การสังเคราะห์งานวิจัย ด้านการแนะแนวในสถานศึกษาของประเทศไทย ระหว่างปี พ.ศ. 2550-2557
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสังเคราะห์งานวิจัยด้านการแนะแนวในสถานศึกษาระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษา และระดับอุดมศึกษาของประเทศไทย ระหว่างมกราคม พ.ศ. 2550 ถึง ธันวาคม พ.ศ. 2557 ประชากรที่ใช้ในการวิจัยคือ วิทยานิพนธ์/ปริญญานิพนธ์ ระดับมหาบัณฑิต จำนวน 61 เรื่อง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบสำรวจข้อมูลเพื่อการสังเคราะห์งานวิจัย เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีการสังเคราะห์เชิงปริมาณโดยใช้ค่าความถี่และร้อยละ ผลการวิจัย 1) ด้านข้อมูลพื้นฐาน พบว่า สาขาศึกษาศาสตร์ผลิตงานวิจัยมากที่สุด (ร้อยละ 68.85) 2) ด้านเนื้อหาตามขอบเขตของงานวิจัย พบว่า วัตถุประสงค์ส่วนใหญ่คือเพื่อเปรียบเทียบพฤติกรรมเป้าหมายของกลุ่มตัวอย่าง (ร้อยละ 95.08) ประโยชน์ที่ได้รับที่พบมากที่สุดคือ ได้รูปแบบของกิจกรรมแนะแนวและเครื่องมือต่าง ๆ (ร้อยละ 85.20) ขอบเขตงานวิจัยที่มีการศึกษามากที่สุดคือ การแนะแนวด้านส่วนตัวและสังคม (ร้อยละ 67.21) สมมติฐานแบบมีทิศทางพบมากที่สุด (ร้อยละ 60.66) 3) ด้านวิธีดำเนินการวิจัย พบว่า ประเภทของงานวิจัยส่วนใหญ่คือ งานวิจัยเชิงปริมาณ (ร้อยละ 81.97) ซึ่งเป็นเชิงกึ่งทดลองทั้งหมด (ร้อยละ 100) ที่มาของประชากร/กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คือ โรงเรียน (ร้อยละ 96.72) การเลือกกลุ่มตัวอย่างโดยการสุ่มแบบไม่ใช้ความน่าจะเป็นแบบเจาะจงพบมากที่สุด (ร้อยละ 49.18) เครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัยได้สร้างเองมากที่สุด (ร้อยละ 98.36) เป็นชุดกิจกรรมแนะแนวมากที่สุด (ร้อยละ 100) การตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือวิจัยส่วนใหญ่คือ มีการนำส่งผู้เชี่ยวชาญ/ผู้ทรงคุณวุฒิ (ร้อยละ 100) การทดลองใช้ (ร้อยละ 100) ความตรง (ร้อยละ 100) และความเที่ยง (ร้อยละ 100) สถิติในการวิเคราะห์ข้อมูลส่วนใหญ่คือส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (ร้อยละ 98.36) ระดับนัยสำคัญที่ 0.05 พบมากที่สุด (ร้อยละ 50.82) 4) ด้านผลการวิจัย พบว่ากลุ่มบุคคลที่ผู้วิจัยคาดว่าจะนำผลการวิจัยไปใช้หรือใช้ประโยชน์จากงานวิจัยส่วนใหญ่คือ นักเรียน/นักศึกษา (ร้อยละ 100)
Article Details
นโยบายการพิจารณากลั่นกรองบทความ
- บทความวิจัยและบทความวิชาการทุกเรื่องที่จะได้รับการตีพิมพ์ต้องผ่านการพิจารณากลั่นกรองโดยผู้ทรงคุณวุฒิ (Peer Review) ในสาขาที่เกี่ยวข้อง จำนวน 3 ท่าน/บทความ
- บทความ ข้อความ ภาพประกอบและตารางประกอบที่ลงตีพิมพ์ในวารสารเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน กองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยเสมอไป และไม่มีส่วนรับผิดชอบใด ๆ ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียว
- บทความที่จะได้รับการตีพิมพ์จะต้องไม่เคยตีพิมพ์ เผยแพร่ที่ใดมาก่อน และไม่อยู่ระหว่างการพิจารณาของวารสารฉบับอื่น หากตรวจสอบพบว่ามีการตีพิมพ์ซ้ำซ้อน ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียว
- บทความใดที่ผู้อ่านเห็นว่าได้มีการลอกเลียนหรือแอบอ้างโดยปราศจากการอ้างอิง หรือทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นผลงานของผู้เขียน กรุณาแจ้งให้กองบรรณาธิการวารสารทราบจะเป็นพระคุณยิ่ง
เอกสารอ้างอิง
Boonsathirakul, Jittinan. (2006). Principle of Guidance. n.p.
Buason, Rattana. (2012). Mixed Methods for Research and Evaluation. Bangkok: Chulalongkorn University.
Chullasup, Nirun. (2009). Research in Psychology Guidance. 2nd ed. Songkhla: Thaksin University Book Center.
__________. (2015). Guidance for Student Development. Songkhla: Numsilp Advertise Co., Ltd.
Kajornsin, Boonreang. (2006). Statistics for Research I. Bangkok: Physic Center.
Kanjanawasee, Sirichai, Pitayanoon, Taweewat, and Srisukho, Derek. (2012). Selection of Appropriate Statistics for Research. 6thed. Bangkok: Chulalongkorn University.
Limaree, Phanom. (2005). Introduction to Guidance. 2nded. Bangkok: Odeon Store.
Limmunching, Jaturaporn. (2011). Methods of Guidance Teaching PC 422. Bangkok: Ramkhamhaeng University.
Office of the Basic Education Commission (OBEC), Ministry of Education. (2011). Stratigic Guidance Plan for Mandatory Education under The Eleventh National Economic and Social Development Plan (2012 - 2016) แผนยุทธศาสตร์การแนะแนวระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 (พ.ศ.2555 - 2559). Bangkok: Bureau of Affairs and Educational Standards, Office of the Basic Education Commission, Ministry of Education.
Office of the Education Council (ONEC), Ministry of Education. (2011). Education Laws vol.1. Bangkok: Chulalongkorn University.
Pinyo, Teerada and Thovicha, Adisai. (2009). Statistics for Research. Nonthaburi: Fern Kha Luang Pinting and Pubishing Ltd.
Ramajitti Institue. Child Watch [Online]. (2016). https://www.childwatchthai.org/pdf/news/ cw_summary_2554_2555. pdf, August 2, 2016.
Sinpeng, Duangkamol. (2010). Student Development to Learning Society : Student-Centered Learning. 2ndrev. ed. Bangkok: Chulalongkorn University.
Sukhothai Thammathirat Open University. Field of Education [Online]. (2016). https://www.stou.ac.th/offices/ore/adre/enrollment/20.html, July 30, 2016.
Thai Health Promotion Foundation (Thaihealth) and The Guidance Association of Thailand (n.d.). Guidance System in School. n.p.: Inter Tech Printing Co.,Ltd.
Wiratchai, Nonglak. (1999). META ANALYSIS. Bangkok: Nichinadvertising.group.
Wongchiangsree, Supaporn. (2009). A Synthesis of Master's Degree Theses on the Provision of Experiences for Thinking Development Ability of Preschool Children. Master of Education in Curriculum and Instruction, Sukhothai Thammathirat Open University.