การศึกษาความต้องการจำเป็นในการเรียนรู้แบบไมโครเลิร์นนิงตามแนวทางการเรียนรู้โดยใช้สถานการณ์เป็นฐานสำหรับโมบายเลิร์นนิงแพลตฟอร์มเพื่อส่งเสริมทักษะการพัฒนาตนเองของพนักงานระดับปฎิบัติการ
คำสำคัญ:
โมบายเลิร์นนิ่งแพลตฟอร์ม, ไมโครเลิร์นนิง, การจัดการเรียนรู้ตามสถานการณ์เป็นฐาน, ทักษะการพัฒนาตนเอง, พนักงานระดับปฎิบัติการบทคัดย่อ
การวิจัยนี้วัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาสภาพและเปรียบเทียบทักษะในการพัฒนาตนเองของ พนักงานระดับปฏิบัติการ จำแนกตามช่วงอายุ อายุการทำงาน จำนวนชั่วโมงในการเรียนรู้ และความพึงพอใจในการทำงาน 2) เพื่อศึกษาปัจจัยด้านภูมิหลัง ประสบการณ์ผู้ใช้ และประเมินความต้องการจำเป็น ของพนักงานระดับปฏิบัติการในการใช้เทคโนโลยีที่ส่งเสริมทักษะการพัฒนาตนเอง กลุ่มตัวอย่างคือ พนักงานระดับปฏิบัติการ จำนวน 72 คน ในกรุงเทพมหานคร โดยใช้วิธีการเก็บข้อมูลแบบโควต้า แบ่งเป็นพนักงานด้านระบบและด้านข้อมูลสินค้า ด้านละ 36 คนจากนั้นใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบสอบถาม ที่มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.97 โดยมีข้อคำถามแบบตรวจสอบรายการแบบจัดอันดับ และแบบมาตราส่วนประมาณค่า สถิติที่่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมููล ได้แก่ ความถี่่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ใช้การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA) และใช้เทคนิค Modified Priority Need Index (PNI Modified) ในการจัดลำดับความสำคัญของความต้องการจำเป็น ผลการวิจัยพบว่า 1) พนักงานระดับปฏิบัติการที่มีช่วงอายุต่างกันส่งผลต่อการใช้เทคโนโลยีในการหาความรู้และการใช้ประโยชน์ของการเรียนรู้ผ่านโทรศัพท์มือถือ นอกจากนี้อายุการทำงานที่ต่างกัน ส่งผลต่อวัตถุประสงค์ในการใช้เทคโนโลยีและการใช้ประโยชน์ของการเรียนรู้ผ่านโทรศัพท์มือถือ จำนวนชั่วโมงในการเรียนรู้มีผลต่อการใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อการเรียนรู้ผ่านอินเทอร์เน็ตแตกต่างกัน เมื่อพิจารณาความพึงพอใจในการทำงาน พบว่าผู้เรียนมีการแบ่งปันแนวทางการแลกเปลี่ยนความรู้บนเว็บบอร์ดแตกต่างกัน 2) ความต้องการจำเป็นที่มีต่อสื่อที่ใช้ในการหาความรู้ในการพัฒนาตนเองโดยรวม เมื่อวิเคราะห์รายข้อพบว่า อุปกรณ์ที่ใช้ในการหาความรู้มีดัชนีความต้องการจำเป็นสูงที่สุด รองลงมาคือ รูปแบบการเรียนรู้ และความพร้อมในการเรียนผ่านโทรศัพท์มือถือ ตามลำดับ
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2564). แผนปฏิบัติการดิจิทัลเพื่อการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ.2563-2565. https://bict.moe.go.th/wp-content/uploads/2022/03/digital-63-65.pdf
กาญจนาภา วัฒนธรรม และจินตวีร์ คล้ายสังข์. (2564). การศึกษาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศความต้องการจำเป็นและปัจจัยที่ส่งผลต่อการใช้โมไบล์แอปพลิเคชั่นเพื่อส่งเสริมทักษะการฟัง-พูดภาษาจีนของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา. วารสารเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 1(1), 1-15. https://so02.tci-thaijo.org/index.php/etcedumsujournal/article/view/249174
ใจทิพย์ ณ สงขลา. (2561). การออกแบบการเรียนแนวดิจิทัล. สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ธัญธัช วิภัติภูมิประเทศ. (2559). รายงานการวิจัย เรื่อง พฤติกรรมการใช้สมาร์ทโฟนในชั้นเรียนของนักศึกษามหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์. มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.
นพดล ผู้มีจรรยา. (2557). การให้บริการแบบเคลื่อนที่สำหรับมหาวิทยาลัยอัจฉริยะ. วารสารการอาชีวะและเทคนิคศึกษา, 4(7), 34-42. https://ojs.kmutnb.ac.th/index.php/JVTE/article/view/1724
ปรัชญนันท์ นิลสุข. (2553). เว็บบล็อกเทคโนโลยีกับการจัดการความรู้. http://www.prachyanan.com/ppt/weblog.pdf
พิสิฐ ตั้งพรประเสริฐ. (2563). M-Learning: บทบาทใหม่การเรียนการสอนต้นคริสต์ศตวรรษที่ 21. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร, 18(1), 89-105. https://so02.tci-thaijo.org/index.php/suedujournal/article/view/185206
พูลศรี เวศย์อุฬาร. (2551). Mobile Learning (m learning) เอ็มเลิร์นนิ่ง - การเรียนทางเครือข่ายไร้สาย. http://thaimlearning.blogspot.com
วิจารณ์ พานิช. (2547). สถานศึกษากับการจัดการความรู้เพื่อสังคม. สำนักเลขาธิการสภาการศึกษา.
วัฒนา พลาชัย และวินัย เพ็งภิญโญ. (2562). การพัฒนาบทเรียนออนไลน์ Mobile Learning โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับเทคนิคการเรียนแบบร่วมมือในรายวิชาการเขียนเว็บไซต์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนศรีประจันต์ “เมธีประมุข”. Journal for Social Sciences Research, 10(1), 195-198. http://dept.npru.ac.th/jssr/data/files/10.1jss12.pdf
สุวิมล ว่องวานิช. (2550). การวิจัยประเมินความต้องการจำเป็น (พิมพ์ครั้งที่ 2). สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
อดิพล เอื้อจรัสพันธุ์. (2561). พฤติกรรมการใช้สื่อของกลุ่มเจ็นเนอเรชั่นเอ็กซ์และเจ็นเนอเรชั่นวาย. วารสารวิชาการนวัตกรรมสื่อสารสังคม, 1(11), 59-65. https://so06.tci-thaijo.org/index.php/jcosci/article/view/138056
Anand, M., & Timothy, P. (2016). Technology enabled learning excellence essentials. Aurora.
Pandey, A. (2016, May 3). 10 benefits of microlearning-based training. eLearning Industry. https://elearningindustry.com/10-benefits-microlearning-based-training
Deepa, K. (2019, May 25). Microlearning design: 7 must-have characteristics. CommLab India. https://blog.commlabindia.com/elearning-design/microlearning-design-characteristics
Dimiter, G. V. (2012). Mobile learning and integration of advanced technologies in education. University of National and World Economy.
Dudhagundi, D. (2016, January 4). Scenario-based learning: What is it & why do you need it. CommLab India. https://blog.commlabindia.com/elearning-design/scenario-basedlearning-what-and-why
Gillmer, B., & Haller, V. (2006). Applied psychology: Adjustment in living and work (2nd ed.). McGraw-Hill.
Kadir, D., & Ercan, A. (2018). Mobile learning in education: A review of research. Malaysian Online Journal of Educational Technology, 6(2), 20-28. https://www.mojet.net/ParticleDetail?id=314
Kelly, R. (2015, June 5). Scenario-based learning in the online classroom. Faculty Focus. https://www.facultyfocus.com/articles/online-education/scenario-based-learning-inthe-online-classroom/
Kövi, H., & Spiro, K. (2013, June 23). How to engage learners with scenario-based learning. Learning Solutions. https://www.learningsolutionsmag.com/articles/1108/how-to-engagelearners-with-scenario-based-learning
Mariappan, J., Shih, A., & Schrader, P. G. (2019). Use of scenario-based learning approach in teaching statics. California State Polytechnic University.
Omar, E. (2017). Perceptions of teaching methods for preclinical oral surgery: A comparison with learning styles. The Open Dentistry Journal, 11(1), 109-119. https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/28357004/
World Economic Forum. (2020). The future of jobs report 2020.
Zengin, M., Şengel, E., & Özdemir, M. A. (2018). Eğitimde mobil öğrenme üzerine araştırma eğilimleri [Research trends in mobile learning in education]. Journal of Instructional Technologies and Teacher Education, 7(1), 18-35.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1. ทรรศนะและข้อคิดเห็นใด ๆ ที่ปรากฏอยู่ในวารสาร ECT Education and Communication Technology Journal เป็นของผู้เขียนโดยเฉพาะ สำนักเทคโนโลยีการศึกษา มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และกองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วย
2. กองบรรณาธิการของสงวนลิขสิทธิ์ในการบรรณาธิการข้อเขียนทุกชิ้น เพื่อความเหมาะสมในการจัดพิมพ์เผยแพร่