การส่งเสริมการตระหนักรู้เกี่ยวกับการกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์และ การใช้ประทุษวาจาของนักเรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน: กรณีศึกษาโรงเรียนในจังหวัดฉะเชิงเทรา
คำสำคัญ:
การกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์, การใช้ประทุษวาจาบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นวิจัยและพัฒนาโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาพฤติกรรมการกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์และการใช้ประทุษวาจาของนักเรียนมัธยมศึกษาในจังหวัดฉะเชิงเทรา และ (2) สร้างรูปแบบส่งเสริมการตระหนักรู้เกี่ยวกับการกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์และการใช้ประทุษวาจาของนักเรียนมัธยมศึกษาในจังหวัดฉะเชิงเทรา กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ (1) ขั้นสอบถามเพื่อสร้างรูปแบบสอบถามครูจำนวน 10 คน นักเรียนจำนวน 43 คน (2) ขั้นทดลองใช้รูปแบบกลุ่มตัวอย่างคือนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 5 ในโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดฉะเชิงเทรา จำนวน 29 คน ดำเนินการทดลองในคาบเรียนผนวกกับสอดแทรก การใช้สื่อสังคมออนไลน์ในชีวิตประจำวันของนักเรียนเพื่อปรับพฤติกรรม เครื่องมือที่ใช้คือแบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและแบบวัดค่านิยมที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น ผลการวิจัยพบว่า (1) ขั้นสำรวจข้อมูลได้ประเด็นข้อมูลสำคัญ 24 ข้อ แบ่งเป็นประเด็นสำคัญ ได้แก่ นักเรียนสร้างความสัมพันธ์ผ่านการใช้งานเครื่องมือเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อปฏิบัติงานส่งครูผู้สอน เล่นเกม และสนทนาออนไลน์หรือออฟไลน์ โดยใช้ facebook Youtube และ Line มากที่สุด การใช้งานจะใช้งานจากที่บ้านพักอาศัย และนักเรียนส่วนใหญ่ใช้เวลาเล่นอินเทอร์เน็ต 4 ชั่วโมงต่อวัน การสนทนาพบว่าส่วนใหญ่พูดจาหยาบคายบนสื่อสังคมออนไลน์ นักเรียนส่วนใหญ่แสดงพฤติกรรมประทุษวาจาที่แสดงออกบนสื่อสังคมออนไลน์ ด้วยการพูดจาไม่ไพเราะ พูดคำหยาบคาย ด่าทอ และพูดจาล้อเลียนเพื่อให้ตลก ขบขัน และมีพฤติกรรมล้อกันเล่นและไม่จริงจัง ขณะที่เมื่อเห็นข้อมูลของตนเองในด้านลบบนสื่อสังคมออนไลน์จะตอบโต้ตามเหตุและผลในทันที ลักษณะอาการหลังจากนักเรียนตอบโต้ด้วยการเขียนข้อความทางลบบนสื่อสังคมออนไลน์กับเพื่อนของตนเองนักเรียนส่วนใหญ่รู้สึกไม่สบายใจแต่คิดว่าสามารถพูดจาให้คลี่คลายได้ภายในเร็ววัน นักเรียนทั้งหมดเคยถูกกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์ในลักษณะการพูดจายั่วเย้าบนสื่อสังคมออนไลน์ นักเรียนทั้งหมดเคยถูกนำข้อมูลส่วนตัวมาประจารบนสื่อสังคมออนไลน์ และจำนวนครึ่งหนึ่งเคยถูกกลั่นแกล้งด้วยการแอบอ้างตัวตนในบัญชีการใช้งาน ส่วนนักเรียนอีกครึ่งหนึ่งไม่เคยถูกกลั่นแกล้ง และจากการวิจัยได้รูปแบบประกอบไปด้วย 6 องค์ประกอบหลักและ 2 ขั้นตอนใหญ่ที่สำคัญ (2) ขั้นทดลองพบว่ากลุ่มตัวอย่างมีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เกิดค่านิยมตระหนักรู้เกี่ยวกับการกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์และการใช้ประทุษวาจาจากจำนวนรวมทั้งสิ้น 29 คน มีผู้เกิดค่านิยมตามแบบวัดการกระจ่างค่านิยมนี้ จำนวน 23 คน คิดเป็นร้อยละ 86.21
เอกสารอ้างอิง
กรุงเทพฯ. เข้าถึงโดย https://www.etda.or.th/content/stop- cyberbullying-2019.html [10 มกราคม 2563]
กลุ่มบริษัท บีอีซีเวิลด์ จำกัด (มหาชน). (2563). ศธ.360 องศา: 'การบูลลี่'ปัญหาของเด็ก Gen Z. เข้าถึงโดย https://www.youtube.com/
watch?v=blC98ZssKVM&feature=youtu.be [10 มกราคม 2563]
ก่อ สวัสดิ์พาณิชย์. (2535). มองการศึกษา: เส้นทางที่เท่าเทียมของคนไทย. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
เว็บไซต์วิซเคส, 2020. (2020). 23 สถิติที่น่าอัศจรรย์ในอินเทอร์เน็ตและสื่อสังคมในปี 2020. 1 มิถุนายน 2020. เข้าถึงโดย https://th.wizcase.com/blog/สถิติที่น่าอัศจรรย์ใน [4 มิถุนายน 2020]
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์. กำจัดวงจร “ไซเบอร์ บูลลี่”. ไทยรัฐออนไลน์. เข้าถึงโดย https://www.thairath.co.th/scoop/1753691. [27 มกราคม 2563]
นาตยา ปิลันธนานนท์. (2539). การพัฒนาค่านิยม: การทำความกระจ่างใน ค่านิยม เอกสารการสอนชุดวิชาจริยศึกษา หน่วยที่ 9-15. มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
เบญจพร ตันตสูติ. (2562). ความน่ากลัวของ ‘ไซเบอร์บูลลี่’ ภัยใกล้ตัวที่ไม่ควร มองข้าม. 16 ตุลาคม 2562. เข้าถึงโดย https://www.tnnthailand.com/content/19166. [4 มิถุนายน 2020]
สถาบันสื่อเด็กและเยาวชน. (2561). เมื่อวาจาทำร้ายใจกัน...การเดินทางจาก “Hate Speech” สู่ “Cyberbullying” เอกสารการสื่อสารที่สร้างความเกลียดชัง (Hate Speech) และการศึกษาการรังแกกันบนโลกไซเบอร์ของวัยรุ่น. เข้าถึงโดย
https://www.healthymediahub.com/media/detail/เมื่อวาจาทำ
ร้ายใจกัน-การเดินทางจาก-Hate-Speech-สู่-Cyberbullying
[11 เมษายน 2561]
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
1. ทรรศนะและข้อคิดเห็นใด ๆ ที่ปรากฏอยู่ในวารสาร ECT Education and Communication Technology Journal เป็นของผู้เขียนโดยเฉพาะ สำนักเทคโนโลยีการศึกษา มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และกองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วย
2. กองบรรณาธิการของสงวนลิขสิทธิ์ในการบรรณาธิการข้อเขียนทุกชิ้น เพื่อความเหมาะสมในการจัดพิมพ์เผยแพร่