ความสุขในการเรียนของนิสิตคณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขต กำแพงแสน

ผู้แต่ง

  • พิมพ์ธรรม เอื้อเฟื้อ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
  • ประสาร มาลากุล ณ อยุธยา มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต

คำสำคัญ:

ความสุขในการเรียน, ปัจจัยสนับสนุนความสุขในการเรียน, ระดับความสุขในการเรียน, นิสิตปริญญาตรี

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนบุคคล และปัจจัยสนับสนุนความสุขในการเรียน 2) เพื่อศึกษาระดับความสุขในการเรียน 3) เพื่อศึกษาเปรียบเทียบปัจจัยส่วนบุคคลกับความสุขในการเรียน 4) เพื่อศึกษาเปรียบเทียบปัจจัยสนับสนุนกับความสุขในการเรียน การเก็บข้อมูลใช้แบบสอบถามปลายปิดแบบออนไลน์ด้วย Google Forms เป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวม กลุ่มตัวอย่างเป็นนิสิตปริญญาตรี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ จำนวน 120 คน การวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่า t-test และ ค่า f-test ผลการวิจัย พบว่า 1) ปัจจัยส่วนบุคคล ผู้ตอบแบบสอบถามเป็นเพศหญิงจำนวน 99 คน คิดเป็นร้อยละ 82.5 เป็นเพศชาย จำนวน 21 คน คิดเป็นร้อยละ 17.5 นิสิตกำลังศึกษาในระดับชั้นปีที่ 1-4 ชั้นปีละ 30 คน คิดเป็นชั้นปีร้อยละ 25.0 กลุ่มวิชาที่ศึกษา ด้านศิลปศาสตร์ จำนวน 104 คน คิดเป็นร้อยละ 86.7  กลุ่มวิชาด้านวิทยาศาสตร์  จำนวน 16 คน คิดเป็นร้อยละ 13.3  และปัจจัยสนับสนุนความสุขในการเรียน นิสิตมีระดับความสุขสูงสุดในแต่ละด้าน ดังนี้ ด้านครอบครัว คือ ครอบครัวของนิสิตมีความรักใคร่ ดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน ร้อยละ 74.2 ด้านการเห็นคุณค่าในตนเอง คือ นิสิตมีความเชื่อมั่นว่าตนสามารถเรียนจนจบ ร้อยละ 70.8  และด้านการเห็นคุณค่าในการเรียน คือ นิสิตมาเรียนอย่างสม่ำเสมอ  ร้อยละ 72.5   2) ระดับความสุขในการเรียน ภาพรวมทั้ง 3 ด้าน อยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย = 4.00, S.D. = 0.92) เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านที่มีระดับความสุขในการเรียนของนิสิตสูงสุด ได้แก่ ด้านสภาพแวดล้อมในมหาวิทยาลัย อยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย = 4.08, S.D. = 0.93) รองลงมา ได้แก่ ด้านการเรียนการสอน อยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย = 3.96, S.D. = 0.86) และต่ำสุด ได้แก่ ด้านความสัมพันธ์เพื่อนร่วมชั้นและอาจารย์ อยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย = 3.95, S.D. = 0.98) 3)การศึกษาเปรียบเทียบปัจจัยส่วนบุคคลกับความสุขในการเรียนของนิสิต  พบว่า เพศ แตกต่างกัน มีระดับความสุขในการเรียนไม่แตกต่างกัน ส่วนชั้นปี และกลุ่มวิชา แตกต่างกัน มีความสุขในการเรียนที่แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.05   และ 4) การเปรียบเทียบปัจจัยสนับสนุนกับความสุขในการเรียน พบว่า ปัจจัยสนับสนุนด้านความสัมพันธ์ในครอบครัวกับความสุขในการเรียนโดยรวม ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05  ปัจจัยสนับสนุนด้านการเห็นคุณค่าในตนเองกับความสุขในการเรียนโดยรวม 3 ด้าน แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05  และปัจจัยสนับสนุนด้านการเห็นคุณค่าในการเรียนกับความสุขในการเรียนโดยรวม 3 ด้าน แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2024-12-27