การเสริมพลังภาคประชาสังคมในการคิดเชิงยุทธศาสตร์เพื่อสร้างอนาคตใหม่ ให้กับจังหวัดนครนายก

บทคัดย่อ

การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมพลังในการเรียนรู้การคิดเชิงยุทธศาสตร์ให้กับประชาคมนครนายก และนำเสนอยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดนครนายก กลุ่มเป้าหมายคือผู้นำและตัวแทนภาคประชาชนจากสภาพลเมืองจังหวัดนครนายก 40 คน เครื่องมือที่ใช้คือการสำรวจเอกสาร การตั้งคำถาม          การสะท้อนผลการศึกษา การทำแบบสอบถาม การอภิปราย การสานเสวนาเพื่อการเรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลง  และเสริมทฤษฎีเพื่อการเรียนรู้ ข้อมูลเชิงคุณภาพวิเคราะห์ด้วยวิธีการวิเคราะห์เนื้อหา ส่วนข้อมูลเชิงปริมาณวิเคราะห์ด้วยค่าความถี่ ร้อยละและจัดลำดับความสำคัญ  

ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มเป้าหมายได้พบจุดอ่อนในการดำเนินงานของภาคประชาชนคือขาดการมีส่วนร่วมในการพัฒนาเมือง ประชาชนซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในภาคเกษตรกรรมไม่ประสบความสำเร็จในอาชีพ แม้จะมีจุดแข็งในเรื่องความอุดมสมบูรณ์ของฐานทรัพยากร ปัจจัยภายในทั้งจุดแข็งและจุดอ่อนได้นำสู่การเชื่อมโยงของปัจจัยภายนอกที่ถูกคุกคามจากกลุ่มทุนภายนอกที่คาดหวังจากทรัพยากรที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์  ภายหลังการให้ความรู้ในทฤษฎีการเรียนรู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงและเสริมพลังการคิดเชิงยุทธศาสตร์นำไปสู่การขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเมืองนครนายกภายใต้ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคประชาสังคมอย่างมีพลัง โดยกำหนดวิสัยทัศน์ของการสร้างเมืองนครนายกให้เป็นเมืองน่าอยู่ มีความปลอดภัย ประชาชนมีสุขภาวะที่ดี เป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ และผู้คนมีความเอื้ออาทร มีความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน ยุทธศาสตร์สำคัญในการขับเคลื่อนตามวิสัยทัศน์มี 4 ประการคือ 1) รักษาธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมและความหลากหลายทางชีวภาพ           2) สร้างเสริมอาชีพและเศรษฐกิจของกลุ่มธุรกิจชุมชนที่มีขนาดเล็กและขนาดกลาง โดยการสร้างมูลค่าเพิ่ม (Value Added) ให้กับสินค้าเกษตร และสร้างสรรค์มูลค่า (Value Creation) 3) ปรับปรุงวิถีชีวิตโดยเชื่อมโยงการเรียนรู้ในระบบโรงเรียนกับศูนย์การเรียนรู้ของชุมชนเพื่อให้เยาวชนมีโอกาสสัมผัสกับประสบการณ์จริงของท้องถิ่น รวมถึงมีการออกแบบเมืองภูมิทัศน์ อาคาร สถานที่และสิ่งสร้างของเมืองเพื่อรองรับชีวิตที่ดีกว่าในอนาคต และ 4) การสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ สร้างชุมชนเข้มแข็งและเครือข่ายองค์กรชุมชนที่เข้มแข็ง