การพัฒนาแอปพลิเคชันร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบ KWDL เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
คำสำคัญ:
แอปพลิเคชัน, การจัดการเรียนรู้แบบ KWDL, ทักษะการแก้ปัญหาบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) สร้างแอปพลิเคชัน ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบ KWDL สำหรับผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทียบทักษะการแก้ปัญหาของผู้เรียนผ่านแอปพลิเคชันร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบ KWDL สำหรับผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ก่อนเรียนและหลังเรียน 3) ศึกษาความพึงพอใจต่อการใช้แอปพลิเคชันร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบ KWDL สำหรับผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ ผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ปีการศึกษา 2566 โรงเรียนวัดราชสิงขร จำนวน 35 คน ได้มาโดยการสุ่มอย่างง่ายด้วยวิธีการจับฉลาก เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) แอปพลิเคชัน เรื่อง รหัสลำลอง 2) แบบประเมินคุณภาพด้านสื่อและเนื้อหาของแอปพลิเคชัน 3) แบบประเมินทักษะการแก้ปัญหา 4) แบบประเมินความพึงพอใจ สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ และค่าที ในการทดสอบข้อมูลกลุ่มตัวอย่างในกลุ่มเดียวกัน
ผลการวิจัยพบว่า 1) การสร้างและหาประสิทธิภาพแอปพลิเคชันกับการจัดการเรียนรู้แบบ KWDL สำหรับผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ได้ค่าประสิทธิภาพ เท่ากับ 82.76/84.67 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 (M = 24.83, SD = 1.40/ M = 12.70, SD = 0.84) 2) การเรียนผ่านแอปพลิเคชันร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบ KWDL สำหรับผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีทักษะการแก้ปัญหาหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (M = 10.11, SD = 1.81) 3) ความพึงพอใจต่อการใช้แอปพลิเคชันกับการจัดการเรียนรู้แบบ KWDL สำหรับผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก (M = 4.07, SD = 0.82)
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (พิมพ์ครั้งที่ 1). โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
พาสนา จุลรัตน์. (2561). การจัดการเรียนรู้สำหรับผู้เรียนในยุค Thailand 4.0. Veridian E-Journal, Silpakorn University (ฉบับภาษาไทย มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และศิลปะ), 11(2), 2363-2380. https://he02.tci-thaijo.org/index.php/Veridian-E-Journal/article/view/144570
พัชรินทร์ ม่วงประเสริฐ. (2564). การพัฒนาแอปพลิเคชันกิจกรรมการสอนตามรูปแบบ สุ จิ ปุ ลิ โมเดล เรื่อง การอ่านคำศัพท์ภาษาไทยพื้นฐาน ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี.
ภัทร์ธิดา ศรศิริ. (2565). การพัฒนาหลักสูตรส่งเสริมการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์โดยใช้เทคนิคเคดับเบิ้ลยูดีแอลสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง.
วิวัฒน์ มีสุวรรณ์. (2565). วิจัยทางเทคโนโลยีการศึกษา. สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยนเรศวร.
วัชรา เล่าเรียนดี, และคณะ. (2560). กลยุทธ์การจัดการเรียนรู้เชิงรุกเพื่อพัฒนาการคิดและยกระดับคุณภาพการศึกษาสำหรับศตวรรษที่ 21 (พิมพ์ครั้งที่ 12). เพชรเกษมพริ๊นติ้ง กรุ๊ป.
สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ. (2566). รายงานผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2565 ค่าสถิติแยกตามมาตรฐานการเรียนรู้สำหรับโรงเรียน. http://www.newonetresult.niets.or.th/AnnouncementWeb/MainSch/MainSch.aspx
สุชัญญา เยื้องกลาง. (2560). การพัฒนาระบบการเรียนการสอนผสมผสานโดยใช้เกมิฟิเคชั่นเป็นฐานเพื่อส่งเสริมเพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาและทักษะการเชื่อมโยงคณิตศาสตร์สู่ชีวิตจริงระดับประถมศึกษา [วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2566). สำรวจการมีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในครัวเรือน พ.ศ. 2565 (ไตรมาส 4). https://www.nso.go.th/nsoweb/download/eyJwYXRoIjoic3RvcmFnZVwvc3VydmV5X2RldGFpbFwvMjAyM1wvMjAyMzA0MzAxMzE0NDdfNzkyMTQucGRmIiwiZmlsZW5hbWUiOiJmdWxscmVwb3J0X3E0XzY1LnBkZiJ
Candra, D. (2022). The effect of flash-based interactive learning multimedia on the thematic learning outcomes of grade 5 students in elementary school. Journal Pemikiran dan Pengembangan Sekolah Dasar, 10(1), 12-21. https://doi.org/10.22219/jp2 S.D..v10i1.20026
Seham, S. A. (2017). The effect of classroom web applications on teaching, learning and academic performance among college of education female students. Journal of Education and Learning, 6(2), 132-145. http://dx.doi.org/10.5539/jel.v6n2p132
Parsazadeh, N., Ali, R., & Rezaei, M. (2018). A framework for cooperative and interactive mobile learning to improve online information evaluation skills. Computers & Education, 120, 75-89. https://doi.org/10.1016/j.compedu.2018.01.010
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1. ทรรศนะและข้อคิดเห็นใด ๆ ที่ปรากฏอยู่ในวารสาร ECT Education and Communication Technology Journal เป็นของผู้เขียนโดยเฉพาะ สำนักเทคโนโลยีการศึกษา มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และกองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วย
2. กองบรรณาธิการของสงวนลิขสิทธิ์ในการบรรณาธิการข้อเขียนทุกชิ้น เพื่อความเหมาะสมในการจัดพิมพ์เผยแพร่
