การจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านฮ่องแฮ่

Main Article Content

ปทุมพร แก้วคำ
นำขวัญ วงศ์ประทุม
อุทุมพร การเก็บ
ศิรินพรรณ ชุ่มอินทจักร
มุกตา นัยวัฒน์
บวรพจน์ หิรัญยรัศมีกุล

บทคัดย่อ

การจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านฮ่องแฮ่ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสถานการณ์และการประเมินศักยภาพการจัดการท่องเที่ยวชุมชนในเทศบาลตำบลแม่สาย เพื่อพัฒนาการจัดการท่องเที่ยวชุมชนในพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษอำเภอแม่สาย เป็นการศึกษาวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมและการวิจัยเชิงสำรวจ ประชากรคือ ชุมชนในบ้านฮ่องแฮ่ จำนวน 344 คน โดยใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบลูกโซ่ หรือหิมะ (Chain or Snow Ball Sampling) และการระดมสมองจากการสัมภาษณ์เป็นกลุ่ม และการประชุมประชาคมหมู่บ้านฮ่องแฮ่ ในการพัฒนาการจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านฮ่องแฮ่ โดยมีผลการวิจัย ดังนี้


     การศึกษาภาพรวมของบ้านฮ่องแฮ่ พบว่า ชุมชนมีศักยภาพในระดับสูง ด้วยทุนทางสังคมเดิม ที่ชุมชนมีความสามัคคีและมีความเข้มแข็งในการร่วมกันพัฒนาชุมชนจนเป็นหมู่บ้านต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียง และยังเป็นหมู่บ้านที่อยู่ในโครงการปลูกผักปลอดสารพิษเพื่อนำส่งให้แก่ศูนย์จักรพันธ์เพ็ญศิริและโครงการหลวง นอกจากนั้นแล้วยังมีหลายโครงการของหมู่บ้าน ที่ได้รับรางวัลจากความสามัคคี ความเข้มแข็งของชุมชนเอง ซึ่งจะนำหมู่บ้านไปสู่ความยั่งยืน อาทิ ธนาคารไข่ หน้าบ้านหน้ามองรั้วกินได้ กิจกรรมปลูกข้าวไรซ์เบอรี่ กลุ่มลูกประคบสมุนไพร การคัดแยกขยะ ศูนย์เรียนรู้เสื่อกก ธนาคารข้าว กลุ่มเลี้ยงไก่กระดูกดำ เป็นต้น เมื่อประเมินศักยภาพการจัดการท่องเที่ยวชุมชน จากแนวคิดองค์ประกอบของการท่องเที่ยว สรุปได้ดังนี้


          1)  สิ่งดึงดูดใจ (Attraction) พบว่า บ้านฮ่องแฮ่มีเอกลักษณ์ของเกษตรผสมผสาน เหมาะแก่การท่องเที่ยวเชิงเกษตร โดยมีจุดที่เหมาะสม ได้แก่ ไก่กระดูกดำ ไก่พื้นเมือง ไก่ไข่ การฮิบยาสมุนไพร  ศูนย์การเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น ผักปลอดสารพิษ เลี้ยงปลา นก กลุ่มผลิตเสื่อกก และนาต้นกก


          2) ความสามารถในการเข้าถึง (Accessibility) พบว่า เส้นทางเข้าหมู่บ้าน จะมีรถสองแถววิ่งทุก 30 นาที โดยเที่ยวแรกตั้งแต่ 05.30 น. เที่ยวสุดท้ายเวลา 17.30 น. และมีบริการวินมอเตอร์ไซด์โดยมีค่าบริการอยู่ที่ 20 - 150 บาท


          3)  สิ่งอำนวยความสะดวก (Amenity) พบว่า ไม่มีร้านอาหาร สถานบันเทิง ธนาคาร ไปรษณีย์ โรงพยาบาล หรือสถานพยาบาลในหมู่บ้าน แต่มีอยู่ใกล้เคียงระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 - 5 นาที


          4)  ที่พักแรม (Accommodation) พบว่า ไม่มีที่พัก โรงแรม รีสอร์ท และเกสท์เฮ้าส์ รวมไปถึงโฮมสเตย์ ในหมู่บ้าน แต่จะมีบริการที่พักแรมห่างออกไปจากหมู่บ้าน ในระยะทาง 5 - 10 กม.ในเขตพื้นที่อำเภอแม่ฟ้าหลวง


          5) กิจกรรม (Activity) พบว่า กิจกรรมที่สามารถจัดขึ้นได้ในชุมชน ได้แก่ การปลูก ทอ ตัด เสื่อกก การดำนา เกี่ยวข้าว สานไม้ไผ่ ทำปุ๋ย ปั่นจักรยาน ตกปลา นวด ประคบ อบยาสมุนไพร กิจกรรมการโยนข้าวไรซ์เบอร์รี่ และยังมีกิจกรรมในพื้นที่ใกล้เคียง ไม่เกิน 15 - 20 กม. ได้แก่ ดูนก ตกปลา Tree Top walk ดอยตุง


          6)  การบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยว (Ancillary) พบว่า ชุมชนขาดการวางแผนทางด้านการตลาด และจัดทำข้อมูลข่าวสาร แต่ในด้านอื่น ๆ อาทิ การวางแผนนโยบาย การอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในชีวิต ชุมชนมีความพร้อมสูง


          ผลจากการพัฒนาการจัดการการท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านฮ่องแฮ่ พบว่า มีการพัฒนาเป็นขั้นตอนโดยชุมชนได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการท่องเที่ยว หลังจากนั้นได้กำหนดขั้นตอนของการพัฒนา โดยวิเคราะห์ศักยภาพของชุมชน และศึกษาดูงานหมู่บ้านต้นแบบ ได้แก่ บ้านสันทางหลวง บ้านท่าขันทอง และดอยสะโง้ อำเภอเชียงแสน เพื่อให้เห็นความแตกต่าง แนวความคิดจากการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ การสนทนา การเสวนาเพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวโดยชุมชน โดยได้นำความรู้และแนวคิดมาพัฒนาการท่องเที่ยวของชุมชนตามแนวทางของบ้านฮ่องแฮ่ซึ่งชุมชนได้คัดเลือก เลือกใช้ศักยภาพของชุมชนกำหนดจุดการศึกษาดูงาน หรือจุดท่องเที่ยว ได้แก่ เกษตรผสมผสาน ฮิบยาสมุนไพร ปรุงยาสมุนไพร การเลี้ยงกระดูกดำ ไม้กวาด การทำลูกประคบ การเลี้ยงปลา เลี้ยงไก่พื้นเมือง กลุ่มจักสาน ศูนย์การเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น โรงสีข้าวประจำหมู่บ้าน กลุ่มเสื่อกก และ จุดสาธิตการทำปุ๋ยหมัก เมื่อกำหนดแล้วได้ทดลองทำรายการนำเที่ยวครึ่งวัน 2 รายการและพัฒนาศักยภาพบุคลากรชุมชน โดยการอบรมพัฒนาการเป็นผู้นำเที่ยวท้องถิ่น อย่างไรก็ตามการพัฒนาศักยภาพทางด้านโฮมสเตย์จะมีการพัฒนาในโครงการต่อไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยที่ชุมชนสามารถรองรับและพัฒนาได้ตามศักยภาพและความพร้อมของตนเอง

Article Details

How to Cite
แก้วคำ ป. . . . ., วงศ์ประทุม น. . . ., การเก็บ อ. . . ., ชุ่มอินทจักร ศ. . ., นัยวัฒน์ ม. . . . ., & หิรัญยรัศมีกุล บ. . . (2020). การจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านฮ่องแฮ่. วารสารวิทยาลัยดุสิตธานี, 12(3), 133–149. สืบค้น จาก https://so01.tci-thaijo.org/index.php/journaldtc/article/view/240953
บท
บทความวิจัย

References

1. Adhikary, Mc.Kinsey. (1995 : 31-33). Management of Ecotourism" Ecotourism : Concept, Design and Strategy. Bangkok : Srinakharinwirot.
2. Customs House. (2558). Trade value report.
3. Jittungwattana Boonlert. (2005). Sustainable tourism development. Bangkok
4. Kruengkrai Pojchanart. (2002). Participation of Local Governments and Communities in the Management of Ecotourism and Cultural Tourism. A Case Study of Pong Ngam Sub-District, Mae Sai District, Chiang Rai Province.
5. Phongsawat Suebphong.(2003). Area Development of Trade and Services in the Mae Sai Border Town Chiang Rai province
6. Sangchot Ratthakorn. (2011). Participation of people in sustainable tourism management in Pai Municipality. Mae Hong Son Province. Chiang Mai University.
7. Sarolbon Sin. (2006). Community Base Tourism : Key Concepts in Managing Community-Based Tourism Research. Bangkok : Wanida place.
8. Sitikarn Bussaba . (1999). Ecotourism? A Case Study in Mae Ta-Man Village, Thailand MSc Thesis School of Planning. England:Oxford Brookes University.
9. Sitthichai Sirivasa. (2007). Tax benefits for the establishment of special economic zones. (Master thesis) Thammasat University, Graduate School, Faculty of Law
10. Suansri Pojchana.(2003). Sustainable Tourism by the Community. Department of Tourism Industry Management Chiang Mai University.
11. Suansri Pojchana.(2011). Community based tourism management. Bangkok: The Life and Nature Tourism Program.
12. Sungchei Thanakrit. (2007). Tourism and Hospitality. (1st edition).Silpakorn University.
13. Thongma Veerapol. (2004). Community Based Tourism. CBT. For improving the quality of life of communities in forest land.
14. Tuancha-am Thanet et al.(2007). Development of Golden Triangle Tourist Attraction for Cultural Security.
15. Tungkhanakorn Satienphong.(2009). Guidelines for the Development of Tourist Attraction in Mae Sai District, Mae Sai District, Chiang Rai Province.