โรงอาหารในฐานะพื้นที่เรียนรู้ทางสังคมของนักเรียน: มิติใหม่ของการพัฒนาในโรงเรียน
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิชาการนี้มุ่งนำเสนอแนวคิดการพัฒนาโรงอาหารของโรงเรียนให้เป็นพื้นที่เรียนรู้ทางสังคมที่ส่งเสริมการเรียนรู้แบบมีความหมายและหล่อหลอมคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 ผ่านกิจกรรมในชีวิตประจำวัน บนพื้นฐานแนวคิดทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคม ทักษะชีวิต หลักสูตรซ่อนเร้น และสิ่งแวดล้อมเพื่อการเรียนรู้ โดยเสนอให้โรงอาหารทำหน้าที่เป็นบริบทของหลักสูตรซ่อนเร้นที่สะท้อนผ่านกิจวัตรของนักเรียน เช่น การต่อแถว การสื่อสาร การเจรจา และการอยู่ร่วมกันอย่างเคารพความแตกต่าง บทความได้นำเสนอกิจกรรมและแนวปฏิบัติที่ดี
จาก 4 โรงเรียนในประเทศไทย พร้อมข้อเสนอเชิงปฏิบัติ ข้อเสนอเชิงระบบ และข้อจำกัดในการดำเนินงาน ข้อค้นพบสำคัญคือการพัฒนาโรงอาหารให้เป็นพื้นที่เรียนรู้ทางสังคมที่ยั่งยืน จำเป็นต้องอาศัยการออกแบบเชิงระบบที่เชื่อมโยงนโยบายโรงเรียน สภาพแวดล้อม บทบาทบุคลากร และกิจกรรมที่สัมพันธ์กับบริบทชีวิตจริงของผู้เรียน เพื่อพัฒนาทักษะชีวิตและคุณลักษณะอันพึงประสงค์อย่างรอบด้านในบริบทที่สามารถประยุกต์ใช้ได้จริง
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
นโยบายการพิจารณากลั่นกรองบทความ
- บทความวิจัยและบทความวิชาการทุกเรื่องที่จะได้รับการตีพิมพ์ต้องผ่านการพิจารณากลั่นกรองโดยผู้ทรงคุณวุฒิ (Peer Review) ในสาขาที่เกี่ยวข้อง จำนวน 3 ท่าน/บทความ
- บทความ ข้อความ ภาพประกอบและตารางประกอบที่ลงตีพิมพ์ในวารสารเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน กองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยเสมอไป และไม่มีส่วนรับผิดชอบใด ๆ ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียว
- บทความที่จะได้รับการตีพิมพ์จะต้องไม่เคยตีพิมพ์ เผยแพร่ที่ใดมาก่อน และไม่อยู่ระหว่างการพิจารณาของวารสารฉบับอื่น หากตรวจสอบพบว่ามีการตีพิมพ์ซ้ำซ้อน ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียว
- บทความใดที่ผู้อ่านเห็นว่าได้มีการลอกเลียนหรือแอบอ้างโดยปราศจากการอ้างอิง หรือทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นผลงานของผู้เขียน กรุณาแจ้งให้กองบรรณาธิการวารสารทราบจะเป็นพระคุณยิ่ง
เอกสารอ้างอิง
Bandura, A. (1977). Social learning theory. Prentice-Hall.
Fraser, B. J. (2012). Classroom learning environments: Retrospect, context and prospect. In B. J. Fraser,
K. G. Tobin, & C. J. McRobbie (Eds.), Second international handbook of science education (pp. 1191–1239). Springer.
Ifenthaler, D., & Yau, J. Y.-K. (2022). Designing authentic learning experiences for future-ready students. In D. Ifenthaler (Ed.), Digital workplace learning (pp. 99–116). Springer. https://doi.org/10.1007/978-3-031-11200-0_6
Jackson, P. W. (1968). Life in classrooms. Holt, Rinehart & Winston.
Kolb, D. A. (1984). Experiential learning: Experience as the source of learning and development. Prentice Hall.
Office of the National Economic and Social Development Board. (2017). The National Education Plan B.E. 2560–2579 (2017–2036). Office of the Education Council.
Trilling, B., & Fadel, C. (2009). 21st century skills: Learning for life in our times. Jossey-Bass.
UNESCO. (2021). Reimagining our futures together: A new social contract for education. United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization. Retrieved from https://unesdoc.unesco.org/ark:/48223/pf0000379707
UNESCO. (2023). Education for sustainable development: Learning to transform our world. Retrieved from https://unesdoc.unesco.org/ark:/48223/pf0000385230
Vygotsky, L. S. (1978). Mind in society: The development of higher psychological processes. Harvard University Press.
World Health Organization. (1997). Life skills education for children and adolescents in schools (Programme on Mental Health Document WHO/MNH/PSF/93.7A.Rev.2). Retrieved from https://apps.who.int/iris/handle/10665/63552