การจัดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมโดยภูมิปัญญากลุ่มชาติพันธุ์แลนแตน บ้านน้ำดี สปป.ลาว
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการจัดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์แลนแตนบ้านน้ำดี เมืองหลวงน้ำทา แขวงหลวงน้ำทา สปป.ลาว และศึกษาแนวทางการสร้างเครือข่ายการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ ด้วยการวิจัยเชิงคุณภาพและการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม ซึ่งเก็บข้อมูลจากงานภาคสนาม การอบรมสัมมนา การศึกษาดูงาน การสัมภาษณ์เชิงลึก และการสังเกตอย่างมีส่วนร่วม ผลวิจัยพบว่ากลุ่มชาติพันธุ์แลนแตนมีศักยภาพและภูมิปัญญาในการบริหารจัดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในระดับหมู่บ้าน ทั้งด้านการบริหารจัดการท่องเที่ยว การแบ่งปันกิจกรรมร่วม และผลประโยชน์ รวมทั้งการปรับใช้ศักยภาพด้านทรัพยากรธรรมชาติ องค์ความรู้ต่อสิ่งแวดล้อม สังคมวัฒนธรรม และจารีตประเพณีเพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ไปสู่ระดับต่างๆ และหมู่บ้านมีอิสระเสรีในการบริหารจัดการชุมชนให้สามารถขับเคลื่อนไปในทิศทางของการพัฒนาและสามารถรองรับทิศทางการเปลี่ยนแปลงใน ปัจจุบันได้ แต่ด้านความเป็นเอกภาพในการบริหารจัดการการท่องเที่ยวยังมีจุดอ่อนหลายประการที่ชุมชนยังไม่สามารถดำเนินการได้อย่างเต็มศักยภาพและต้องพึ่งพิงหน่วยงานภายนอก
แนวทางการสร้างเครือข่ายการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ในแขวงหลวงน้ำทา สปป.ลาว ควรเป็นการท่องเที่ยวเชิงการเรียนรู้ และเป็นเครือข่ายการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวัฒนธรรม ซึ่งเน้นการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างนักท่องเที่ยวและผู้ถูกท่องเที่ยว เช่น การเข้าไปเยี่ยมชมวิถีชีวิตและวัฒนธรรมการทอผ้า ปั่นฝ้าย ย้อมผ้า และการทำกระดาษจากเยื่อหน่อไม้
รูปแบบกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์แลนแตนจึงมุ่งเน้นการเรียนรู้วิถีชีวิตแบบเรียบง่ายผ่อนคลาย หรือการเรียนรู้วิถีการผลิตอาหารปลอดภัยและเศรษฐกิจสีเขียว
ซึ่งเน้นให้นักท่องเที่ยวเรียนรู้วิถีชีวิตที่เรียบง่าย และเป็นวิถีการผลิตแบบธรรมชาติของคนในพื้นที่
Article Details
Area Based Development Research Journal values copyright protection and licensing to safeguard author rights and facilitate the appropriate dissemination of research. Our policies ensure openness, accessibility, and attribution. Authors retain copyright ownership, and articles are published under a Creative Commons Attribution License (CC BY), allowing sharing, adaptation, and proper attribution. Authors have the freedom to publish under the CC BY license, granting broad reuse and distribution permissions. The journal supports posting articles on third-party repositories, adhering to institutional and funding restrictions. Author guidelines detail copyright and licensing requirements, empowering authors with knowledge about their rights and responsibilities. These policies cultivate an environment of collaboration, openness, and responsible sharing, benefiting authors and the research community while honoring intellectual property rights.