รูปแบบความได้เปรียบเชิงการแข่งขันของกลุ่มธุรกิจผลิตเม็ดสีพลาสติก และสารเติมแต่งในประเทศไทย
คำสำคัญ:
ความได้เปรียบเชิงการแข่งขัน, ธุรกิจผลิตเม็ดสีพลาสติกและสารเติมแต่งบทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความได้เปรียบเชิงการแข่งขันของกลุ่มธุรกิจผลิตเม็ดสีพลาสติกและสารเติมแต่งในประเทศไทย (2) วิเคราะห์ความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของความได้เปรียบเชิงการแข่งขันของกลุ่มธุรกิจผลิตเม็ดสีพลาสติกและสารเติมแต่งในประเทศไทย และ (3) พัฒนารูปแบบความได้เปรียบเชิงการแข่งขันของกลุ่มธุรกิจผลิตเม็ดสีพลาสติกและสารเติมแต่งในประเทศไทย เป็นการวิจัยแบบผสมผสาน โดยการวิจัยเชิงปริมาณใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้นภูมิจากประชากรจำนวน 645 ราย โดยกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างตามแบบไม่ใส่คืน ซึ่งกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้ประกอบการ ผู้บริหาร และพนักงาน จำนวน 597 ราย และการวิจัยเชิงคุณภาพ ใช้วิธีการสุ่มแบบเจาะจง จำนวน 12 ท่าน ได้แก่ ผู้ประกอบการ และผู้เชี่ยวชาญ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมทางสถิติ
ผลการวิจัยพบว่า (1) ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความได้เปรียบเชิงการแข่งขันของกลุ่มธุรกิจผลิตเม็ดสีพลาสติกและสารเติมแต่งในประเทศไทย ได้แก่ ด้านแนวปฏิบัติในการจัดการโซ่อุปทาน ความร่วมมือของพันธมิตรธุรกิจ ความคล่องตัวในการดำเนินงาน และคุณค่าที่ลูกค้าได้รับ (2) ด้านแนวปฏิบัติในการจัดการโซ่อุปทาน ความร่วมมือของพันธมิตรธุรกิจ ความคล่องตัวในการดำเนินงาน และคุณค่าที่ลูกค้าได้รับมีอิทธิพลทางตรงและทางอ้อมต่อความได้เปรียบเชิงการแข่งขันสำหรับธุรกิจผลิตเม็ดสีพลาสติกและสารเติมแต่งในประเทศไทย ซึ่งค่าดัชนีวัดระดับความสอดคล้องของโมเดล c2 = 63.32, df = 49, c2/df = 1.29, P-value = 0.08206, NFI = 1.00, NNFI = 1.00, CFI = 1.00, GFI = 0.99, AGFI 0.96, RMSEA = 0.0220, RMR = 0.0034, SRMR = 0.0210 และ (3) รูปแบบความได้เปรียบขององค์กรขึ้นอยู่กับการเชื่อมโยงเครือข่าย การทำพันธมิตรทางธุรกิจ การเชื่อมโยงนวัตกรรมและเทคโนโลยี การแบ่งปันข้อมูล และการสร้างความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน