ความเชื่อและทัศนคติที่ส่งผลต่อพฤติกรรมความเป็นผู้นำด้านการสื่อสารของเยาวชนไทย

ผู้แต่ง

  • กรรณิการ์ โต๊ะมีนา คณะเทคโนโลยีสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร
  • ฉันทนา ปาปัดถา คณะเทคโนโลยีสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร

คำสำคัญ:

ความเชื่อ, ทัศนคติ, พฤติกรรม, ผู้นำการสื่อสาร, เยาวชนไทย

บทคัดย่อ

การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาความเชื่อ ทัศนคติ และพฤติกรรมความเป็นผู้นำการสื่อสาร 2) เปรียบเทียบลักษณะประชากรกับความเชื่อต่อความเป็นผู้นำการสื่อสาร 3) เปรียบเทียบลักษณะประชากรกับทัศนคติต่อความเป็นผู้นำการสื่อสาร 4) เปรียบเทียบลักษณะประชากรกับพฤติกรรมความเป็นผู้นำการสื่อสาร และ 5) ศึกษาความเชื่อและทัศนคติที่ส่งผลต่อพฤติกรรมความเป็นผู้นำการสื่อสารของเยาวชนไทย ที่มีอายุระหว่าง 18-22 ปี และกำลังศึกษาในระดับปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยของรัฐ 400 คน โดยใช้แบบสอบถามในการเก็บรวบรวมข้อมูล สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว การวิเคราะห์สมการถดถอยพหุคูณ และการถดถอยเชิงเส้นอย่างง่าย

ผลการวิจัยพบว่า 1) ความเชื่อต่อความเป็นผู้นำของเยาวชนไทย อยู่ในระดับมาก โดยด้านพัฒนาผู้อื่นให้เป็นผู้นำอยู่ในระดับมากที่สุด ด้านความสุขเมื่อได้ช่วยเหลือผู้อื่น อยู่ในระดับมาก ด้านความเชื่อมั่นในตนเอง อยู่ในระดับมาก ด้านผู้นำไม่ใช่ตำแหน่ง อยู่ในระดับมาก ด้านภาวะความเป็นผู้นำ อยู่ในระดับมาก และด้านพร้อมให้พลังผู้อื่น อยู่ในระดับมาก ส่วนทัศนคติต่อความเป็นผู้นำการสื่อสารของเยาวชนไทย อยู่ในระดับมากที่สุด โดยทัศนคติมีมีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือผู้นำควรใช้อำนาจให้เหมาะสม และพฤติกรรมความเป็นผู้นำการสื่อสารของเยาวชนไทย อยู่ในระดับมากที่สุด โดยพฤติกรรมที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ สื่อสารข้อมูลด้วยความซื่อตรงต่อตนเองและผู้อื่น 2) เยาวชนไทยที่มีระดับชั้นที่ศึกษาและระยะเวลาที่เคยมีประสบการณ์เป็นผู้นำต่างกันมีความเชื่อต่อความเป็นผู้นำแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3) เยาวชนไทยที่มีระดับชั้นที่ศึกษาและระยะเวลาที่เคยมีประสบการณ์เป็นผู้นำต่างกันมีทัศนคติต่อความเป็นผู้นำแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 4) เยาวชนที่มีและระยะเวลาที่เคยมีประสบการณ์เป็นผู้นำมีพฤติกรรมความเป็นผู้นำด้านการสื่อสารแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 5) ความเชื่อส่งผลทางบวกต่อพฤติกรรมความเป็นผู้นำการสื่อสารของเยาวชนไทย อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 มี 3 ตัวแปร ได้แก่ ด้านความเชื่อมั่นในตนเอง ด้านความสุขเมื่อได้ช่วยเหลือผู้อื่น และด้านพัฒนาผู้อื่นให้เป็นผู้นำ และทัศนคติส่งผลทางบวกกับความเป็นผู้นำของเยาวชนไทย อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

เอกสารอ้างอิง

กรมสุขภาพจิต. (2561, 29 ธันวาคม). กรมสุขภาพจิตเผย 'คนที่ช่วยเหลือผู้อื่น' จะมีค่าความสุขสูงกว่าคนไม่เคยช่วยเหลือใคร. มติชนออนไลน์. https://www.matichon.co.th/local/news_1294657

เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์. (2550). ภาวะผู้นำสร้างได้ในวัยเยาว์. https://www.kriengsak.com/node/548

คมวิทย์ สุขเสนีย์ และนินุสรา มินทราศักดิ์. (2566). รูปแบบการพัฒนาผู้นำเยาวชนในบริบทพื้นที่บ้านเกิดกรณีศึกษา: กลุ่มเยาวชนบ้าน "นากอ" ตำบลอัยเยอร์เวงอำเภอเบตง จังหวัดยะลา. วารสารสังคมศาสตร์และวัฒนธรรม, 7(4), 65-76. https://race.nstru.ac.th/home_ex/e-portfolio//pic/academy/16726324.pdf?1723565217

ฉัตร คำแสง, วรดร เลิศรัตน์ และเจณิตตา จันทวงษา. (2565). เด็กและครอบครัวไทยในสามวิกฤต: รายงานสถานการณ์เด็กและครอบครัว ประจำปี 2022. https://101pub.org/child-family-situation-report-2022/

ชมพูนุท สิริพรหมภัทร. (2539). ความสัมพันธ์ระหว่างความเชื่อมั่นในตนเอง ความภาคภูมิใจในตนเองและความวิตกกังวลของนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ประกาศนียบัตรสาธารณสุขศาสตร์ วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดขอนแก่น [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต ไม่ตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยขอนแก่น.

ณัฐพงศ์ บุณยารมณ์. (2553). ภาวะผู้นำของผู้บริหารที่ส่งต่อประสิทธิผลการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนที่เปิดสอนช่วงชั้นที่ 3-4 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาในจังหวัดนครพนม [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต ไม่ตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยนครพนม.

นารัติชา โปสันเทียะ และพิพัฒน์ ไทยอารี. (2557). แนวคิดในการเสริมสร้างศักยภาพความเป็นผู้นำของเยาวชนไทย กรณีศึกษาโรงเรียนวังหลังวิทยาคมในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 ตำบลทุ่งมหาเจริญ อำเภอวังน้ำเย็น อำเภอสระแก้ว. วารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์, 3(1), 104-115.

บุญชม ศรีสะอาด. (2556). การวิจัยเบื้องต้น (พิมพ์ครั้งที่ 9). สุวีริยาสาส์น.

ปกรณ์ วงศ์รัตนพิบูลย์. (2566). ความเชื่อเกี่ยวกับผู้นำ Coach at Work. http://coachatwork.in.th/570704.php

ปริวัฒน์ ช่างคิด. (2560). การพัฒนาเด็กและเยาวชนกลุ่มชาติพันธุ์เพื่อสร้างสำนึกความเป็นพลเมืองไทย กรณีศึกษา เด็กและเยาวชนกลุ่มชาติพันธุ์มอแกนเกาะเหลา จังหวัดระนอง. วารสารสถาบันพระปกเกล้า, 15(2), 94-115. https://kpi.ac.th/knowledge/research/data/286

พงศ์สวัสดิ์ ราชจันทร์. (2564). การปกครองท้องถิ่นเปรียบเทียบ (พิมพ์ครั้งที่ 3). ร้อยเอ็ดปริ้น.

ยาสมิน ซัตตาร์, สมัชชา นิลปัทม์ และอิมรอน ซาเหาะ. (2564). การสื่อสารจากกลุ่มคนรุ่นใหม่ชายแดนใต้ในชุมชนเชิงกายภาพและชุมชนออนไลน์ภายใต้ภาวการณ์ระบาดของโควิด-19. Journal of Social Sciences and Humanities Research in Asia, 28(2), 121-135. https://so05.tci-thaijo.org/index.php/psujssh/article/view/258142

สำนักข่าวสร้างสุข. (2564). หนุนเยาวชนใช้สื่อสร้างสรรค์ สู่พลเมืองตื่นรู้และนักสื่อสารสุขภาวะ. Thai Health. https://www.thaihealth.or.th/youth-media-creative

สำนักงานปลัดกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม. (2567). ข้อมูลนักศึกษา. https://info.mhesi.go.th/homestat_std.php

สุขุม เฉลยทรัพย์. (2566, 1 กุมภาพันธ์). เยาวชนไทย กับ "อนาคตประเทศ". สยามรัฐ. https://siamrath.co.th/c/419697

สุเทพ พงศ์ศรีวัฒน์. (2550). ภาวะผู้นำเชิงจริยธรรม. มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย.

สุเวศ กลับศรี. (2557). ภาวะผู้นำที่ควรพัฒนาในเยาวชน. วารสารนาคบุตรปริทรรศน์, 6(2), 132-140. https://so04.tci-thaijo.org/index.php/nakboot/article/view/97374

อัครวัฒน์ ราตรีสวัสดิ์ และศุภฤกษ์ โพธิไพรัตนา. (2564). พฤติกรรมการสื่อสารและการเรียนรู้พฤติกรรมทางเพศของเยาวชนในจังหวัดเชียงใหม่. วารสารการสื่อสารมวลชน, 9(1), 26-51. https://so03.tci-thaijo.org/index.php/masscomm/article/view/245075

เอกศักดิ์ นาคสกุล. (2567). การพัฒนาทักษะการสื่อสารของเยาวชนไทยในศตวรรษที่ 21. วารสารการศึกษานานาชาติ, 12(3), 45-60.

Astin, A. W., & Astin, H. S. (2000). Leadership reconsidered: Engaging higher education in social change. W.K. Kellogg Foundation.

Avolio, B. J., & Hannah, S. T. (2008). Developmental readiness: Accelerating leader development. Consulting Psychology Journal: Practice and Research, 60(4), 331-347. https://doi.org/10.1037/1065-9293.60.4.331

Avolio, B. J., & Luthans, F. (2006). The high impact leader: Moments matter in authentic leadership development. McGraw-Hill.

Bandura, A. (1997). Self-efficacy: The exercise of control. Freeman.

Day, D. V. (2000). Leadership development: A review in context. The Leadership Quarterly, 11(4), 581-613. https://doi.org/10.1016/S1048-9843(00)00061-8

Dugan, J. P. (2017). Leadership theory: Cultivating critical perspectives. Wiley.

Eagly, A. H., & Carli, L. L. (2003). The female leadership advantage: An evaluation of the evidence. The Leadership Quarterly, 14(6), 807-834. https://doi.org/10.1016/j.leaqua.2003.09.004

Greenleaf, R. K. (2002). Servant leadership: A journey into the nature of legitimate power and greatness. Paulist Press.

Judge, T. A., & Bono, J. E. (2000). Five-factor model of personality and transformational leadership. Journal of Applied Psychology, 85(5), 751-765. https://doi.org/10.1037/0021-9010.85.5.751

Komives, S. R., & Wagner, W. (Eds.). (2016). Leadership for a better world: Understanding the social change model of leadership development. Jossey-Bass.

Kouzes, J. M., & Posner, B. Z. (2017). The leadership challenge (6th ed.). Wiley.

Northouse, P. G. (2021). Leadership: Theory and practice (9th ed.). Sage.

Yamane, T. (1973). Statistics: An introductory statistics, (Second Edition). Harper & Row.

Yukl, G. (2013). Leadership in organizations (8th ed.). Pearson.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-05-15

รูปแบบการอ้างอิง

โต๊ะมีนา ก. ., & ปาปัดถา ฉ. (2025). ความเชื่อและทัศนคติที่ส่งผลต่อพฤติกรรมความเป็นผู้นำด้านการสื่อสารของเยาวชนไทย. วารสาร อีซีที เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา, 20(28), 139–158. สืบค้น จาก https://so01.tci-thaijo.org/index.php/ectstou/article/view/277074