ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อผลการปฏิบัติงานของพนักงานระดับปฏิบัติการของโรงแรมระดับ 4 ดาว ในกรุงเทพมหานคร

ผู้แต่ง

  • อุไรพร สิงห์สร้อย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
  • ศิริญญา วิรุณราช มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี

คำสำคัญ:

ปัจจัยค้ำจุนหรือปัจจัยอนามัย, ปัจจัยจูงใจ, ผลการปฏิบัติงาน, พนักงานระดับปฏิบัติการ

บทคัดย่อ

การวิจัยเรื่อง ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อผลการปฏิบัติงานของพนักงานระดับปฏิบัติการของโรงแรมระดับ 4 ดาวในกรุงเทพมหานคร มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อผลการปฏิบัติงานของพนักงานระดับปฏิบัติการของโรงแรมระดับ 4 ดาวในกรุงเทพมหานคร ผู้วิจัยได้กำหนดกลุ่มตัวอย่างในการศึกษาวิจัยในครั้งนี้ คือจำนวนพนักงานที่ปฏิบัติงานในตำแหน่งปฏิบัติการของโรงแรมระดับ 4 ดาวในกรุงเทพมหานคร (Chain ต่างประเทศ) โดยใช้วิธีการหากลุ่มตัวอย่างจากการคำนวณสูตรขนาดตัวอย่างที่ไม่ทราบจำนวนประชากรที่แน่ชัดของ W.G.Cochran,(1953) และทำการเก็บข้อมูลทั้งหมด 400 ตัวอย่าง โดยใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบสะดวก (Convenience Sampling) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อตอบวัตถุประสงค์ของการวิจัยในครั้งนี้ ได้แก่ ใช้สถิติพรรณนาซึ่งประกอบไปด้วยค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติ t-test สำหรับตัวแปรที่มี 2 กลุ่ม และกรณีตัวแปรกลุ่มย่อย 3 กลุ่มขึ้นไปใช้ One - way ในกรณีพบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ จึงทำการเปรียบเทียบพหุคูณด้วยวิธี Least significance (LSD) ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ .05 และนำสถิติมาใช้ทดสอบสมมุติฐานด้วยวิธีการวิเคราะห์สมการถดถอยพหุคูณ (Multiple regression analysis) จากผลการวิจัยพบว่า

  1. ผลการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณเพื่อศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อผลการปฏิบัติงานของพนักงานระดับปฏิบัติการของโรงแรมระดับ 4 ดาวในกรุงเทพมหานคร แสดงให้เห็นว่าปัจจัยค้ำจุนหรือปัจจัยอนามัยมีผลต่อผลการปฏิบัติงานของพนักงานระดับปฏิบัติการของโรงแรมระดับ 4 ดาวในกรุงเทพมหานครอย่างมีนัยสำคัญซึ่งสามารถอธิบายได้ถึง 50% ของความแปรปรวนในผลการปฏิบัติงาน ในขณะที่ปัจจัยจูงใจมีผลสำคัญและมีนัยสำคัญต่อผลการปฏิบัติงานของพนักงานระดับปฏิบัติการในโรงแรมระดับ 4 ดาว โดยปัจจัยนี้สามารถอธิบายได้ถึง 56.8% ของความแปรปรวนในผลการปฏิบัติงาน
  2. ปัจจัยค้ำจุนหรือปัจจัยอนามัย และปัจจัยจูงใจ มีอิทธิพลต่อผลการปฏิบัติงานของพนักงานระดับปฏิบัติการในโรงแรมระดับ 4 ดาวในกรุงเทพมหานครในทุกด้าน แสดงให้เห็นว่าทั้งสองกลุ่มปัจจัยมีบทบาทสำคัญต่อการปฏิบัติงานของพนักงานอย่างชัดเจน ทั้งในด้านคุณภาพของงาน ปริมาณของงาน และด้านระยะเวลาที่กำหนดของงานแล้วเสร็จ โดยปัจจัยค้ำจุนที่มีผลกระทบมากที่สุดคือด้านนโยบายและการบริหารองค์กร และสำหรับปัจจัยจูงใจที่มีผลมากที่สุดคือด้านการยอมรับนับถือ
  3. ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะว่า องค์กรควรมีการพัฒนาและปรับปรุงนโยบายและการบริหารองค์กรเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของพนักงาน รวมถึงการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เอื้อต่อการพัฒนาศักยภาพของพนักงาน และการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ให้การยอมรับและนับถือในผลงานของพนักงาน ควรมีระบบการให้รางวัลและแรงจูงใจที่เหมาะสมเพื่อกระตุ้นให้พนักงานมีความพยายามในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะแบบเปิดกว้างจากพนักงานจะช่วยให้การบริหารงานมีความโปร่งใสและเป็นธรรมมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้พนักงานรู้สึกมีส่วนร่วมและมุ่งมั่นในการทำงานในองค์กรมากขึ้น

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2024-12-27