การจัดการสินค้าคงคลังโดยการประยุกต์ ABC Analysis สำหรับบริษัทจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง

บทคัดย่อ

บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) เพื่อศึกษากระบวนการจัดการสินค้าคงคลังของบริษัทจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง และ 2) เพื่อวิเคราะห์ระบบการจัดการสินค้าคงคลังของบริษัทจำหน่ายวัสดุก่อสร้างจากการประยุกต์ใช้ ABC Analysis ซึ่งรูปแบบการวิจัยเป็นวิจัยเชิงคุณภาพโดยเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างคือ ผู้ประกอบการและกลุ่มผู้ปฏิบัติงานของบริษัทจำหน่ายก่อสร้าง จำนวน 10 ราย โดยวิธีเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ประกอบด้วย ผู้บริหาร จำนวน 2 คน, พนักงานฝ่ายบัญชี จำนวน 1 คน และพนักงานฝ่ายคลังสินค้า 7 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสัมภาษณ์เชิงลึก ซึ่งเป็นการสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง และการวิเคราะห์ข้อมูลโดยประยุกต์ใช้ ABC Analysis เพื่อแบ่งประเภทและจัดลำดับความสำคัญของสินค้าคงคลัง ผลการวิจัยพบว่า 1) ผลจากการสัมภาษณ์เชิงลึกสามารถวิเคราะห์กระบวนการจัดการสินค้าคงคลังของบริษัทจำหน่ายวัสดุก่อสร้างพบว่ากระบวนการจัดการสินค้าคงคลังไม่มีประสิทธิภาพเนื่องจากปัจจัย 3 ด้าน  คือ ด้านการดำเนินงาน, ด้านการจัดเก็บวัสดุก่อสร้างหรือสินค้า และด้านบุคลากร 2) ระบบการจัดการสินค้าคงคลังของบริษัทจำหน่ายวัสดุก่อสร้างจากการประยุกต์ใช้ ABC Analysis จากวัสดุก่อสร้างทั้งหมด 40 รายการ มูลค่าวัสดุก่อสร้างทั้งหมด 174,177.70 บาท สามารถแบ่งกลุ่มวัสดุก่อสร้างได้นี้ กลุ่ม A มีจำนวนทั้งหมด 8 รายการ มีการจำหน่ายวัสดุก่อสร้างให้ลูกค้ามูลค่า 137,635 บาท คิดเป็นร้อยละ 79.02, กลุ่ม B มีจำนวนทั้งหมด 12 รายการ มีการจำหน่ายวัสดุก่อสร้างให้ลูกค้ามูลค่า 27,132.50 บาท คิดเป็นร้อยละ 15.58 และ กลุ่ม C มีจำนวนทั้งหมด 20 รายการมีการจำหน่ายวัสดุก่อสร้างให้ลูกค้ามูลค่า 9,410.20 บาท คิดเป็นร้อยละ 5.40  ซึ่งการควบคุมดูแลวัสดุก่อสร้างจะดำเนินการตามลำดับความสำคัญของแต่ละกลุ่ม โดยองค์ความรู้จากงานวิจัยนี้สามารถนำไปใช้เป็นแนวทางให้กับผู้บริหารคลังสินค้านำหลักการจัดการสินค้าคงคลังและ ABC Analysis ประยุกต์ใช้เพื่อช่วยในการบริหารจัดการสินค้าคงคลังให้มีประสิทธิภาพและสามารถลดต้นทุนในการบริหารจัดการคลังสินค้าได้