แนวทางการส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวนันทนาการ จังหวัดสมุทรปราการ
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยเรื่องแนวทางการส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวนันทนาการ จังหวัดสมุทรปราการ มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาพฤติกรรมการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวไทยในแหล่งท่องเที่ยวนันทนาการ จังหวัดสมุทรปราการ 2) เพื่อศึกษาระดับความสำคัญของปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดในแหล่งท่องเที่ยวนันทนาการ จังหวัดสมุทรปราการ และ 3) เพื่อเสนอแนะแนวทางการส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวนันทนาการ จังหวัดสมุทรปราการ งานวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่าง คือ นักท่องเที่ยวชาวไทยจำนวน 400 คน และใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือวิจัย วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ สถิติค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ในการทดสอบสมมติฐานใช้สถิติเชิงอนุมาน ได้แก่ สถิติไคสแควร์แบบกลุ่มตัวอย่างเดียว การทดสอบสมมติฐานใช้ค่าที (t-test) และการทดสอบความแปรปรวนแบบทางเดียว (One-way ANOVA or F-test) ในกรณีมีนัยสำคัญทางสถิติจะทำการทดสอบเป็นรายคู่ด้วยวิธีของเชฟเฟ่ (Scheffe Method) โดยกำหนดนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
ผลการวิจัยพบว่า 1) นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวนันทนาการ จังหวัดสมุทรปราการ ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อายุระหว่าง 20 - 39 ปี มีการศึกษาระดับปริญญาตรี มีอาชีพเป็นพนักงานบริษัทเอกชน มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 10,000 - 19,999 บาท สถานภาพสมรส 2) พฤติกรรมการท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยว กลุ่มตัวอย่างโดยส่วนใหญ่มีวัตถุประสงค์ของการเดินทางเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ ระยะเวลาในการท่องเที่ยวคือ 2 - 3 ชม. และมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยวต่ำกว่า 500 บาท 3) ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่นักท่องเที่ยวให้ความสำคัญในแหล่งท่องเที่ยวนันทนาการ จังหวัดสมุทรปราการ โดยเรียงลำดับจากระดับมากไปน้อยได้แก่ ด้านองค์ประกอบทางกายภาพ ด้านบุคลากร ด้านสถานที่ ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย ด้านสินค้า ด้านกระบวนการให้บริการ และด้านส่งเสริมการตลาด แนวทางการส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวนันทนาการ จังหวัดสมุทรปราการ ควรมีการส่งเสริมทางด้านองค์ประกอบทางกายภาพ ทั้งภายนอกและภายในแหล่งท่องให้มีบรรยากาศที่ดี มีการจัดการด้านความสะอาดทั้งภายในและบริเวณโดยรอบ รวมถึงต้องมีห้องน้ำที่สะอาดและมีจำนวนเพียงพอ ปรับปรุงพื้นที่ลานจอดรถให้มีจำนวนเพียงพอ มีการบริหารจัดการด้านความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน ในด้านบุคลากรควรจัดอบรมความรู้ทักษะและเพิ่มคุณภาพการให้บริการ
Article Details
นโยบายการพิจารณากลั่นกรองบทความ
- บทความวิจัยและบทความวิชาการทุกเรื่องที่จะได้รับการตีพิมพ์ต้องผ่านการพิจารณากลั่นกรองโดยผู้ทรงคุณวุฒิ (Peer Review) ในสาขาที่เกี่ยวข้อง จำนวน 3 ท่าน/บทความ
- บทความ ข้อความ ภาพประกอบและตารางประกอบที่ลงตีพิมพ์ในวารสารเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน กองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยเสมอไป และไม่มีส่วนรับผิดชอบใด ๆ ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียว
- บทความที่จะได้รับการตีพิมพ์จะต้องไม่เคยตีพิมพ์ เผยแพร่ที่ใดมาก่อน และไม่อยู่ระหว่างการพิจารณาของวารสารฉบับอื่น หากตรวจสอบพบว่ามีการตีพิมพ์ซ้ำซ้อน ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียว
- บทความใดที่ผู้อ่านเห็นว่าได้มีการลอกเลียนหรือแอบอ้างโดยปราศจากการอ้างอิง หรือทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นผลงานของผู้เขียน กรุณาแจ้งให้กองบรรณาธิการวารสารทราบจะเป็นพระคุณยิ่ง
เอกสารอ้างอิง
Atchara Sombatnantana. (2012). The Behavior of Chinese Tourist Who Come to Thailand for Tourist Purpose. Master’s project. SrinakharinwirotUniversity.
Department of Local Administration, Ministry of Interior. (2006). Standard of Tourism Promotion. Bangkok: Department of Local Administration, Ministry of Interior.
Department of Tourism. (2007). Manual of The Standard Evaluation of Recreation Tourism.Availablefrom:http://newdot2.samartmultimedia.com/getfile/getfileattachfromurl/2383/aHR0cDovL25ld2RvdDIuc2FtYXJ0bXVsdGltZWRpYS5jb20vZmFybXMva2IvZG9jdW1lbnRzL2EyMTljOGE5NTUyNTY5ZmUwNmU4ZDFkNDk0N2Q5NGQ3LnBkZg. Cited 10 December 2015.
Department of Tourism. (2015). The Tourists’ Situation Summary for October, 2015. Available from: https://www.m-society.go.th/article_attach/15709/18901.pdf. Cited 30 November 2015.
Department of Tourism. (2016). The Tourists’ Statistics for 2015. Available from: http://tourism2.tourism.go.th/farms/uploaded/00Statistic/2015/Internal/Domestic_Q1_Q4_2015_Central.rar. Cited 16 December 2016.
Kanit Kheovichai. (1991). Principles of recreation. Nakhon Pathom: Silpakorn University.
Kittichai Jaroenchai. (2007). Behavior tourist education for develop tourism route and services marketing strategy manner Buddha tourism in Mahasarakham Province. Thesis. Doctor of Business Administration (Public and Private Sectors Management). Mahasarakham University.
Kobkarn Reantong. (2013). Factors Affecting Tourist Behavior at Amphawa Floating Market, Samut Songkhram Province. Master Project. Master of Business Administration (Marketing Management). Siam University.
Nawarat Phlainoi et al. (1995). The Domestic Tourism Behaviors of Thai Tourists (present to Tourism Authority of Thailand). Nakhon Pathom: ASEAN Institute for Health Development, Mahidol University.
Rungtham Khumkratuek. (2011). A Study Tour Behavior and The Need for Development of Thai Tourists in Don Wai Temple Waterfront Market, Samphran District, Nakhonpathom Province. Thesis. Master of Education (Education Foundations). Silpakorn University.
Tourism Authority of Thailand. (2010). The 8th Thailand Tourism Awards 2010. Available from:https://www.tourismthailand.org/fileadmin/downloads/others/instruction_Tourism_awards_2010.pdf. Cited 15 August 2015
Siripan Thavorntaveevong. (2000). Demography. Bangkok: Ramkhamhaeng University.
Siriwan Sereerat. (1995). Consumer Behavior. Bangkok: Thai Wattana Panich.
Siriwan Sereerat, Parin Luksitanont, and Suporn Sereerat. (1998). Marketing Management. Bangkok: Theerafilm and Sitext.
Yubol Benjarongkij. (1999). Audience Analysis. Bangkok: T.P.Print.