การออกแบบลวดลายซ้ำทางเรขศิลป์เพื่อสื่อสารอัตลักษณ์วัฒนธรรมไทดำสำหรับเจเนอเรชั่นวาย
Main Article Content
บทคัดย่อ
การออกแบบลวดลายซ้ำทางเรขศิลป์เพื่อสื่อสารอัตลักษณ์วัฒนธรรมไทดำสำหรับเจเนอเรชั่นวาย มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาแนวทางการออกแบบลวดลายซ้ำทางเรขศิลป์ที่แสดงออกถึงความเป็นวัฒนธรรมไทดำ 2) เพื่อหาแนวทางการสื่อสารอัตลักษณ์วัฒนธรรมไทดำสำหรับเจเนอเรชั่นวาย 3) ออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อสื่อสารอัตลักษณ์วัฒนธรรมไทดำสำหรับเจเนอเรชั่นวาย มีขั้นตอนวิจัยโดยศึกษาข้อมูลและสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญในพื้นที่เพื่อสร้างแบบสอบถามนำมาวิเคราะห์เป็นแนวทางเพื่อออกแบบลวดลายซ้ำและนำผลที่ได้ใช้เป็นเครื่องมือสำหรับทำแบบสอบถามสนทนากลุ่ม (Focus Group) กับกลุ่มเป้าหมายเจเนอเรชั่นวาย มีวิธีดำเนินการวิจัย คือ 1) ศึกษาข้อมูลที่ใช้ 2) การเก็บรวบรวมข้อมูล 3) การวิเคราะห์ข้อมูล และ 4) การดำเนินการออกแบบ แนวคิดและทฤษฎีในการวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยได้ใช้ความสัมพันธ์ของรูปทรง มาประยุกต์ใช้ในการออกแบบลวดลายซ้ำเพื่อสื่อสารอัตลักษณ์วัฒนธรรมไทดำ โดยใช้หลักการซ้ำ 8 วิธี ประกอบด้วยการซ้ำแบบ 1) รูปร่าง 2) ขนาด 3) สี 4) ผิวสัมผัส 5) ทิศทาง 6) ตำแหน่ง 7) ที่ว่าง และ 8) แรงดึงดูด เพื่อให้การออกแบบลวดลายให้มีความต่อเนื่องผู้วิจัยได้นำการซ้ำไปใช้ในการออกแบบและจัดวางเพื่อสร้างลวดลายซ้ำโดยนำรูปทรงหนึ่งมาสัมพันธ์กับอีกรูปทรงหนึ่งโดยใช้เส้นของโครงสร้าง 5 รูปแบบ ได้แก่ โครงสร้างแบบมีแผน กึ่งมีแบบแผน แบบไม่มีแบบแผน แบบคงที่ และแบบเคลื่อนไหว ผลวิจัยพบว่า ผลการวิจัยพบว่า 1) แนวทางการออกแบบลวดลายซ้ำทางเรขศิลป์ที่สื่อถึงวัฒนธรรมไทดำใช้รากวัฒนธรรมไทดำที่สามารถนำมาสังเคราะห์เป็นแนวทางการออกแบบได้มี 5 หมวดหมู่ คือ เครื่องแต่งกาย สถาปัตยกรรม ประเพณี การละเล่น และความเชื่อ ซึ่งสะท้อนถึงวิถีชีวิตในอดีต 2) แนวทางการสื่อสารอัตลักษณ์วัฒนธรรมไทดำสำหรับเจเนอเรชั่นวาย รูปทรงที่เหมาะสมคือ รูปทรงธรรมชาติ รูปทรงเขียนมือ และรูปทรงเรขาคณิต โดยมีบุคลิกภาพของสีที่สอดคล้องคือ โบราณ มีชีวิตชีวา สง่างาม และเป็นธรรมชาติ และ 3) การออกแบบลวดลายบนผลิตภัณฑ์เพื่อสื่อสารอัตลักษณ์เพื่อความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย Generation y คือ เสื้อ กางเกง หมวก แก้วน้ำ กระเป๋า
Article Details
เอกสารอ้างอิง
ไทยโรจน์ พวงมณี, และอิสริยาภรณ์ ชัยกุหลาบ. (2567). ผ้าซิ่นนางหาญ: ตำนานและอัตลักษณ์ผ้าทอพื้นบ้านของกลุ่มชาติพันธุ์ไทดำอำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย. วารสารวิพิธพัฒนศิลป์บัณฑิตศึกษา, 4(1), 98.
ธนวัฒน์ ฝอยจันทร์. (2558). การออกแบบกราฟิกจากอัตลักษณ์อีสานเพื่ออุตสาหกรรมเชิงวัฒนธรรม. วารสารเทคโนโลยีอุตสาหกรรมมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี, 5(1), 167.
พรพิมล บาลี. (2568). กระบวนการสร้างสรรค์แนวความคิดจากลวดลายอัตลักษณ์ชุมชนไทเขินในผลิตภัณฑ์ของที่ระลึกทุนวัฒนธรรมบ้านต้นแหนน้อย จังหวัดเชียงใหม่.วารสารศิลปกรรมและการออกแบบแห่งเอเชีย, 6(1), 33.
มุกด์ตรา ทองเวส. (2559). ศึกษาการออกแบบเรขศิลป์สำหรับร้านอาหารไทยประเภทต่าง ๆ เพื่อเจเนอเรชั่นวาย. วิทยานิพนธ์ศิลปกรรมศาสตร์มหาบัณฑิต ศป.ม., จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สุกรี เจะปูตะและเอื้อเอ็นดู ดิศกุล ณ อยุธยา. (2566). การออกแบบลวดลายซ้ำทางเรขศิลป์เพื่อสื่อสารอัตลักษณ์วัฒนธรรมไทยมลายู สำหรับเจเนอเรชั่นวาย. วารสารศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 9(1), 96.
สุเทพ สุนทรเภสัช. (2549). ชาติพันธุ์สัมพันธ์: แนวคิดพื้นฐานทางมานุษยวิทยาในการศึกษาอัตลักษณ์กลุ่มชาติพันธุ์ ประชาชาติ และการจัดองค์กรความสัมพันธ์ทางชาติพันธุ์. กรุงเทพฯ: เมืองโบราณ.
Evans, G. (1998). The Politics of Ritual and Remembrance: Laos in the Twentieth Century. University of Hawaii Press.
Hall, S. (1980). Encoding/decoding. In S. Hall, D. Hobson, A. Lowe, & P. Willis (Eds.), Culture, media, language: Working papers in cultural studies, 1972-79 (pp. 128–138). Hutchinson.
Hall, S. (Ed.). (1997). Representation: Cultural representations and signifying practices. Sage Publications.
Kobayashi, S. (1991). Color image scale. Kodansha International.
Stickdorn, M., Hormess, M. E., Lawrence, A., & Schneider, J. (2018). This is service design doing: Applying service design thinking in the real world. O'Reilly Media.