การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โมไบล์เลิร์นนิงร่วมกับวิธีการเรียนรู้แบบสะท้อนคิดด้วยวีล็อกเพื่อพัฒนาความมั่นใจและทักษะการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนมัธยมศึกษา
คำสำคัญ:
โมไบล์เลิร์นนิง, กระบวนการสะท้อนคิด, วีล็อก, ทักษะการพูดภาษาอังกฤษ, ความมั่นใจบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โมไบล์เลิร์นนิงร่วมกับวิธีการเรียนรู้แบบสะท้อนคิดด้วยวีล็อกเพื่อพัฒนาความมั่นใจและทักษะการพูดภาษาอังกฤษ 2) ศึกษาผลของการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โมไบล์เลิร์นนิงร่วมกับวิธีการเรียนรู้แบบสะท้อนคิดด้วยวีล็อกเพื่อพัฒนาความมั่นใจและทักษะการพูดภาษาอังกฤษ 3) นำเสนอรูปแบบการจัดการเรียนรู้โมไบล์เลิร์นนิงร่วมกับวิธีการเรียนรู้แบบสะท้อนคิดด้วยวีล็อกเพื่อพัฒนาความมั่นใจและทักษะการพูดภาษาอังกฤษ ตัวอย่างที่ใช้งานวิจัย ได้แก่ 1) นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 150 คน และ 2) ผู้เชี่ยวชาญในการตรวจประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้และเครื่องมือวิจัย จำนวน 10 คน
ผลการวิจัยพบว่า 1) การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โมไบล์เลิร์นนิงร่วมกับวิธีการเรียนรู้แบบสะท้อนคิดด้วยวีล็อกฯ ประกอบไปด้วย 3 องค์ประกอบ คือ 1. การสะท้อนคิดระหว่างผู้เรียนกับสถานการณ์ 2. การสะท้อนคิดระหว่างผู้เรียนกับผู้สอน 3. การสะท้อนคิดระหว่างผู้เรียนกับผู้เรียน ซึ่งประกอบด้วย 7 ขั้นตอน คือ 1) การแนะนำ 2) การศึกษาเนื้อหาร่วมกันและสะท้อนความคิด 3) การเขียนแบบร่างวีล็อก 4) การแก้ไขแบบร่างวีล็อก 5) การถ่ายวีล็อก 6) การอัปโหลดวีล็อกและรับฟังคำแนะนำ และ7) การสะท้อนความคิดเห็น
2) ผลของทักษะการพูดภาษาอังกฤษและความมั่นใจในการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้โมไบล์เลิร์นนิงร่วมกับวิธีการเรียนรู้แบบสะท้อนคิดด้วยวีล็อกฯ เพิ่มขึ้นอย่าง
มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3) ผลการของการนำเสนอรูปแบบการจัดการเรียนรู้โมไบล์เลิร์นนิงร่วมกับวิธีการเรียนรู้แบบสะท้อนคิดด้วยวีล็อกฯ พบว่า ผลการประเมินรูปแบบอยู่ในระดับดีมาก
เอกสารอ้างอิง
ใจทิพย์ ณ สงขลา. (2550). E-Instructional design: วิธีวิทยาการออกแบบการเรียนการสอนอิเล็กทรอนิกส์ (พิมพ์ครั้งที่ 1). ศูนย์ตำราและเอกสารทางวิชาการ คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ณัฏฐ์นรี ฤทธิรัตน์. (2557). รายงานการวิจัย เรื่อง ความสามารถด้านการพูดภาษาอังกฤษและปัญหาในการพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษของนักศึกษามหาวิทยาลัย. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.
Andiappan, S., Seng, G. H., & Shing, S. R. (2022). The use of vlogging to enhance speaking performance of ESL students in a Malaysian secondary school. Teaching English with Technology, 21(2), 23-39. http://www.tewtjournal.org
Campbell, P., & Burnaby, B. (2001). Participatory practices in adult education. L. Erlbaum Associates.
De Saint Léger, D. (2009). Self-assessment of speaking skills and participation in a foreign language class. Foreign Language Annals, 42(1), 158-178. https://doi.org/10.1111/j.1944-9720.2009.01012.x
Kemp, S. (2022, February 24). Digital 2022: Global overview report. DataReportal. https://datareportal.com/reports/digital-2022-global-overview-report
Siddiqui, K. A., Khan, R., & Siddiqui, I. (2022). Self-confidence and speaking skills of the first-year undergraduates: A correlational study at a public sector university in Pakistan. Ezikov Svyat (Orbis Linguarum), 20(1), 106-110. https://doi.org/10.37708/ezs.swu.bg.v20i1.14
Suthiwartnarueput, T., & Nutayangkul, T. (2022). The outcome of using the Line app for English-speaking practice of Thai EFL students. Journal of Institutional Research South East Asia, 20(2), 161-227.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1. ทรรศนะและข้อคิดเห็นใด ๆ ที่ปรากฏอยู่ในวารสาร ECT Education and Communication Technology Journal เป็นของผู้เขียนโดยเฉพาะ สำนักเทคโนโลยีการศึกษา มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และกองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วย
2. กองบรรณาธิการของสงวนลิขสิทธิ์ในการบรรณาธิการข้อเขียนทุกชิ้น เพื่อความเหมาะสมในการจัดพิมพ์เผยแพร่