การพัฒนาบทเรียนไมโครเลิร์นนิงแบบมีปฏิสัมพันธ์ตามแนวคอนสตรัคติวิสต์เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดขั้นสูงสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง
คำสำคัญ:
ไมโครเลิร์นนิง, ทักษะการคิดขั้นสูง, คอนสตรัคติวิสต์บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาบทเรียนไมโครเลิร์นนิงแบบมีปฏิสัมพันธ์ตามแนวคอนสตรัคติวิสต์เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดขั้นสูง 2) เปรียบเทียบทักษะการคิดขั้นสูงก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยบทเรียนไมโครเลิร์นนิงแบบมีปฏิสัมพันธ์ตามแนวคอนสตรัคติวิสต์เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดขั้นสูง 3) ศึกษาความพึงพอใจหลังเรียนด้วยบทเรียนไมโครเลิร์นนิงแบบมีปฏิสัมพันธ์ตามแนวคอนสตรัคติวิสต์เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดขั้นสูง กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงที่เรียนกระบวนวิชา DTL2902 การใช้สื่อดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 ได้มาโดยสุ่มตัวอย่างแบบง่าย ด้วยวิธีการจับสลาก 1 ห้องเรียน จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) บทเรียนไมโครเลิร์นนิงแบบมีปฏิสัมพันธ์ 2) แบบประเมินคุณภาพบทเรียน 3) แบบทดสอบ วัดทักษะการคิดวิเคราะห์และการคิดเชิงเหตุผล 4) แบบประเมินความพึงพอใจ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าที
ผลการวิจัยพบว่า 1) บทเรียนไมโครเลิร์นนิงแบบมีปฏิสัมพันธ์ตามแนวคอนสตรัคติวิสต์เพื่อส่งเสริมทักษะการคิด ขั้นสูงมีคุณภาพด้านสื่ออยู่ในระดับมากที่สุด ( M = 4.76, SD = .30) ด้านเนื้อหามีคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุด ( M = 5.00, SD = .00) 2) ทักษะการคิดขั้นสูง ได้แก่ ทักษะการคิดวิเคราะห์และการคิดเชิงเหตุผล พบว่า หลังเรียนด้วยบทเรียนไมโครเลิร์นนิงแบบมีปฏิสัมพันธ์ตามแนวคอนสตรัคติวิสต์เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดขั้นสูงมีคะแนนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3) ความพึงพอใจของนักศึกษาหลังเรียนด้วยบทเรียนไมโครเลิร์นนิงแบบมีปฏิสัมพันธ์ตามแนวคอนสตรัคติวิสต์เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดขั้นสูงมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ( M = 4.72, SD = .29)
เอกสารอ้างอิง
ศยามน อินสะอาด. (2564). การออกแบบไมโครเลิร์นนิงยุคดิจิทัล. วารสารเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 16(20), 16-31.
ศยามน อินสะอาด. (2561). การออกแบบบทเรียนอีเลิร์นนิงเพื่อพัฒนาทักสะการคิดขั้นสูง. ซีเอ็ดยูเคชั่น.
ศยามน อินสะอาด. (2553). การพัฒนารูปแบบเลิร์นนิงอ็อบเจกต์เพื่อเสริมสร้างการสร้างความรู้และทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักศึกษาปริญญาบัณฑิต มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี [วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์]. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2564). ทักษะที่จำเป็นแห่งอนาคต (Future Skill) เพื่อเตรียมการพัฒนาคุณภาพคนไทยทุกช่วงวัยรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว (Disruption) ของโลกศตวรรษที่ 21: ผลการศึกษาและแนวทางการส่งเสริม (พิมพ์ครั้งที่ 1). เพชรเกษมพริ้นติ้ง กรุ๊ป.
Appasamy, P. (2018). Fostering student engagement with digital microscopic images using thinglink, an image annotation program. Journal of College Science Teaching, 47(5), 16-21. https://doi.org/10.2505/4/jcst18_047_05_16
Davies, A., Fidler, D., & Gorbis, D. (2020). Future work skills 2020. Institute for the Future for University of Phoenix Research Institute. http://www.iftf.org/uploads/media/SR1382A_UPRI_future_work_skills_sm.pdf
Ikeda, K., Marshall, A., & Zaharchuk, D. (2018). Reskilling Japan. IBM Corporation.
Inozemtseva, K., Kirsanova, G., Troufanova, N., & Semenova, Y. (2018). Using ThingLink digital posters in teaching ESP to business and economics students: A case study of Bauman Moscow State Technical University. In 11th annual International Conference of Education, Research and Innovation. https://doi.org/10.21125/iceri.2018.1780
Lamb, S., Maire, Q., & Doecke, E. (2017). Key skills for the 21st century: An evidence-based review. NSW Department of Education.
Perdana, R., Yani, R., Jumadi, J., & Rosana, N. (2019). Relationship between analytical thinking skill and scientific argumentation using PBL with interactive CK 12 simulation. http://files.eric.ed.gov/fulltext/EJ1264056.pdf
Sornnate, A. (2013). A development of analytical thinking skills of graduate students by using concept mapping. http://papers.iafor.org/wp-content/uploads/papers/ace2013/ACE2013_0381.pdf
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1. ทรรศนะและข้อคิดเห็นใด ๆ ที่ปรากฏอยู่ในวารสาร ECT Education and Communication Technology Journal เป็นของผู้เขียนโดยเฉพาะ สำนักเทคโนโลยีการศึกษา มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และกองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วย
2. กองบรรณาธิการของสงวนลิขสิทธิ์ในการบรรณาธิการข้อเขียนทุกชิ้น เพื่อความเหมาะสมในการจัดพิมพ์เผยแพร่