การคุ้มครองผู้เสียหายในคดีข่มขืนกระทำชำเราในชั้นสอบสวน

Main Article Content

พรไพลิน สุทธิสวาท
วริยา ล้ำเลิศ

บทคัดย่อ

ในปัจจุบันคดีอาชญากรรมประเภทคดีข่มขืนกระทำชำเราได้มีการพัฒนาที่สลับซับซ้อนทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นและไม่จำกัดเพศในการตกเป็นผู้เสียหายในคดีข่มขืนกระทำชำเรา ทำให้มีผู้ตกเป็นผู้เสียหายมากขึ้น ผู้ตกเป็นผู้เสียหายในคดีข่มขืนกระทำชำเรามีผลต่อผู้เป็นเหยื่อทั้งทางร่างกายและจิตใจและเมื่อผู้เสียหายไปร้องทุกข์พนักงานสอบสวน ซึ่งในประเทศไทยนั้นกระบวนการในการสอบสวนของพนักงานสอบสวนโดยวิธีการสอบถามปากคำผู้เสียหายในคดีข่มขืนกระทำชำเรานั้นวิธีการในการสอบสวนเหมือนกับการสอบถามปากคำผู้เสียหายในคดีอาชญากรรมทั่วๆไป ทำให้ผู้เสียหายในคดีข่มขืนกระทำชำเรารู้สึกเหมือนตกเป็นเหยื่อซ้ำ สอง (revictimization) สAงผลต่อความรู้สึกทางจิตใจมากขึ้นประเทศไทยมีการให้ความคุ้มครองผู้เสียหายในคดีความผิดเกี่ยวกับเพศตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 133 ทวิ แต่ นมาตรานั้นให้ความคุ้มครองเฉพาะกรณีที่ผู้เสียหายมีอายุไม่เกินสิบแปดปีในการสอบถามปากคำของพนักงานสอบสวนตามข้อบังคับของกฎหมายจะมีนักจิตวิทยา หรือนักสังคมสงเคราะห์ ร่วมอยู่ในการสอบถามปากคำ แต่ในการสอบถามปากคำผู้เสียหายที่มีอายุสิบแปดปีขึ้นไปในคดีข่มขืนกระทำชำเรากลับไม่ได้รับความคุ้มครองให้มีนักจิตวิทยาหรือนักสังคมสงเคราะห์ร่วมอยู่ด้วยในการสอบถามปากคำของพนักงานสอบสวนเพราะถึงแม้ว่าผู้เสียหายในคดีข่มขืนกระทำชำเราจะเป็นเพศใดเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นก็ย่อมถือเป็นผู้เสียหายที่มีภาวะจิตใจอ่อนแอ (Yulnerable victim) ที่ควรได้รับการคุ้มครองที่แตกต่างไปจากผู้เสียหายในคดีอาชญากรรมแบบทั่วไปก็ตามและการแก้ไขในการสอบถามปากคำผู้เสียหายที่มีอายุสิบแปดปีขึ้นไปให้พนักงานสอบสวนสอบถามปากคำผู้เสียหายโดยให้มีนักจิตวิทยาหรือนักสังคมสงเคราะห์ร่วมอยู่ ด้วยกับผู้เสียหายในการสอบสวน เพื่อมให้ผู้เสียหายรู้สึกไม่สบายใจในบางคำถามท่พี นักงานสอบสวนได้สอบถามปากคำถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อตัวของผู้เสียหาย ด้วยเหตุนี้หากการสอบถามปากคำของพนักงานมีการกระทำที่มิทำให้ผู้เสียหายเกิดความกระทบกระเทือนใจมากขึ้น ก็ทำให้ผู้เสียหายรู้สึกมั่นใจและเข้ามาฟ`องร้องดำเนินคดีต่อ

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

1. จรัญ โฆษณานันท์. (2545). สิทธิมนุษยชนไรพรมแดน: ปรัชญา กฎหมาย และความเป็นจริงทางสังคม. กรุงเทพฯ : นิติธรรม.
2. กฤตยา อาชวนิจกุล และคณะ. (2546). ความรุนแรงในชีวิตคู่กับสุขภาพผู้หญิง.นครปฐม : สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล.
3. อุดม รัฐอมฤต, นพนิธิ สุริยะ และบรรเจิดสิงคะเนติ. (2544). การอ่างศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และเสรีภาพของบุคคลตามมาตรา 28. กรุงเทพฯ : สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ.
4. บรรเจิด สิงคะเนติ. (2543). หลักพื้นฐานของสิทธิเสรีภาพและ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 กรุงเทพฯ: วิญญูชน.
5. วรพจน์ วิศรุต. (2543). สิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญแหjงราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2540. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: วิญญูชน.