การพัฒนาอาหารพื้นถิ่นและวิเคราะห์คุณค่าทางโภชนาการสู่สำรับอาหารเพื่อการท่องเที่ยวชุมชนไทลื้อ หมู่บ้านหาดบ้าย จังหวัดเชียงราย
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาภูมิปัญญาด้านอาหารพื้นถิ่น 2) เพื่อพัฒนาตำรับอาหารพื้นถิ่นสู่สำรับอาหารเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว 3) เพื่อศึกษาการวิเคราะห์คุณค่าทางโภชนาการตำรับอาหารพื้นถิ่นอันนำไปสู่ผลิตภัณฑ์สำรับอาหารไทลื้อที่มีมาตรฐานในการต้อนรับนักท่องเที่ยว เก็บข้อมูลโดยศึกษาจากข้อมูลทุติยภูมิ การสนทนากลุ่ม การสังเกตการณ์แบบมีส่วนร่วม ร่วมประกอบอาหารและประเมินคุณค่าทางโภชนาการสารด้วยโปรแกรม INMUCAL-Nutrients กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารพื้นถิ่น ผู้นำชุมชน ตัวแทนนักวิชาการด้านวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย นักวิชาการด้านอาหาร ตัวแทนนักพัฒนาชุมชนที่มีความรู้ด้านอาหารพื้นถิ่นอย่างดี และนักท่องเที่ยว รวมจำนวน 10 คน โดยใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบลูกโซ่ (Snowball Sampling) ผลการศึกษาพบว่า อาหารพื้นถิ่นของชาวบ้านเป็นอาหารไทลื้อที่หาวัตถุดิบได้จากท้องถิ่น และแม่น้ำโขง สืบทอดผ่านครอบครัวจากรุ่นสู่รุ่น โดยผู้หญิงจะเป็นคนทำอาหารในครัวเรือน และมีการสืบทอดผ่านการทำอาหารร่วมกันในชุมชนจากผู้อาวุโสสู่รุ่นหลังๆ ตามงานประเพณีสำคัญในชุมชน อาหารในสำรับมีความเป็นเอกลักษณ์ แสดงออกถึงวิถีชีวิต สภาพภูมิศาสตร์ ประเพณี วัฒนธรรม กระบวนการประกอบอาหาร ภูมิปัญญาในการรับประทานอาหารที่ดูแลสุขภาพจากวัตถุดิบที่มีในท้องถิ่น และรูปแบบการรับประทานอาหารที่มีเอกลักษณ์ของชุมชน การจัดสำรับอาหารเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวเป็นอาหารที่ชาวบ้านรับประทานในชีวิตประจำวันแต่อาจจะเพิ่มเนื้อสัตว์เข้าไปในแต่ละรายการอาหารเพื่อแสดงถึงความพิเศษในการต้อนรับแขก ในสำรับอาหารประกอบด้วยอาหารคาว จำนวน 5 ตำรับ รับประทานคู่กับข้าวเหนียว นอกจากนี้พบว่าชาวบ้านไม่นิยมรับประทานอาหารหวานหลังมื้ออาหาร การวิเคราะห์คุณค่าทางโภชนาการสำรับอาหารพื้นถิ่นพบว่า หนึ่งสำรับอาหารต่อแขกจำนวน 4 ท่านรับประทาน ให้พลังงาน 3267.06 กิโลแคลอรี่ โปรตีน 179.95 กรัม ไขมัน 149.73 กรัม คาร์โบไฮเดรต 300.03 กรัม แคลเซียม 538.44 กรัม วิตามินเอ 1129.2 RAE และ วิตามินซี 254.24 RAE ประโยชน์ของงานวิจัยครั้งนี้เพื่อพัฒนาสำรับอาหารไทลื้อที่ใช้ต้อนรับนักท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้กับชุมชน และยังเป็นการเก็บสูตรอาหารให้กับชุมชนสืบต่อไป นอกจากนี้การแสดงคุณค่าทางโภชนาการของสำรับอาหารยังเป็นการสร้างมาตรฐานให้สำรับอาหารของชุมชนอีกด้วย
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
นโยบายการพิจารณากลั่นกรองบทความ
- บทความวิจัยและบทความวิชาการทุกเรื่องที่จะได้รับการตีพิมพ์ต้องผ่านการพิจารณากลั่นกรองโดยผู้ทรงคุณวุฒิ (Peer Review) ในสาขาที่เกี่ยวข้อง จำนวน 3 ท่าน/บทความ
- บทความ ข้อความ ภาพประกอบและตารางประกอบที่ลงตีพิมพ์ในวารสารเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน กองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยเสมอไป และไม่มีส่วนรับผิดชอบใด ๆ ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียว
- บทความที่จะได้รับการตีพิมพ์จะต้องไม่เคยตีพิมพ์ เผยแพร่ที่ใดมาก่อน และไม่อยู่ระหว่างการพิจารณาของวารสารฉบับอื่น หากตรวจสอบพบว่ามีการตีพิมพ์ซ้ำซ้อน ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียว
- บทความใดที่ผู้อ่านเห็นว่าได้มีการลอกเลียนหรือแอบอ้างโดยปราศจากการอ้างอิง หรือทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นผลงานของผู้เขียน กรุณาแจ้งให้กองบรรณาธิการวารสารทราบจะเป็นพระคุณยิ่ง
เอกสารอ้างอิง
Aromkliang, T. and Chatraphorn, S. (2014). Sustainability of local wisdom transferring on Lanna food. Kasetsart Journal Social Science. 35(2): 189-205.
Azavedo, M. (2019). Why Do tourists attend cooking classes? Some indications from Thailand. Academic Journal of Economic Studies, 5(4): 44-51.
Bjork, P. (2016). Local food: A source for destination attraction. International Journal of Contemporary Hospitality Management, 28(1): 177-194
Community Development Office of Chiangrai (2018). Summary of results OTOP Navatiwithi Tourism Community Project, Chiangrai Province. Chiangrai: Provincial Community Development Office of Chiangrai, Community Development Department, Ministry of Interior.
Dathkulchon, J. (2009). Thai set menu. Bangkok: Petchkanruen.
Duangmanee, K. (2021). The cultural heritage of typical Chinese ethnic food in Trang province. Journal of Humanities and Social Sciences Thonburi University, 15(2): 150-162.
Hall, M., Mitchell, R., and Sharples, L. (2003). Consuming places: the role of food, wine and tourism in regional development. In C. M. Hall, B. Cambourne, L. Sharples, N. Macionis, & R. Mitchell (Eds.). Food Tourism Around the World: Development, management and markets. Oxford: Butterworth-Heinemann.
Intakan, W. and Siwnguan, K. (2021). The development of local food recipes to tourism set menus of Bang Krathum district Phitsanulok province. Phetchabun Rajabhat Journal, 23(1): 33-44.
Kaimook, N. and Suwanpratest, O.(2020). From local wisdom to tourist set menu: a case study of Ban Thung Luang Kirimas distinct Sukhothai and Ban Wang Won Srisatchanalai distinct Sukhothai. Journal of Community Development Research (Humanities and Social Sciences), 13(2020): 109-127.
Lertchavalitsakul, B. (2012). Shan Ethnic food: The cultural politics of taste in Chiang Mai City. Journal of Sociology and Anthropology. 31(2): 137-168.
Nitiworakarn, S. (2014). Mon cuisine. Journal of Cultural Approach, 15 (28): 39-58.
Poomdonming, T. (2021). “Mee Ying Hed Pla” a tale of food, home and women’s lives in the Songkhram river basin. The Thai Feminist Review, 8(2): 2-24.
Porter, M. E. (2004). Building the microeconomic foundations of prosperity: Findings from the business competitiveness index. In M. E. Porter, K. Schwab, & X. Sala-i-Martin (Eds.), The global competitiveness report 2003-2004. Oxford: Oxford University Press: 29-56.
Praditsathaporn, C., Doungtip, E., ITiin, N., Pinpu, M. & Wongkinee, W. (2017). Traditional food recipe in Phayao: Inheritance of local wisdom and the nutritional value. Area Based Development Research Journal, 9(4): 297-313.
Sakdadech, S. (2006). Chanthaburi local food. Faculty of Science an Technology. Rambhai Barni Rajabhat University.
Surakarn, C (2011). Nakhorn food culture during the 10th month. Nakhon Si Thammarat Rajabhat University. 26-39.
Wahlqvist , Mark L., Lee, MS. (2007). Regional food culture and development. Asia Pac J Clin Nutr, 16(Suppl 1):2–7.