรียนของโรงเรียนท่าตะโกพิทยาจังหวัดนครสวรรค์ สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 42. วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์.
ธนาคารออมสิน. (2554). คู่มือโครงการธนาคารโรงเรียนธนาคารออมสิน. กรุงเทพฯ : ฝ่ายการตลาด ประชาสัมพันธ์ งานส่งเสริมธุรกิจ.
-------------. (2558). คู่มือโครงการธนาคารโรงเรียนธนาคารออมสิน. กรุงเทพฯ : ฝ่ายการตลาดประชาสัมพันธ์ งานส่งเสริมธุรกิจ.
ธนานพ ลิ่มสุวรรณโรจน์, และพาชิตชนัต ศิริพานิช. (2564). ปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการวางแผนทางการเงินของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายในกรุงเทพมหานคร. วารสารธุรกิจปริทัศน์, 13(1), 250-251.
พรพรรณ วัฒนวิชัย. (2545). วารสารราชมงคลล้านนา. สืบค้นเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2565, เข้าถึงข้อมูลได้จาก file:///C:/Users/Teacher/Downloads/75426-Article% 20Text-179959-1-10-20170123.pdf
โรงเรียนหัวหาดวิทยา. (2563). แนวทางส่งเสริมพฤติกรรมการออมของนักเรียนระดับประถมศึกษา ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนหัวหาดวิทยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคาย เขต 1. สืบค้นเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2565, เข้าถึงข้อมูลได้จาก http://www.nkedu1.go.th/NEW2563/admin_web/pic_news3/ilovepdf_merged.pdf
วินัย โหมดเทศน์. (2549). การประเมินภาวะการออมของนักเรียนในโครงการธนาคารโรงเรียนวัดนวลนรดิส กรุงเทพมหานคร. สืบค้นเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2565, เข้าถึงข้อมูลได้จาก http://202.29.22.172/fulltext/2558/117587/chapter2.pdf
วรรณา ชุมพลรักษ์. (2561). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการออมเงินของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายที่เข้าร่วมโครงการส่งเสริมการออมกับกองทุนการออมแห่งชาติ. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชพฤกษ์, 4(3), 215-222.
วิไลลักษณ์ เสรีตระกูล. (2557). ปัจจัยในการทํานายพฤติกรรมการออมของนักศึกษาในเขตกรุงเทพมหานคร. วารสารสุทธิปริทัศน์, 28(85), 300-315.
ศิริวรรณ รุ่งอาภา. (2544). ความต้องการและความพร้อมในการจัดตั้งธนาคารโรงเรียนตามโครงการธนาคารออมสินของโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดกรมสามัญในจังหวัดจันทบุรี. วิทยานิพนธ์รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาวิชานโยบายสาธารณะ, บัณฑิตวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยบูรพา.
สุนัยญา แดงเหม, และนริศรา เจริญพันธ. (2564). ปัจจัยที่มีผลต่อการออมของครัวเรือนไทยในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล. Journal of Demography, 37(1), 49-68.
หิรัญญา อํานาจเกียรติกุล. (2544). การศึกษาเปรียบเทียบการบริหารธนาคารโรงเรียน. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
Cronbach, L. J. (1970). Essentials of Psychological Test (5th ed.). New York: Harper Collins.
Krejcie, R. V. & Morgan, D. W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607-610.
Money Watch. (2556). โครงการสำรวจพฤติกรรมการจัดการการเงินส่วนบุคคล. สืบค้นเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2565, เข้าถึงข้อมูลได้จาก http://www.digitalschool.club/digitalschool/technologym1-3/businessm1_1/more1/lesson4/web4.php
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 ภาควิชาบัณฑิตศึกษานานาชาติการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
Copyright@HRD Journal, Burapha University